เตือนสาวอยากสวยต้องระวังเครื่องสำอางส่วนตัวไม่ปะปนติดเชื้อ
แพทย์ผิวหนังร้องเตือนผู้หญิงอยากสวยด้วยเครื่องสำอาง
ต้องทำความสะอาดฟองน้ำผัดหน้า และควรใช้เป็นส่วนตัว ส่วนเครื่องสำอางใช้กับตายิ่งต้องระวังมากขึ้น หากใช้ปนกับคนอื่นอาจติดเชื้อโรคจากแบคทีเรียหรือไวรัสได้
ศ.นพ.ปิติ พลังวชิรา ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนัง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึง
การใช้เครื่องสำอางของผู้หญิงปัจจุบันว่า อุปกรณ์เครื่องสำอางทุกชิ้นจะต้องสะอาดและควรใช้ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นแป้งฝุ่น แป้งแข็ง แป้งทูเวย์ สำหรับพัฟที่เป็นฟองน้ำเล็กๆไว้ใช้ผัดหน้านั้น ควรจะทำความสะอาดบ่อยๆ
เพราะหากไม่ทำความสะอาดจะเกิดเชื้อราขึ้นที่พัฟ
และเมื่อนำมาแตะแป้งเพื่อทาหน้าจะเกิดติดเชื้อได้ ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยไม่เคยล้างทำความสะอาดพัฟ และไม่เคยรู้ว่าพัฟที่ตัวเองใช้อยู่เป็นประจำเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค การทำความสะอาดพัฟนั้น ควรจะทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อน จากนั้นก็นำผึ่งลมรอให้แห้ง
ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนัง มศว กล่าวด้วยว่า
นอกจากนี้แล้วยังมีเครื่อง สำอางที่เกี่ยวข้องกับดวงตา อย่างอายแชร์โด อายไลเนอร์ มาสคาร่า หรือแม้กระทั่งครีมบำรุงผิวรอบดวงตา ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การใช้เครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตา เปลือกตา ขอบตา ซึ่งเป็นผิวหนัง ที่บอบบางควรจะพิถีพิถัน และไม่ควรใช้ของคนอื่นอย่างเด็ดขาด อาจจะติดเชื้อโรคอย่างแบคทีเรียหรือไวรัสได้ แม้กระทั่งที่ดัดขนตา ที่นิยมดัดขนตากันมาก แต่บางคนไม่รู้ตัวว่าตนเองแพ้โลหะ
ส่วนอาการที่เกิดจากอาการแพ้และระคายเคือง
เมื่อใช้เครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาหรือเปลือกตา จะเริ่มจากอาการคัน บวม และมีตุ่มน้ำใสๆเกิดขึ้นบริเวณผิวหนังรอบดวงตา หากเกิดอาการดังกล่าวควรจะหยุดใช้เครื่องสำอาง และรีบไปพบแพทย์ทันที
อาการแพ้ที่พบในผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมี 2 ลักษณะ
คือ เกิดจากการระคายเคืองจากการสัมผัส ส่วนใหญ่เกิดจากสารเคมีที่มีอยู่ในเครื่องสำอาง และภูมิแพ้สัมผัส เกิดจากปฏิกิริยาอิมมูนที่เกิดจากเม็ดเลือดขาวทำปฏิกิริยากับสารเคมี แต่อาการภูมิแพ้ สัมผัสมิได้เกิดกับทุกคนได้ง่าย
ดังนั้น คนที่ใช้เครื่องสำอางต้องรู้เท่าทัน
และสังเกตตัวเองว่าแพ้อะไร หากมาพบแพทย์ทางผิวหนังจะใช้วิธี Patch test ทดสอบว่าผิวหนังแพ้สารเคมีหรือแพ้โลหะอะไรบ้าง ศ.นพ.ปิติกล่าว.
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ