ภัยร้ายจากไอที
ชีวิตประจำวันเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์การสื่อสารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งโทร ศัพท์มือถือ ไอโฟน ไอแพด แบล็กเบอร์รี่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เหล่านี้หากใช้เป็นเวลานานๆ จะก่อให้เกิดผลกระทบกับระบบกล้ามเนื้อ เช่น ชาที่มือ อันเกิดจากท่าทางการใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น บีบี ไอโฟน ทำ ให้เกิดการกดทับหลอดเลือดและเส้นประสาทบริเวณข้อมือ การแนบโทรศัพท์มือถือที่หูเป็นเวลานานๆ ทำให้ปวดศีรษะเรื้อรัง ปวดศีรษะข้างเดียวหรือไมเกรน การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันหลายชั่วโมง อาจก่อให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า และหลัง รวมทั้งปวดตา ตาพร่า
แพทย์อายุรเวท วิภาพร สายศรี จากคลินิกรักษาโรคปวดศีรษะด๊อกเตอร์แคร์ กล่าวว่า ลักษณะเชิงกายภาพของคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ เมื่อใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ เกิดการใช้กล้ามเนื้อซ้ำๆ เป็นเวลานาน ทำให้เกิดการเกร็งตัวสะสมของกล้าม เนื้อจนเกิดเป็น Trigger Point การพักผ่อนและการบริหารกล้ามเนื้ออย่างถูกวิธีเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการบรรเทาอาการ และชะลอการเกิดอาการปวดเรื้อรัง แต่กรณีที่อาการปวดเรื้อรังอยู่ในระดับที่รบกวนการทำกิจกรรมตามปกติ การรักษาที่เรียกว่า Trigger Point Therapy เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ
วิธีการรักษาแบบ Trigger Point Therapy เป็นการคลายกล้ามเนื้อส่วนบนของมัดกล้ามเนื้อที่เป็นปัญหา และสลายจุด Trigger Point ที่เกิดจากการเกร็งตัวสะสมของมัดกล้ามเนื้อส่วนล่าง เมื่อจุด Trigger Point คลายออกจนเป็นกล้ามเนื้อปกติ การอักเสบของกล้ามเนื้อดีขึ้น อาการปวดเรื้อรังก็จะดีขึ้นและหายดีในที่สุด
เทคนิคการบริหารกล้ามเนื้อคอ เพื่อคลายความตึงเครียดระหว่างนั่งปฏิบัติงาน
ท่าที่ 1 หันศีรษะไปทางซ้ายช้าๆ ใช้มือซ้ายช่วยดึงค้างไว้นับ 1-10 วินาที จากนั้นสลับทำด้านขวา
ท่าที่ 2 ก้มศีรษะพยายามให้คางชิดอกมากที่สุด ค้างไว้ 10 วินาที
ท่าที่ 3 เงยหน้าขึ้นช้าๆ ไปด้านหลังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ค้างไว้ 10 วินาที
ท่าที่ 4 เอียงศีรษะไปทางด้านขวา ใช้มือขวาช่วยดึง พยายามให้ศีรษะชิดไหล่มากที่สุด ค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นสลับทำด้านซ้าย
ท่าที่ 5 หันศีรษะไปทางด้านซ้าย 45 องศา ใช้มือขวาช่วยดึงพร้อมก้มลงช้าๆ ให้มากที่สุดค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นสลับทำด้านขวา