สวย เพราะ ธรรมะ
เมื่อพูดถึงเรื่องสวย ๆ งาม ๆ แล้ว ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องของผู้หญิง เพราะผู้หญิงจะห่วงเรื่องความสวยงามมากกว่าผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลผิวพรรณทั้งผิวหน้าและผิวกายให้ดูสดใสอ่อนกว่าวัย ให้นุ่มนวลอยู่เสมอไม่หยาบกร้าน ไม่มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ตลอดจนเครื่องประดับตกแต่งร่างกาย เสื้อผ้าอาภรณ์ รองเท้า กระเป๋า ทรงผม เครื่องสำอางค์ราคาแพง ขายดิบขายดี เพราะผู้หญิงยินดีจะซื้อมาใช้เพื่อชะลอความแก่ เพื่อคงความงามเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือแม้แต่ยอมเจ็บตัว เพื่อทำศัลยกรรม เสริมแต่งจมูก เสริมหน้าอก ฯลฯ
ผู้หญิงที่รักสวยรักงามนี้ เธอสวยไปเพ่ือใคร ถ้าไม่ใช่เพราะ เพื่อให้ผู้ชายชื่นชมความงาม อย่าบอกนะ ว่าสวยเพื่อตัวเอง เพราะว่าตัวเองนั้น ไม่เห็นใบหน้าของตัวเองตลอดเวลาอยู่แล้ว คงไม่ได้แต่งหน้าแต่งตา เพื่อจะนั่งส่องกระจกมองตัวเองทั้งวันหรอกนะ ที่แต่งให้สวยๆน้ัน ก็คงไม่ใช่เพราะอยากอวดผู้หญิงด้วยกันให้ชื่นชมหรืออิจฉาเล่น อันนี้ไม่รวมถึงคนที่ชอบเพศเดียวกันนะ
ลองคิดดูสิว่า....ถ้าผู้หญิงสวย ๆ แต่งเนื้อแต่งตัวดี แต่งหน้าแต่งตาสวยงามชวนมอง แต่เธอเป็นคนหงุดหงิดง่าย อากาศร้อนไปนิดก็บ่น อากาศเย็นไปหน่อยก็บ่น หงุดหงิดงุ่นง่าน มีนิสัยเย่อหยิ่ง แววตาที่มองคนอื่นก็เย็นชา หรือ ดูถูกดูแคลน กิริยามารยาทไม่เรียบร้อย เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตัวเอง ฯลฯ หรืออย่างที่เรียกว่า "สวยแต่รูป จูบไม่หอม" เธอก็คงมีแต่ความสวย แต่ไม่มีความงาม
มางามด้วยธรรมะกันเถอะนะ เป็นความงามที่ไม่ต้องไปทำศัลยกรรมให้เจ็บตัวด้วย งามได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องสำอางค์ราคาแพง ๆ มาใช้ งามได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องประดับอัญมณีใด ๆ ก็ทำให้งามได้ตลอดกาล เป็นความงามที่เปล่งรัศมีออกมาจากภายใน ใบหน้าก็จะสวยงามผ่องใสชวนมอง เพราะมองแล้วสบายใจ มองแล้วก็เย็นใจ
ธรรมทำให้งาม (gracing virtues) มี 2 ข้อ คือ
1. ขันติ (patience: forbearance; tolerance) ความอดทน ความอดกลั้น ความมีใจกว้าง หนักแน่นมั่นคง ไม่หวั่นไหว เพื่อบรรลุจุดหมายที่ดีงาม ได้แก่
- มีความอดทนในหน้าที่การงาน ตั้งหน้าตั้งตาทำงานด้วยความขยันหมั่นเพียร เข้มแข็ง ทนทาน ไม่หวั่นไหว มั่นในจุดหมาย ไม่ท้อถอย อย่าเป็นคนหนักไม่เอา เบาไม่สู้
- มีความอดทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ความหนาว ความร้อน โดยไม่แสดงอาการหงุดหงิด หรือ บ่นพร่ำเพรื่อ
- มีความอดทนต่อความหิว กระหาย ความไม่สบายกายต่าง ๆ เจ็บตรงนั้น ปวดตรงนี้ ไม่แสดงอาการทุรนทุราย แต่ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่า ต้องทนหิวอยู่อย่างนั้นโดยไม่ต้องกินอะไรเลย หรือต้องทนเจ็บอยู่อย่างนั้นโดยไม่คิดรักษาพยาบาลให้หายจากอาการเจ็บป่วย แต่หมายความว่า เมื่อเกิดความรู้สึกหิว ไม่ควรโมโหหิวจนตาลาย หรือมีอาการหงุดหงิดงุ่นง่าน ทุรนทุราย หรือเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นก็ไม่พร่ำบ่นเป็นทุกขเวทนา แต่ให้หาทางรักษาให้ถูกวิธี เป็นต้น
- มีความอดกลั้น ต่ออำนาจกิเลส ต่อสิ่งยั่วยุต่างๆ เช่น ถ้อยคำร้ายแรง แม้จะถูกเย้ยหยันด้วยคำเสียดสีถากถางอย่างใด ก็ไม่ลุแก่โทสะ ไม่หมดกำลังใจ ไม่ท้อถอย ไม่แสดงกิริยามารยาทที่ไม่ดีงาม มีความทนทานทางจิตใจ สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตนให้มีเหตุผลเสมอ และ ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ไม่ละโมบโลภมาก ไม่คิดแย่งของรักของใคร
2. โสรัจจะ (modesty; meekness) ความสงบเสงี่ยม ความมีอัธยาศัยดีงาม รักความประณีตหมดจด สงบ เรียบร้อยงดงาม ได้แก่ การประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ขี้โม้โอ้อวด ไม่เย่อหยิ่งจองหอง ไม่อวดดี ไม่มีทิฐิแรงกล้า มีความสุภาพอ่อนโยน มีกิริยามารยาทงาม รู้จักโอภาปราศรัย มองโลกในแง่ดี
บุคคลที่มีโสรัจจะ จะมีใบหน้าผ่องใส หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แม้ไม่ยิ้ม ก็ดูเหมือนยิ้ม เพราะมีจิตใจดี ด้วยมองผู้อื่นในแง่ดีอยู่เสมอ จึงมีความรุ้สึกที่ยกย่องให้เกียรติผู้อื่นด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน และสุภาพอ่อนโยน
ผู้หญิงบางคน แม้หน้าตาจะไม่สวยสะดุดตา แต่เมื่อผู้ชายมองเธอแล้ว จะรู้สึกว่า ยิ่งมองยิ่งสวย เพราะเธอสวยมาจากภายในจิตใจของเธอ ยิ่งมองยิ่งสบายใจ เย็นใจ ยามอยู่ใกล้ก็มีความสุข เพราะเธอมีขันติ โสรัจจะ ไม่จู้จี้ขี้บ่น ไม่เรียกร้อง ไม่โวยวายให้เกิดความอึดอัดรำคาญ
ซึ่งผิดกับผู้หญิงบางคนที่สวยสะดุดตาเมื่อแรกเห็น แต่พอมองเธอไปนาน ๆ ความสวยก็จืดจางแล้ว ยิ่งถ้ามีนิสัยเย่อหยิ่ง และ หลงในรูปลักษณ์ภายนอกของตนเองด้วยแล้ว จะทำให้เธอเป็นคนขาดสติ หลงตัวเอง เอาแต่ใจตนเอง ด้วยเข้าใจผิดว่า ความสวยของใบหน้าและเรือนร่างนั้น จะผูกมัดใจผู้คนให้หลงรักเธอได้
คนเราทุกคนนั้น ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ ความสวยงามภายนอก ย่อมมีวันลดน้อยถอยลงไป ตามวันเวลาและอายุท่ีมากขึ้น แต่ความงามภายในจิตใจนั้น ยิ่งนับวัน จะยิ่งงดงามขึ้น และสร้างความรักความผูกพันเหนียวแน่นมากยิ่งขึ้นทุกวัน สำหรับทุกคนที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับบุคคลที่งามมาจากภายในจิตใจ ด้วยธรรมทำให้งาม ขันติ โสรัจจะ นี้
ขอบคุณที่มา :: ธรรมะไทย