ภายในปีที่ผ่านมาคนไทยคงคุ้นหูกับคำว่า ’เครือข่ายสามจี“ หรือ ’เครือข่ายยุคที่สาม“ กันทุกคน ยิ่งตอนนี้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือต่างออกข่าวว่าจะเริ่มให้บริการกันในเร็ววันนี้ ในฐานะของคนใช้งานเทคโนโลยีอาจจะมีคำถามสงสัยว่า เมื่อเครือข่ายพัฒนาสู่ยุคที่สาม หรือเป็นสามจีแล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกบ้าง
อันดับแรกคงต้องบอกว่า เครือข่ายสามจี นั้นสามารถรองรับการส่งผ่าน “ข้อมูล” จำนวนมาก ขนาดใหญ่ ๆ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เหมือนกับการตัดถนนเพิ่มจำนวนเลน ทำให้มีรถแล่นผ่าน สามารถขนส่งข้อมูลได้จำนวนมาก ๆ ในเวลาที่สั้นลง ทำให้ช่องทางการตลาดในการเสนอสินค้าใหม่ ๆ ที่เดิมมีปัญหาเรื่องการขนส่งอย่างรวดเร็วไม่ได้ เช่น ข้อมูลใหญ่ ๆ อย่างรูปภาพ เสียง แผนที่ ภาพกราฟิกขนาดใหญ่ ๆ หรือมีการเปลี่ยนแปลงของแอพพลิเคชั่นแบบใหม่ ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดเรื่องขนาดและเวลาของข้อมูลที่ใช้ เช่น แอพฯ สำหรับดูหนังออนไลน์ เล่นเกมสวย ๆ ออนไลน์ หรือมีการส่งข้อมูลตรวจเช็กสถานะตลอดเวลา เป็นต้น ยังรวมถึงบริการครบวงจรที่เกิดขึ้นได้อย่างการซื้อขาย สินค้า บริการในชีวิตประจำวันที่จะสะดวกและทำได้อีกระดับ หากเรา “ขนส่ง” ข้อมูลขนาดมหาศาลได้ในเวลาเร็ว ๆ
อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานก็อาจจะยังสงสัยต่อว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้จะนำมาเปลี่ยนการทำงานหรือธุรกิจของเราได้ด้วยหรือไม่?
บริษัทที่ให้บริการด้านข้อมูลทั่วไปจะมองว่า เครือข่ายสามจีจะเพิ่มศักยภาพในการส่งข้อมูลความเร็วสูงได้ โดยจะค่อย ๆ พัฒนาขึ้นไปได้จนเต็มที่ภายในปีหรือสองปีหลังจากเริ่มใช้งาน แต่สิ่งที่คุ้มค่านอกจากบริการ จะเป็น “ประสบการณ์” ของลูกค้าที่จะทำให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ หรือสินค้าต่างจากบริการเดียวกันที่อาจจะช้า เช่น การเข้าถึงหน้าเว็บไซต์เดียวกันด้วยความเร็วต่างกัน หรือลดการทำงานขัดข้องเมื่อต้องการส่งรูปถ่าย หรือไฟล์เสียงไปให้คนอื่น
3G มาแล้ว พร้อมหรือยัง?
ส่วนเรื่องสนนราคาก็คงต้องยอมรับว่า บริการแพ็กเกจข้อมูลนั้นมีราคาสูงขึ้นเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น
(ลองนึกภาพว่าตัดถนนเพิ่มจากสองเลนเป็นแปดเลน ก็ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเพิ่ม รวมถึงการเปลี่ยนรถขนข้อมูลให้ใหญ่ขึ้น และการบริหารจัดการจำนวนรถที่มากขึ้นตามแยกต่าง ๆ) และผู้ใช้ก็ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ให้สามารถใช้งานข้อมูลมาก ๆ เร็ว ๆ นี้ให้ได้คุ้มค่า เช่นเลือกโทรศัพท์มือถือที่แพงขึ้น เป็นต้น ทำให้ในช่วงแรก ๆ การให้บริการ สินค้ามือถือ แอพพลิเคชั่น ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นคงจะค่อย ๆ เพิ่มเช่นเดียวกับจำนวนผู้ใช้งานที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามหลักพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงในตลาดไอที
อีกประเด็นที่น่าสนใจซึ่งมักเกิดขึ้นกับตลาดไอทีคือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงด้านการตลาดไอที จะเน้นหนักไปที่นวัตกรรมใหม่ ๆ ซะส่วนมาก
คือ บริการหรือสินค้าจะเน้นไปที่การนำเสนอของใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีขายมาก่อน เช่น แอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ หรือเครื่องโทรศัพท์รุ่นใหม่ บริการโทรศัพท์แบบเห็นภาพ ดูทีวีออนไลน์บนมือถือ เป็นต้น ซึ่งขณะเดียวกัน บริการและสินค้าเก่า อาจจะไม่ได้ยกระดับให้ใช้งานกับถนนแปดเลนนี้ด้วยซ้ำ เช่น แอพพลิเคชั่นเดิม ๆ ที่ใช้ก็ยังรับ-ส่ง ประมวลผลข้อมูลได้ไม่มากเท่าที่ควร เหมือนกับเครื่องโทรศัพท์รุ่นเก่าที่ใช้ยังไม่ได้ หรือข้อมูลที่มีให้บริการอยู่ก็ไม่ได้เพิ่มให้มีปริมาณมากขึ้น หรือคุณภาพของข้อมูลก็ยังเท่าเดิม เช่น ไม่มีภาพ หรือเสียง ที่คุณภาพดีมากหรือมีขนาดใหญ่ให้บริการ ซึ่งมักเป็นข้อจำกัดช่วงต้นของธุรกิจไอทีในช่วงการเปลี่ยนแปลง
ศักยภาพของเครือข่ายโทรคมนาคมขึ้นกับขนาด เช่นเดียวกับการขนส่ง อย่างถนน รางรถไฟ
อย่างไรก็ตามต้องถามตัวเราว่าธุรกิจของเราพร้อมที่จะเริ่มบริการสามจีหรือยัง รวมถึงผู้ใช้งานด้วย เพราะธุรกิจจำนวนมากจะไม่สร้างหากตลาดไม่พร้อมจะบริโภค ทำให้เรายังคงเห็นสินค้า บริการรุ่นเดิม ๆ ที่เข้าถึงได้กว้างอย่าง เอสเอ็มเอส หรือข้อความสั้นธรรมดาที่ยังใช้ได้บนเครือข่ายทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นหัวใจของธุรกิจสื่อสารบนมือถือต่อไปไม่ว่าบริการจะพัฒนาขึ้นเป็นยังไงก็ตาม
ดังคำที่ว่า ’มองให้ไกลกว่าที่เขาบอก และเดินให้เป็นก่อนเริ่มวิ่ง” ตอนนี้คุณว่าคุณพร้อมหรือยังสำหรับ สามจี?.
ผศ.ดร.พิษณุ คนองชัยยศ
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย