● 6 พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง .. ไม่ว่าเดทแรกหรือเดทไหนๆ ●

การเป็นตัวของตัวเองโดยไม่ปิดบัง เป็นเรื่องที่ควรทำ ถูกต้องแล้ว แต่ก็ไม่ต้องเปิดเผยตัวตนของตัวเองซะเต็มที่จนอีกฝ่ายตกใจแล้วเผ่นไปซะก่อนล่ะ ภาษาหรือคำพูดที่แสดงถึงความใกล้ชิดสนิทสนมอาจเหมาะสมกับการใช้กับกลุ่มเพื่อนมากกว่าคนรัก เก็บคำเหล่านี้ไว้ใช้ที่อื่นดีกว่า พอเวลาเป็นแฟนกันแล้วจะหลุดนิดหลุดหน่อยคงไม่น่าเกลียดเท่าหลุดออกมาซะชุดใหญ่ตั้งแต่เริ่มต้นใช่ไหม

แต่งหน้าตลอดเวลา

อยากบอกคุณผู้หญิงทุกคนนะว่า ไม่ใช่ว่าผู้ชายไม่ชอบคนสวยนะ แต่ทุกอย่างขอให้อยู่ในความพอดี เข้าใจว่าเดทแรกต่างฝ่ายต่างอยากให้คู่เดทของตนรู้สึกประทับใจ แต่การหยิบกระจกขึ้นมาแต่งหน้าทาปากทุกห้านาทีมันออกจะเกินไป ผู้ชายไม่ได้ต้องการมาเดทกับนกหงส์หยกนะ นอกจากคุณผู้หญิงจะแต่งหน้าทาปากแล้ว สมัยนี้คุณผู้ชายก็ใช่ย่อยนะ หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น การใช้แป้งทารองพื้นแอบมีให้เห็นกันอยู่ ถ้าไม่อยากให้คู่เดทของคุณเข้าใจว่าคุณเป็นเพื่อนสาวของเธอล่ะก็ อย่าหยิบอุปกรณ์เหล่านี้ขึ้นมาเด็ดขาดเลยครับ จะทาก่อนออกจากบ้านหรือทาตอนเข้าห้องน้ำก็อีกเรื่อง เวลาเป็นแฟนกัน รู้จักกันมากขึ้น ผู้หญิงจะเข้าใจและยอมรับมากกว่าในเดทแรก

กิริยาซกมกต่างๆ

อีกกิริยาที่แสดงความเป็นตัวตนที่ไม่ควรแสดงต่อหน้าคู่เดทของคุณ แคะขี้มูก แคะขี้ฟัน จามหรือหาวโดยไม่ปิดปาก ขยับกางเกงในที่เข้าวิน สะบัดคอ เรอ ผายลม เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งนอกจากจะดูไม่ดีในสายตาคนที่พบเห็นแล้ว คู่เดทของคุณคงตะลึงจนตาค้างกับสิ่งที่คุณทำเลยล่ะ ในความคิดของบางคนอาจคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งปรกติที่คนทุกคนทำกันไม่เห็นจะใช่เรื่องเสียหายอะไรเลย ไม่เถียงว่าทุกคนทำกัน แต่ก่อนหรือหลังเป็นแฟนกันล่ะ ถ้าคุณอยากชนะใจเค้าก็ควรเก็บอาการเหล่านี้ไว้ก่อน ไม่ได้บอกว่าให้สร้างภาพเพื่อเรียกคะแนน ต่อให้เป็นแฟนกันแล้วกิริยาเหล่านี้ก็ควรเก็บไว้ทำตอนอยู่คนเดียวดีกว่า

มารยาทบนโต๊ะอาหาร

จากกิริยาซกมกต่างๆที่ทำให้คุณอาจเสียคะแนนได้ มาถึงมารยาทบนโต๊ะอาหารที่คุณควรระวัง ไม่ว่าจะเป็นการกินมูมมาม กินเสียงดัง กินเลอะเทอะ นอกจากไม่น่าดูแล้วยังบ่งบอกถึงการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัวคุณด้วย คุณคงไม่อยากให้คู่เดทคุณแอบบ่นถึงครอบครัวคุณในใจหรอกนะ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือเลือกอาหารที่ทานง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่กระเด็นเลอะเทอะ หลีกเลี่ยงพวกเส้นๆ หรือกระดูกๆทั้งหลายเป็นการดี

ขี้คุย ขี้อวด ขี้โม้ พูดมากไม่เป็นผู้ฟังที่ดี

รู้ว่าคนทุกคนอยากให้คู่เดทประทับใจ พื้นฐานของการสนทนาคือมีผู้พูดและผู้ฟัง เพื่อให้เกิดความสมดุลจึงควรมีการสลับบทบาทของการเป็นทั้งผู้พูดและผู้ฟังในคนๆเดียวกัน คงไม่มีใครอยากนั่งเป็นผู้ฟังอยู่ฝ่ายเดียวเพราะมันแสดงถึงความไม่ใส่ใจของคุณที่เอาแต่พูดแต่เรื่องของตนโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะคิด จะพูดอะไร นอกจากเรื่องของการสลับบทบาทของการเป็นผู้พูดแล้ว ยังมีเรื่องของบทสนทนาที่ใช้คุยกันด้วย ความต้องการที่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกดีกับคุณคงไม่พ้นการคุยแต่เรื่องดีๆของตนเอง แต่ทุกอย่างต้องมีความเหมาะสมและพอดีมากเกินไปจะกลายเป็นการขี้คุย ขี้อวด ขี้โม้ ไม่มีใครชอบหรอก

หัวข้อที่ควรหลีกเลี่ยง

ต่อเนื่องมาจากเรื่องของการคุย สิ่งที่ควรพึงระวังไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูงหรือคนในครอบครัวคือเรื่องของความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันจนเป็นสาเหตุของการทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้นที่เห็นกันอยู่ในบ้านเมืองของเรา หัวข้อเกี่ยวกับศาสนาและการเมืองจึงเป็นหัวข้อที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อใช้เป็นประเด็นในการพูดคุย ถ้าคิดตรงกันคงไม่เป็นปัญหาแต่ถ้าคิดต่างนี่สิ เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องคนนอกจะกลายเป็นเรื่องคนใน เรื่องของความคิดคงห้ามหรือบังคับให้คนอื่นคิดตรงกันกับเราได้ อยากให้คิดเสมอว่า “แตกต่างแต่ไม่แตกแยก” เป็นการดีที่สุด

          มีคุณผู้อ่านท่านไหนเผลอไผลทำพฤติกรรมเหล่านี้กับคู่เดทของคุณบ้างรึเปล่า เรื่องเหล่านี้บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่เห็นต้องใส่ใจ มันมีผลต่อการออกเดทจริงหรือ อยากให้คิดในอีกมุมมองว่าการออกเดทคือจุดเริ่มต้นของการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวของคนทั้งสองคน ถ้าแค่เจอกันครั้งแรกก็รู้สึกไม่ประทับใจในกันและกันแล้ว มันจะมีเดทต่อไปให้คุณได้มีโอกาสศึกษาดูใจกันเหรอครับ คนเราต่างต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตัวเอง การมองหาข้อผิดพลาดหรือข้อเสียของอีกฝ่ายคือสิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่ทำเวลาหาคู่ ถ้ารู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำก็อย่าพลาดอีกแล้วกัน