สัญญาณที่บอกว่าเขาพร้อมแต่งงาน

สัญญาณที่บอกว่าเขาพร้อมแต่งงาน


ผู้ชายกับการแต่งงาน...ต้องทำอย่างไรถึงจะจับสองสิ่งนี้มาอยู่ด้วยกันได้ ถ้าตอนนี้เราคือผู้หญิงที่กำลังพยายามให้แฟนยอมผูกมัดให้ได้ ขอแนะนำว่าควรล้มเลิกความตั้งใจซะ

         เพราะไม่มีอะไรที่สามารถเร่งกระบวนการขอแต่งงานของผู้ชายได้ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ขอ มีผู้ชายตกหลุมรักและแต่งงานทุกวัน เพียงแต่ผู้ชายมีนาฬิกาในตัวบอกว่าถึงเวลาเมื่อไรก็เมื่อนั้นละ (ซึ่งไม่ใช่ตอนนี้) ในระหว่างนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะชักจูงให้ผู้ชายที่กลัวการผูกมัดคิดว่าเราคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของเขา (ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแบบนั้นก็เถอะ!)
ทางที่ดีคือมองหาคนที่เราไม่ต้องลำบากขนาดนั้นดีกว่า ซึ่งต้องอาศัยสัญญาณต่อไปนี้เพื่อแยกแยะผู้ชายที่พร้อมแต่งงานกับผู้ชายที่ยังระเริงอยู่กับชีวิตโสด 

     เลิกเที่ยว
        จากผลการสำรวจผู้ชาย 2,500 คนพบว่า ผู้ชายที่พร้อมแต่งงานจะไม่ไปเที่ยวเตร็ดเตร่ตามผับบาร์ เต้นรำ หรือตีสนุกอีกต่อไป แถมยังพยายามหลีกเลี่ยงไม่เที่ยวอะไรแบบนั้นอีกแล้ว ทั้งที่แต่ก่อนไปประจำไม่เคยขาด บางคนสารภาพว่าใช้เวลาหลายปีเสแสร้งทำเป็นสนุกกับการกินดื่ม สูบบุหรี่ และหลีสาวสวยตามสถานที่เที่ยว พอมากเข้าก็เริ่มเบื่อหน่ายอะไรฉาบฉวยแบบนี้ สู้อยู่บ้านไม่ได้ ชิลล์กว่าเยอะเลย ผู้ชายประเภทนี้จะรู้สึกว่าชีวิตที่เมาหัวเราน้ำนั้นมันช่างไร้สาระและเสียเวลาสิ้นดี แถมยังเจอแต่ผู้หญิงสวยเซ็กซี่ที่เมาเละจนหมดท่า พอชวนกันไปมีเซ็กส์หลังจากเสร็จกิจก็กระอักกระอ่วนไม่รู้จะพูดอะไร...เจอแบบนี้บ่อย ๆ ก็เบื่อนะ...ผู้ชายเขาว่ามาอย่างนั้น 

     มีอิสรภาพทางการเงิน
        ผู้ชายบางคนตั้งเป้าไว้ว่าต้องมีความมั่นคงทางการเงินก่อนถึงจะมีครอบครัวได้ ถ้ายังหัวหมุนวิ่งหาเงินมาจ่ายบิลแบบเดือนชนเดือนละก็ ย่อมไม่อยากเพิ่มภาระด้วยการหาเลี้ยงภรรยาอีกคนแน่ ดังนั้นถ้าเราไม่อยากลำบากก็ควรมองหาผู้ชายที่พึ่งพาได้ หรืออย่างน้อยก็มีงานทำมั่นคง เลิกมองหาหนุ่มอาติสท์หรือซิกซ์แพ็คถ้าไม่อยากต้องออกเงินเวลาเดตกัน นอกจากนั้นหนุ่ม ๆ พวกนี้ยังไม่กล้าชวนเราไปไหนมาไหนเพราะไม่มีเงินไงคะ ดูสิ แค่วันนี้ยังกัดก้อนเกลือกิน ก็ไม่ต้องนึกไปถึงวันข้างหน้าที่คิดจะมีครอบครัวกับผู้ชายพวกนี้ แบบนั้นเอาไว้แค่ฉาบฉวยสนุกไปวัน ๆ ก็พอ สู้เราหันมาพิจารณาผู้ชายที่หุ่นไม่ได้ล่ำบึกเร้าใจ แต่มีหัวใจเปี่ยมรักและงานการมั่นคง และที่สำคัญที่สุดคือวางแผนที่จะร่วมชีวิตกับเรา...เข้าท่ากว่ามั้ย 

     อยากเป็นพ่อ
        ผู้ชายพร้อมที่จะแต่งงานแล้วถ้าเขาจับจ้องมองเด็กเล็ก ๆ เป็นเวลานานแถมยังถามเราว่าอยากมีลูกน่ารัก ๆ แบบนี้ซักคนมั้ย ผู้ชายยังอยากหนุ่มแน่นแข็งแรงพอที่จะสอนตกปลา เตะฟุตบอล หรือทำกิจกรรมแบบผู้ชายร่วมกัน ผลการสำรวจพบว่า อายุเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลอย่างมากต่อทัศนคติในเรื่องการแต่งงานของผู้ชาย ผู้ชายที่มีการศึกษาระดับปริญญาทุกคนจะไม่คิดเรื่องแต่งงานอย่างจริงจังจนกว่าจะอายุ 26 เป็นต้นไป และจะลงหลักปักฐานในช่วงอายุ 28-33 ปี ส่วนผู้ชายที่เรียนระดับปริญญาโทขึ้นไป จะแต่งงานในช่วงอายุ 30-36 ปี นอกจากนั้นผลการสำรวจยังบอกว่า ทันทีที่ผู้ชายอายุ 37 ปี โอกาสที่เขาจะแต่งงานก็จะเริ่มลดน้อยลง พออายุ 43 เขาก็อาจจะดำรงตนเป็นหนุ่มโสดไปตลอดชีวิต 

     สถานะเป็นแฟนแต่ทำตัวเป็นสามี
        เมื่อผู้ชายพร้อมจะเป็นสามีเมื่อนั้นเขาจะเริ่มทำตัวเหมือนเป็นสามี ตัวอย่างเช่น เขาจะวางแผนสำหรับอนาคต พาเราไปแนะนำให้เพื่อนฝูงและครอบครัวรู้จัก และไม่ใช่แค่โทรหาเราทุกวันแต่ต้องการให้เรารู้รายละเอียดในชีวิตเขาทุกวันและอยากรู้เรื่องของเราด้วย นอกจากนั้นเขายังซื่อสัตย์และเปิดเผย เวลาเราเข้ามาในห้องเขาจะไม่รีบลุกลี้ลุกลนปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ทันทีเพราะไม่อยากให้เราเห็นว่าเขากำลังทำอะไร และเขายังให้เรารับโทรศัพท์ของเขาอีกด้วย ถ้าเขาจัดที่ในตู้เสื้อผ้ากันไว้ให้เรา...นั้นแหละชัวร์เลย และเขายังรับฟังเวลาเราบอกว่าเราพร้อมแต่งงานเมื่อไร

         ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเขาคิดยังไง ก็ให้สังเกตวิธีที่เขาแสดงออก และที่สำคัญไปกว่านั้นคือวิธีที่เขาพูดถึงอนาคตของเรา แต่ที่แน่ ๆ อย่าไปกดดันค่ะ ลองใช้วีพูดตรง ๆ บอกเขาไปว่าเรารู้สึกอย่างไร จะได้รู้ว่าเรายืนอยู่ตรงจุดไหน ถ้าผู้ชายยังไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม ถ้าเจอแบบนี้ก็เดินหน้าหาผู้ชายคนต่อไปที่พร้อมกว่านี้ดีกว่าค่ะ จะเสียเวลาทู่ซี้ไปใย.







ที่มา ... msn.co.th

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์