หลายเรื่องที่มักได้ยินเกี่ยวกับห้องนอนซึ่งจะเริ่มต้นด้วย "เขาบอกว่า..." แต่ก็ไม่รู้เขาไหนเราจึงรวม 20 ข้อข้องใจที่จะช่วยให้คุณมีห้องนอนแสนสบายเวลาใครถามก็บอกได้เต็มปากเต็มคำว่า "รูมบอกมา"
1. หน้าต่างอยู่หัวเตียงดีไหม
ไม่ดีครับเพราะทำให้คุณปิดหน้าต่างยากขึ้นโดยต้องขึ้นไปบนเตียงก่อนจึงจะเอื้อมปิดหน้าต่างได้และการให้ลมพัดโดนศีรษะเป็นเวลานาน(เรานอนกัน6-8ชั่วโมง)อาจทำให้ไม่สบายได้อีกทั้งยังทำให้รู้สึกไม่เป็นส่วนตัวและมีแสงแยงตา
ตอนเช้าแต่ถ้าอยากมีหน้าต่างตรงหัวเตียงไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามแนะนำให้ทำผนังทึบสูงอย่างน้อย 1.20เมตรและใช้หน้าต่างบานเลื่อนก็จะรู้สึกเป็นส่วนตัวและเปิด-ปิดหน้าต่างง่ายขึ้นพร้อมติดมู่ลี่ซึ่งสามารถปรับความเข้มแสงได้ดีกว่าม่านชนิดอื่น
2. ติดแอร์ตรงไหนดี
ไม่ว่าจะเป็นแอร์หรือพัดลมควรให้ทิศทางลมพัดขวางเตียงนอนโดยค่อนไปทางปลายเตียงเพื่อไม่ให้ลมปะทะโดนหน้าเวลานอนเพราะอาจทำให้ไม่สบายได้ง่ายและหลังปิดแอร์แล้วควรปล่อยให้ห้องเย็นอยู่อย่างนั้นสัก 15 นาที แล้วค่อยเปิดหน้าต่างให้อากาศข้างนอกไหลเข้ามาเพราะถ้าเปิดหน้าต่างทันทีอากาศภายนอกซึ่งร้อนกว่าจะปะทะกับอากาศเย็นภายในห้องทำให้เกิดการควบแน่นกลายเป็นความชื้นเหมือนการวางแก้วใส่น้ำเย็นแล้วมีหยดน้ำเกาะรอบๆแก้วนั่นแหละและความชื้นเหล่านั้นจะไปสะสมตามที่นอนและวัสดุที่ทำจากผ้านานๆเข้าจะเกิดกลิ่นอับ
3. เลือกฟูกอย่างไรดี
ฟูกที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี4ชนิดโดยแบ่งตามวัสดุที่ใช้ผลิตคือ
1.ที่นอนฟองน้ำอัดเป็นฟองน้ำที่นำมาอัดโดยผสมสารเคมีทำให้แข็งแรงไม่ยุบตัวง่ายราคาประหยัดไม่แนะนำให้ใช้ฟองน้ำธรรมดาเพราะใช้ไปไม่นานก็จะเสื่อมสภาพ
2.ที่นอนใยมะพร้าวมีความแข็งแรงระบายอากาศได้ดีราคาไม่แพงเหมาะสำหรับคนชอบที่นอนแข็งสักหน่อย
3.ที่นอนยางพารามีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำแต่ยืดหยุ่นและคงทนกว่าโอบรับสรีระได้ดีไม่แข็งหรือนุ่มเกินไปแต่มีน้ำหนักมากและราคาสูงสักหน่อย
4.ที่นอนสปริงโครงสร้างภายในเสริมสปริงและห่อหุ้มด้วยโฟมเนื้อหนาเพื่อป้องกันไม่ให้ที่นอนยุบตัวตรงกลางจึงได้รับความนิยมมากที่สุด
ส่วนการทดสอบความนุ่มของที่นอนทำได้ด้วยการลองนอนแล้วใช้มือสอดใต้แผ่นหลังของคุณถ้ายังพอสอดเข้าไปได้และที่นอนโอบกระชับดีแสดงว่าใช้ได้แต่ถ้าสอดมือเข้าไปไม่ได้แสดงว่าที่นอนนิ่มเกินไปหรือสอดมือเข้าไปได้สบายๆก็แปลว่าที่นอนแข็งเกินไป
4. ติดไฟฝ้าเพดานไม่ให้แยงตา
หลีกเลี่ยงการติดโคมไฟไว้เหนือเตียงเพราะจะรบกวนสายตา เวลานอนแต่ควรใช้โคมไฟฝังฝ้าเพดานดาวน์ไลท์โดยเลือกหลอดไฟแบบสั้นที่ไม่โผล่ลงมาให้เห็นหรือทำฝ้าเพดานหลุมแล้วซ่อนหลอดไฟที่ให้แสงแบบอินไดเร็คไลท์ทั้งสวยงามและสบายตา
5. ใช้เตียงขนาดเท่าไรดีล่ะ
เตียงและที่นอนที่ขายตามท้องตลาดนั้นมีขนาดมาตรฐานอยู่3ขนาดใครชอบแบบไหนก็เลือกกันตามสบายเลยครับ ขนาดกว้าง3ฟุตหรือ3ฟุตครึ่งเรียกว่าTwinBedหรือSingleBedเป็นเตียงขนาดเล็กสำหรับนอนคนเดียวขนาดกว้าง5ฟุตเรียกว่าQueenSizeเป็นเตียงขนาดกลางที่สามารถนอนได้สองคนแบบใกล้ชิดกันหรือจะนอนคนเดียวแบบสบายๆก็ได้ ขนาดกว้าง6ฟุตเรียกว่าKingSizeเป็นเตียงขนาดใหญ่สุดสำหรับนอนสองคนแบบสบายๆนอกจากนี้ก็ยังมีเตียงรูปทรงอื่นเช่นทรงกลมซึ่งต้องสั่งทำพิเศษทั้งเตียงทั้งฟูก
6. เตียงแต่ละหลังสูงไม่เท่ากันเลย
หากสังเกตจะเห็นว่าเตียงที่มีขายนั้นมีความสูงต่างกันเล็กน้อย(ความสูงเตียงรวมฟูกแล้ว) ซึ่งแต่ละแบบก็เหมาะกับการใช้งานต่างกันเตียงทั่วไปควรสูงประมาณ40-50เซนติเมตรซึ่งเป็นระยะที่นั่งห้อยขาได้สบายๆเตียงที่ต้องเปลี่ยนผ้าปูบ่อยควรสูงประมาณ50-55เซนติเมตรก็จะเปลี่ยนผ้าปูได้ง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องก้มลงมากนักเตียงที่เหมาะกับผู้สูงอายุควรสูงประมาณ55-60เซนติเมตรก็จะลุกและนั่งสะดวกขึ้น
7. ทำไมไม่ควรทำประตูตรงกับปลายเตียง
เพราะอาจทำให้คนที่เปิดประตูมาเห็นท่าทางที่ไม่น่าดูของคนที่นอนไม่เรียบร้อยนัก โดยเฉพาะคุณผู้หญิงยิ่งต้องระวังให้มากเพราะเวลาหลับสนิทคงไม่มีใครนอนสวยเป็นนางเอกตลอดเวลา ทั้งยังทำให้รู้สึกระแวงและไม่เป็นส่วนตัว แต่ถ้าบ้านไหนพื้นที่จำกัดไม่มีทางเลือกก็อย่าคิดมากขอให้จัดพื้นที่ให้สะดวกและนอนสบายก็เพียงพอแล้วจริงไหม
8. อย่าหันหัวเตียงไปทิศตะวันตกและทิศใต้
คนโบราณถือว่าทั้งสองทิศนี้เป็นทิศสำหรับคนตายถ้าจะถือตามก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใดอีกทั้งสองทิศนี้เป็นด้านที่แสงแดดส่องเข้าทำให้ผนังเก็บความร้อนมากกว่าด้านอื่นหากหลีกเลี่ยงได้ก็น่าจะดีแต่ถ้าทำให้การจัดห้องไม่ลงตัวก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย
9. เลือกใช้พื้นอะไรดี
แบ่งวัสดุปูพื้นเป็น3ประเภทกว้างๆคือพื้นไม้พื้นพรมพื้นหินและกระเบื้องซึ่งมีข้อพิจารณาในการใช้คือ พื้นไม้เหมาะกับห้องนอนที่สุดไม่ว่าจะเป็นไม้จริงหรือไม้เทียมเพราะให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้าเป็นธรรมชาติผ่อนคลาย และดูอบอุ่นโดยเฉพาะห้องนอนที่ติดแอร์ควรปูพื้นไม้ เพื่อไม่ให้รู้สึกเย็นเท้าเวลาเดินพื้นพรมเหมาะกับห้องนอนที่ต้องการความนุ่มสบายเท้าเป็นพิเศษหรือใช้ในห้องผู้สูงอายุเพื่อป้องกันการล้มบาดเจ็บแต่ความสบายก็ต้องแลกกับการดูแลรักษาที่มากเป็นพิเศษเช่นกันพื้นหินและกระเบื้องเหมาะกับห้องที่เน้นความทนทานและดูแลรักษาง่าย แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในห้องที่ติดแอร์เพราะทำให้เย็นเท้าเกินไป
10. ตื่นมาเข้าห้องน้ำ
กลางดึกแต่ไม่อยากเปิดไฟให้แสบตาหลายคนต้องเดินงัวเงียไปเข้าห้องน้ำกลางดึกแต่ไม่อยากเปิดไฟ ทำให้เดินชนจนขาเขียว โดยเฉพาะห้องนอนของผู้สูงอายุที่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ให้ทำกล่องซ่อนไฟสูงจากพื้น 30 เซนติเมตร โดยใช้ไฟสาย (StripLight) หรือหลอดT4,T5 ซึ่งเป็นหลอดไฟที่มีขนาดเล็กหรือใช้วิธีง่ายๆ ด้วยการติดหลอดฟลูออเรสเซนต์ซ่อนไว้ใต้เตียงแล้วทำสวิตช์ไว้ที่ผนังข้างเตียงก็สามารถมองเห็นทางเดินโดยไม่แสบตาหรือรบกวนคนที่นอนข้างๆ
11. อย่าวางหัวเตียงติดห้องน้ำ
เพราะห้องน้ำมีเสียงดังเวลามีคนเข้าไปใช้งานอีกทั้งมีความชื้นและมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ทำให้เรานอนไม่สบายโดยเฉพาะถ้านอนกันสองคนอาจทำให้อีกคนตื่นได้ดังนั้นถ้ามีห้องน้ำอยู่ติดห้องนอนไม่ว่าจะติดด้านไหนแนะนำให้ก่อเป็นผนังสองชั้นเพิ่มเงินนิดหน่อยแต่ช่วยลดเสียงดังได้เยอะ
12. ห้องนอนคนกลางคืน นอนเช้าตื่นบ่าย
สำหรับคนที่ทำงานกลางคืนหรือนอนไม่เป็นเวลาควรเน้นเรื่องการควบคุมแสงที่ส่องเข้ามา โดยเลือกใช้ผ้าม่านที่มีแบล็กเอ๊าต์ในตัวหรือติดแบล็กเอ๊าต์ไว้หลังผ้าม่านอีกชั้นซึ่งช่วยป้องกันแสงไม่ให้ทะลุผ่านเข้ามาอีกทั้งยังช่วยกันความร้อนได้ด้วยทำให้ห้องนอนกลายเป็นกลางคืนได้ตลอดเวลา
13. สามีพลิกตัวแรงจนนอนไม่หลับทั้งคืน
หลายคนเคยชินกับการนอนคนเดียวแม้กระทั่งหลังแต่งงานแล้วก็ไม่วายต้องตื่นทุกทีเวลาคนข้างๆ พลิกตัวมีทางแก้ 2 วิธีคือใช้เตียงเดี่ยว (SingleBed) 2 หลังวางชิดกันหรือวางฟูกขนาด 3ฟุต 2 แผ่นบนเตียงขนาดคิงไซส์ก็ช่วยลดแรงสะเทือนจากการขยับตัวได้แล้ว
14. ผนังหัวเตียงโล่งแขวนกรอบรูปจะดีไหม
ก็ดีครับถ้าไม่หล่นลงมาตอนเรานอนจึงไม่ควรยึดขอเกี่ยวด้วยเทปกาวไม่ว่าจะเป็นเทปกาวที่มีคุณสมบัติรับน้ำหนักได้มากก็ตามเพราะเมื่อนานไปการยึดเกาะก็จะลดลงหากเป็นผนังปูนให้ใช้สว่านเจาะรูฝังพุกพลาสติกแล้วไขสกรูความยาวอย่างน้อย 1 นิ้วให้แน่นแต่ถ้าเป็นผนังโครงเบาอย่างยิปซัมบอร์ดและไฟเบอร์ซีเมนต์ให้ใช้พุกสำหรับยึดผนังกลวงซึ่งจะรับน้ำหนักได้ประมาณ 20 กิโลกรัม
15. เตียงโปร่งหรือทึบดีกว่ากัน
ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความชอบเตียงโปร่งเหมาะกับห้องที่เน้นความโล่งห้องขนาดเล็กหรือคนที่รักความสะอาดกวาดถูได้ทุกซอกทุกมุมเตียงทึบเหมาะกับการเน้นรูปทรงเตียงที่หนักแน่นหรือเน้นประโยชน์ใช้สอยโดยเลือกเตียงที่มีลิ้นชักเก็บของใต้เตียงได้นอนบนพื้นด้วยการทำพื้นยกระดับสูง30-40เซนติเมตรแล้ววางฟูกแทนการใช้เตียงอาจเลือกใช้ฟูกที่สามารถพับเก็บได้ก็เปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย
16. เลือกโคมไฟหัวเตียงอย่างไร
การเลือกโคมไฟขึ้นอยู่กับการใช้งานครับชอบอ่านหนังสือก่อนนอนใช้โคมไฟตั้งโต๊ะหรือติดผนังก็ได้โดยเลือกแบบที่มีก้านยาวสามารถดึงเข้ามาที่เตียงนอนและปรับทิศทางได้และใช้หลอดไฟสีเดย์ไลท์ที่ให้แสงสีขาวซึ่งเหมาะกับการอ่านหนังสือสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้ใช้โคมไฟที่หุ้มตัวโคมด้วยวัสดุโปร่งแสงเพื่อไม่ให้แสงจากหลอดไฟรบกวนสายตาและใช้หลอดไฟสีวอร์มไวท์ให้แสงสีเหลืองอาจเลือกชนิดที่ปรับระดับความสว่างสามารถควบคุมแสงได้ดั่งใจ ประหยัดพื้นที่เลือกใช้โคมไฟติดผนังหรือโคมไฟห้อยฝ้าเพดานให้ดูเก๋ไปอีกแบบทั้งยังไม่เกะกะบนโต๊ะข้างเตียงอีกด้วย
17. ติดกระจกเงาบริเวณเตียง ระวังผีหลอก
หลีกเลี่ยงการติดกระจกเงาไว้ใกล้เตียงไม่ว่าจะเป็นผนังกรุกระจกเงาหรือหน้าบานตู้กรุกระจกเงาเพราะหากคุณสะลึมสะลือตื่นขึ้นมากลางดึกเปิดไฟสลัวๆแล้วเห็นเงาตัวเองอาจทำให้ตกใจได้อีกทั้งยังทำให้ใจเราวอกแวกคอยมองเงาสะท้อนในกระจกบ่อยๆ
18. ควรมีระยะ รอบเตียงเท่าไร
ทางเดินข้างเตียงควรมีความกว้างอย่างน้อย60เซนติเมตรส่วนทางเดินปลายเตียงซึ่งเดินผ่านบ่อยกว่าควรมีความกว้างอย่างน้อย80เซนติเมตรแต่ทั้งนี้ถ้ามีการวางตู้เก็บของหรือตู้เสื้อผ้าก็ต้องมีระยะให้เปิดตู้ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของหน้าบานตู้
19 เลือกโซฟาปลายเตียงแบบไหนดี
สำหรับห้องนอนที่จะวางโซฟาไว้ปลายเตียงสำหรับนั่งดูทีวีควรเลือกโซฟาที่มีพนักพิงสูงพ้นเตียงไม่เกิน 20 เซนติเมตร ซึ่งเตี้ยกว่าโซฟาปกติเวลานั่งก็ให้เสริมหลังด้วยหมอนอิงก็จะนั่งสบายขึ้นแถมไม่บังหากเปลี่ยนมานอนดูทีวีบนเตียงหรือเลือกใช้เดย์เบดที่มีพนักพิงด้านข้างแทน
20 ชอบนอนดูทีวีบนเตียงใช้ทีวีขนาดกี่นิ้วดีล่ะ
ถ้านั่งหรือนอนดูบนเตียงการวัดระยะห่างจากตำแหน่งที่ตั้งทีวีต้องวัดจากหัวเตียงโดยมีหลักเกณฑ์ในการเลือกขนาดทีวีดังนี้
จอธรรมดา ตำแหน่งที่นั่งดูควรห่างจากทีวีเป็นระยะ 3-6 เท่าของขนาดทีวี (ขนาดทีวีวัดตามแนวทแยงมุม) เช่นถ้านั่งห่าง 4 เมตรหรือเท่ากับ 160 นิ้วควรใช้ทีวีขนาด 27 - 54 นิ้ว
ขนาดทีวีใหญ่สุด=ระยะระหว่างทีวีและที่นั่ง(หน่วยเป็นนิ้ว)/3
ขนาดทีวีเล็กสุด=ระยะระหว่างทีวีและที่นั่ง(หน่วยเป็นนิ้ว)/6
จอกว้างตำแหน่งที่นั่งดูควรห่างจากทีวีเป็นระยะ 1.5-3เท่า ของขนาดทีวีเช่นถ้านั่งห่าง4เมตรหรือเท่ากับ 160 นิ้วควรใช้ทีวี ขนาด 54-107 นิ้ว
ขนาดทีวีใหญ่สุด=ระยะระหว่างทีวีและที่นั่ง(หน่วยเป็นนิ้ว)/1.5
ขนาดทีวีเล็กสุด=ระยะระหว่างทีวีและที่นั่ง(หน่วยเป็นนิ้ว)/3 โดยติดตั้งให้กึ่งกลางทีวีสูงจากพื้น 1- 1.20 เมตรทีนี้จะนั่งหรือนอนดูท่าไหนก็สบายได้เต็มที่เลย
room's tips
ห้องนอนเพื่อสุขภาพ
- คนที่เป็นภูมิแพ้ถ้าใช้ที่นอนทำจากเส้นใยธรรมชาติควรหุ้มที่นอนด้วย พลาสติกหรือไวนิลก่อนแล้วจึงปูทับด้วยผ้าปูที่นอนอีกชั้นหรือเปลี่ยนมาใช้ ชุดเครื่องนอนกันไรฝุ่นซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ไรฝุ่นเข้าไปเติบโตในฟูกหรือหมอน แค่นี้ก็สบายใจหายห่วง
- พลิกที่นอนกลับด้านทุกๆ 3 เดือนเพื่อช่วยไม่ให้ที่นอนยุบตัวไปด้านใด ด้านหนึ่งพร้อมทั้งเปิดม่านและหน้าต่างให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้องเป็นประจำ เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและหมุนเวียนอากาศสดชื่นให้เข้ามาในห้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.roommag.com/