วาเลนไทน์นี้ วัยโจ๋ ตั้งสติเรื่อง เซ็กส์ๆ ด้วยเพศสัมพันธ์ หว่างหู
เมื่อวันวาเลนไทน์มาถึง คำถามที่หลายคนอดหวั่นใจไม่ได้ก็คือ ทำอย่างไรให้ความรักของคนวัยหนุ่มสาว
ไม่ทำลายชีวิตวัยทีนเพียงชั่วข้ามคืน โดยเฉพาะการเปิดฉากชีวิตการศึกษาที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในอนาคต
สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) จึงถือโอกาสแบ่งปันบทเรียนชีวิตวัยทีน ผ่านการเรียนการสอนสุดฮิปที่เปลี่ยนเรื่องเพศศึกษาให้เป็นเรื่องเปิดเผยและเข้าถึงได้ง่ายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กและเยาวชน
อาจารย์นคร สันธิโยธิน อาจารย์สอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสวนกุหลาบ เล่าว่าใกล้ถึงวันวาเลนไทน์อยากให้เด็กทุกคนมีสติ เพราะสติมาปัญญาเกิด และไม่เชื่อว่าเด็กทุกคนออกจากบ้านเพื่อต้องการจะมามีเซ็กส์ เพราะทุกอย่างสถานการณ์จะพาไป
"หากเราตั้งสติทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้น โดยโรงเรียนสวนกุหลาบได้เตรียมพร้อมให้วิธีคิด มีข้อมูล มีวิดีโอเรื่อง “ท้อง แท้ง ทิ้ง” ให้ดูเพื่อเตือนสติเด็ก พร้อมทั้งชวนเด็กคุยเพื่อให้เด็กมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่ดู พร้อมทั้งให้กำลังใจว่าทุกคนมีสิทธิ์พลาด มีคำพูดที่สร้างสรรค์คิดถึงความรู้สึกโดยไม่ซ้ำเติม ไม่ตอกย้ำ บอกให้เด็กคิดในทางที่ดี อย่างไรก็ตาม จากสภาวะการที่พบว่า มักจะเป็นการชักจูงกันไปมีเพศสัมพันธ์โดยหมู่เพื่อน หาสิ่งใหม่ๆ ข้างนอกโรงเรียน ดังนั้นบทเรียนที่จะเข้าไปสกัดพฤติกรรมคือจะเน้นการรักนวลสงวนตัว เพื่อให้เขารู้ทุกอย่างก่อนตัดสินใจว่าจะรักนวลสงวนตัวหรือไม่ ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นช่วงการปฏิเสธการมีเซ็กส์ แต่หากเด็กมีเซ็กส์แล้วก็จะต้องมีเซ็กส์ที่ปลอดภัย หรือเซฟเซ็กส์" อ.นครกล่าว
นอกจากนี้ อาจารย์นคร ยังได้เล่าถึงวิธีการสอนเรื่องเพศศึกษา ผ่านกิจกรรม "ดูแลไข่ต้มของผมเอง" โดยสมมติให้ไข่ต้มเป็นลูกของเด็กๆ มาเป็นวิธีสื่อให้นักเรียนเข้าใจถึงภาระแสนสาหัสในการเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่ ตั้งแต่ลูกลืมตามาดูโลกก็จะไม่มีวันหยุดทำหน้าที่ได้แม้แต่วินาทีเดียว เหมือนกับการที่นักเรียนต้องพกไข่ไว้ใกล้ตัวในทุกสถานที่ตลอด 8 วันเต็ม จากนั้น จึงดึงประสบการณ์ตรงนี้มาสอนให้เด็กคิดตามว่า ถ้าเขาเป็นพ่อคนเมื่อไหร่ก็ต้องคอยตอบคำถามผู้คน ต้องคอยดูแลลูกทุกที่ทุกเวลา ซึ่งยากกว่าการดูแลไข่หลายเท่า และไม่ว่าลูกจะเลวอย่างไรเหมือนไข่ที่เน่า ก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเขา เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่พร้อมสำหรับภาระอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ก็ยังไม่ควรชิงสุกก่อนห่าม
"กิจกรรมนี้เป็นการสอนทัศนคติทางเพศที่ถูกต้องให้แก่เด็ก ซึ่งจะช่วยชะลอการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และเราต้องเข้าใจว่าเด็กวัยนี้อยากรู้ อยากโต อยากโชว์ อยากช่วย ต้องให้เขารู้เรื่องเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่สำคัญตรงหว่างขา แต่เป็นระหว่างหู นั่นคือ สมอง ที่ต้องรู้จักฟังและคิดตาม การสอนวิชาเพศศึกษาไม่ได้เน้นป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ของกลุ่มวัยรุ่น แต่เราต้องให้ข้อมูลในเชิงสุขภาวะทางเพศอย่างรอบด้าน เพราะตอนนี้มีเชื้อเอดส์ระยะที่ 2 ที่น่ากลัวนั่นคือหนองในเทียม"
ด้านคุณครูมุก มัลลิกา วิเชียรดี โรงเรียนบ้านห้วยหัน จ.ชัยภูมิ ซึ่งมักจะสอดแทรกการสอนเพศศึกษาระหว่างการสอนคณิตศาสตร์แก่เด็กนักเรียน ม.2-3 แม้ว่าตนจะเป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ แต่เวลาพูดหรือสอนเรื่องเพศศึกษาระหว่างคาบนั้นเด็กทุกคนก็จะอมยิ้ม
"ครูมักจะนำเรื่องเพศศึกษามาเล่าให้นักเรียนฟังระหว่างการให้ทำแบบฝึกหัด ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเรียนคณิตศาสตร์ เน้นให้นักเรียนรู้จักคุณค่าของตนเองโดยเฉพาะนักเรียนหญิง และผู้ชายก็ต้องให้เกียรติผู้หญิง ให้มีแฟนได้ แต่ต้องอยู่ในความดูแลของครู ผู้ปกครอง อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ และช่วยกันในเรื่องการเรียน รู้จักการรอคอย เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน หากนักเรียนคบกับผู้ชายคนไหน หากเขาจับมือได้ง่าย เขาก็อยากกอดเอว เขาก็ต้องการจับหน้าอก สุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น ให้นักเรียนตอบครู และให้นักเรียนตอบว่า สุดท้ายใครเสียใจเป็นคนแรก"
ครูมุกยังเล่าอีกด้วยว่า "เมื่อถามนักเรียนถึงเรื่องการดูหนังเอ็กซ์ ก็จมีนักเรียน ที่ไม่ยอมรับ อายก้มหน้า และนักเรียนที่กล้ายกมือว่า ผมดูครับ ฉะนั้นในฐานะครูเราก็ต้องพยายามอธิบายให้นักเรียนเข้าใจถึงเรื่องอารมณ์ โดยอธิบายให้เขาฟังว่าเป็นเรื่องปกติ กระทั่งครูก็มี เธอมีอารมณ์ก็ไม่แปลก แต่ต้องให้เหมาะสมกับวุฒิภาวะของตน แนะนำให้นักเรียนออกกำลังกาย เพื่อลดความหมกมุ่น โดยที่เราจะสอนแบบติดตลก และเน้นการพูดให้นักเรียนฟังบ่อยๆถึงผลเสียของการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเรียนหรือก่อนวัย ให้รู้จักรักและเห็นคุณค่าตัวเอง ซึ่งการสอนเรื่องเพศไม่ใช่เป็นการชี้โพรง แต่เป็นการให้ความรู้และเตือนสติเด็กก่อนทำ" ครูมุกกล่าวทิ้งท้าย
เด็กและเยาวชนอยู่ในภาวะเปราะบางต่อการตั้งท้องไม่พร้อม ถูกกระทำรุนแรงทางเพศ การติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ รวมถึงเอดส์ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะสม พร้อมกับการสื่อสารที่เปิดเผยเป็นกันเอง อย่างน้อยๆให้พวกเขาก็รู้จักป้องกันตัวก็ถือเป็นก้าวแรกที่น่ายินดี