นมัสการพระบาทหลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี


เขาคิชกุฏ จันทบุรี นมัสการพระบาทหลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี

เที่ยวเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี (พระบาทพลวง ) ประจำปี 2554 วันบวงสรวง 2 ก.พ 2554 เปิดเป็นทางการ 4 ก.พ 2554 – 4 เมษา 2554
ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวขึ้นชมยอดเขาพระบาทเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท ชมทิวทัศน์ และหินรูปร่างแปลกตาต่าง ๆ
พระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทหลวง)  จันทบุรี
บนยอดเขาคิชฌกูฏ ที่อยู่สูงเทียมเมฆนั้น  เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่า 1,050 เมตรจากระดับน้ำทะเล  ซึ่งสูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ  จังหวัดจันทบุรี  ทุกๆปีในช่วงที่เปิดให้มีการขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทนั้น จะมีพุทธศาสนิกชนจาริกแสวงบุญมายังยอดเขาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก  เพื่อมาสักการะแผ่นหินซึ่งเชื่อว่าพระพุทธองค์ทรงมาประทับรอยพระบาทไว้  ด้วยความศรัทธาและความเชื่อในอานิสงส์ที่แรงกล้าว่าการได้นมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ถือเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัวและชีวิต
รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ  มีลักษณะเป็นรอยบนหินแผ่นใหญ่  มีรอยบุ๋มลึกประมาณ  2  เมตรเศษ  กว้าง 1 เมตร ยาว 2  เมตร  ค้นพบที่ยอดเขาพระบาทห่างจากที่ทำการอุทยานเขาคิชฌกูฏราว 4 กม. และต้องเดินเท้าไปสู่ยอดเขาอีกราว 3 กม.  มีประวัติว่ารอยพระพุทธบาทนี้ได้ค้นพบโดยนายพรานหาของป่า  ที่เดินขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏเมื่อปี พ.ศ.2397  ซึ่งได้พบกับแหวนนาคขนาดใหญ่  และแผ่นหินที่มีรูปก้นหอยเหมือนรอยเท้าและได้แจ้งให้กับหลวงพ่อเพชรเจ้าคณะจังหวัดทราบ  เมื่อตรวจสอบดูก็พบรอยพระพุทธบาทนั้นจริงชาวบ้านต่างก็พากันขึ้นมานมัสการจนกลายเป็นประเพณีสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้
ในบริเวณยอดเขาคิชฌกูฏนั้นยังมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติต่างๆ  ที่เชื่อมโยงกับตำนานและความเชื่อทางพระพุทธศาสนา  เช่นก้อนหินขนาดใหญ่มีรูปคล้ายกับบาตรพระคว่ำ  ใกล้กับหินรูปรอยพระพุทธบาท ศิลาเจดีย์รอยพระหัตถ์  รอยเท้าพญามาร  ถ้ำฤๅษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่า และช้างขนาดยักษ์เป็นต้น
เดิมทีนั้นพระพุทธบาทแห่งนี้เป็นที่รู้จักอีกชื่อว่าพระบาทพลวง  แต่ในปี พ.ศ.2515 พระครูธรรมสรคุณผู้เป็นหลักในการพัฒนาพระบาทพลวง  ได้เสนอให้นำชื่อของเขาคิชฌกูฏจากพุทธประวัติมาใช้เป็นชื่อของภูเขาที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์  ซึ่งคันธกุฎีเคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าในอดีต  และตั้งอยู่บนยอดเขานั้นมาใช้  เพื่อเป็นที่รำลึกถึงพระองค์และแสดงถึงความเจริญในพระพุทธศาสนาอย่างสูงส่งของประเทศไทย
สถานที่ตั้ง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ   ต.พลวง  กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
ความเชื่อและวิธีการบูชา
เชื่อกันว่าการได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏนั้น  เปรียบได้กับการได้เข้าเฝ้าองค์พระศาสดาถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่  ประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง  และสำหรับผู้ทีมีความเดือดเนื้อร้อนใจนั้น  หากได้มาตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากรอยพระพุทธบาทแล้ว  ความทุกข์กาย หรือความร้อนใจนั้นจะมลายสิ้นไป
เทศกาลงานประเพณี
การเปิดให้ขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) จะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ประมาณปลายเดือนมกราคม – เดือนมีนาคม รวมระยะเวลา  2  เดือน
วันและเวลาเปิด – ปิด
เนื่องจากไม่ได้เปิดให้นมัสการได้ตลอดปี  ควรสอบถามรายละเอียดจากอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ก่อนทุกครั้ง
โทรศัพท์  : กองอุทยานแห่งชาติ  กรมป่าไม้  โทร. 0 2579 0529 , 0 2579 484

เที่ยวเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี (พระบาทพลวง ) ประจำปี 2554 วันบวงสรวง 2 ก.พ 2554 เปิดเป็นทางการ 4 ก.พ 2554 – 4 เมษา 2554


นมัสการพระบาทหลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี


            บนยอดเขาคิชฌกูฏ ที่อยู่สูงเทียมเมฆนั้น  เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่า 1,050 เมตรจากระดับน้ำทะเล  ซึ่งสูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ  จังหวัดจันทบุรี  

ทุกๆปีในช่วงที่เปิดให้มีการขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทนั้น จะมีพุทธศาสนิกชนจาริกแสวงบุญมายังยอดเขาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก  เพื่อมาสักการะแผ่นหินซึ่งเชื่อว่าพระพุทธองค์ทรงมาประทับรอยพระบาทไว้  ด้วยความศรัทธาและความเชื่อในอานิสงส์ที่แรงกล้าว่าการได้นมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ถือเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัวและชีวิต

             
รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ  มีลักษณะเป็นรอยบนหินแผ่นใหญ่  มีรอยบุ๋มลึกประมาณ  2  เมตรเศษ  กว้าง 1 เมตร ยาว 2  เมตร  ค้นพบที่ยอดเขาพระบาทห่างจากที่ทำการอุทยานเขาคิชฌกูฏราว 4 กม. และต้องเดินเท้าไปสู่ยอดเขาอีกราว 3 กม.  มีประวัติว่ารอยพระพุทธบาทนี้ได้ค้นพบโดยนายพรานหาของป่า  ที่เดินขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏเมื่อปี พ.ศ.2397  ซึ่งได้พบกับแหวนนาคขนาดใหญ่  และแผ่นหินที่มีรูปก้นหอยเหมือนรอยเท้าและได้แจ้งให้กับหลวงพ่อเพชรเจ้าคณะจังหวัดทราบ  เมื่อตรวจสอบดูก็พบรอยพระพุทธบาทนั้นจริงชาวบ้านต่างก็พากันขึ้นมานมัสการจนกลายเป็นประเพณีสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้

ในบริเวณยอดเขาคิชฌกูฏนั้นยังมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติต่างๆ  ที่เชื่อมโยงกับตำนานและความเชื่อทางพระพุทธศาสนา  เช่นก้อนหินขนาดใหญ่มีรูปคล้ายกับบาตรพระคว่ำ  ใกล้กับหินรูปรอยพระพุทธบาท ศิลาเจดีย์รอยพระหัตถ์  รอยเท้าพญามาร  ถ้ำฤๅษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่า และช้างขนาดยักษ์เป็นต้น

เดิมทีนั้นพระพุทธบาทแห่งนี้เป็นที่รู้จักอีกชื่อว่าพระบาทพลวง  แต่ในปี พ.ศ.2515 พระครูธรรมสรคุณผู้เป็นหลักในการพัฒนาพระบาทพลวง  ได้เสนอให้นำชื่อของเขาคิชฌกูฏจากพุทธประวัติมาใช้เป็นชื่อของภูเขาที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์  ซึ่งคันธกุฎีเคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าในอดีต  และตั้งอยู่บนยอดเขานั้นมาใช้  เพื่อเป็นที่รำลึกถึงพระองค์และแสดงถึงความเจริญในพระพุทธศาสนาอย่างสูงส่งของประเทศไทย

สถานที่ตั้ง
 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ   ต.พลวง  กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี


ความเชื่อและวิธีการบูชา

เชื่อกันว่าการได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏนั้น  เปรียบได้กับการได้เข้าเฝ้าองค์พระศาสดาถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง  และสำหรับผู้ทีมีความเดือดเนื้อร้อนใจนั้น  หากได้มาตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากรอยพระพุทธบาทแล้ว ความทุกข์กาย หรือความร้อนใจนั้นจะมลายสิ้นไป

เทศกาลงานประเพณี

การเปิดให้ขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) จะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ประมาณปลายเดือนมกราคม – เดือนมีนาคม รวมระยะเวลา  2  เดือน

วันและเวลาเปิด – ปิด

เนื่องจากไม่ได้เปิดให้นมัสการได้ตลอดปี  ควรสอบถามรายละเอียดจากอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ก่อนทุกครั้ง


โทรศัพท์  : กองอุทยานแห่งชาติ  กรมป่าไม้  โทร. 0 2579 0529 , 0 2579 484



นมัสการพระบาทหลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี


นมัสการพระบาทหลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี


นมัสการพระบาทหลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี


นมัสการพระบาทหลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี


นมัสการพระบาทหลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี


นมัสการพระบาทหลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์