แบตเตอรี่......ใช้อย่างไรคุ้มค่า
โทรศัพท์มือถือ
เครื่องหนึ่งราคาไม่ใช่ถูก ยิ่งรุ่นที่สามารถดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูปได้ด้วย ราคาหลายหมื่นอยู่ เพราะฉะนั้นก็ที่จะโบกมือลาเครื่องเก่า แล้วหันไปซื้อเครื่องใหม่ที่ไฉไลกว่า ลองสำรวจเคล็ดลับง่ายๆ ในการใช้มือถือให้อยู่คู่ชีวิตนานสุดกันดีกว่า
แบตเตอรี่เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญของมือถือ
หากใช้งานหรือชาร์จไฟด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง จะส่งผลให้เกิดปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม ซึ่งแสดงอาการที่หลายคนคุ้นเคยคือ ชาร์จไฟไม่เข้าและไฟหมดเร็วผิดปกติ เช่นชาร์จเต็มกลางคืนแต่หมดบ่าย ทำให้ต้องเสียเงินซื้อแบตเตอรี่ก้อนใหม่ในราคาหลายร้อยบาท ฉะนั้น เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ดังต่อไปนี้ จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้นานเท่าที่คุณต้องการ
เริ่มจาก อุปกรณ์ชาร์จไฟทั้งแบบแท่นและสายชาร์จ
ต้องเป็นรุ่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือ เพราะแต่ละรุ่นจะมีอัตราจ่ายกระแสไฟต่างกัน แม้ว่าหน้าตาของสายชาร์จจะเหมือนกันก็ตาม จากนั้นควรศึกษาข้อมูลแบตเตอรี่ จากคู่มือการใช้งานที่มาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือให้เข้าใจ
โดยเนื้อหาในคู่มือจะแจ้งให้ทราบว่า
ครั้งที่ 1- 3 ของการชาร์จแบตเตอรี่ก้อนใหม่เอี่ยม ควรใช้เวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมงต่อเนื่องกันของการชาร์จแต่ละครั้ง เพื่อให้กระบวนการทำงานภายในแบตเตอรี่อยู่ตัว และในการชาร์จของ 2 – 3 รอบแรกนี้ควรจะใช้แบตเตอรี่ให้หมดเกลี้ยงก่อนการชาร์จครั้งใหม่ ส่วนการชาร์จครั้งที่ 4 และครั้งต่อๆ ไป เมื่อแบตเตอรี่เต็มซึ่งดูได้จากสัญญาณไฟ ที่ปรากฎบนแท่นชาร์จหรือหน้าจอมือถือ ควรจะถอดปลั๊กไปทันที
ไม่ควรชาร์จไฟทิ้งไว้ข้ามวันข้ามคืน
แม้ว่าแท่นชาร์จและมือถือจะมีระบบตัววงจรไฟฟ้าอัตโนมัติก็ตาม เพราะแบตเตอรี่ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้นานๆ จะคลายประจุไฟฟ้าตามธรรมชาติ ซึ่งก่อให้เกิดการชาร์จซ้ำในทันที และมีผลทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น รวมทั้ง ตรวจสอบการเสียบสายชาร์จ ทั้งขั้วที่เข้ากับปลั๊กไฟและขั้วที่เสียบเข้ากับมือถือ ให้แน่ใจว่าไม่หลวมหรือว่าขยับไม่ได้ ขั้วปลั๊กที่หลวมจะทำให้กระแสไฟที่เข้าตัวเครื่องไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร และเป็นสาเหตุของแบตเตอรี่ระเบิดได้
หากแบตเตอรี่เหลือเพียงเล็กน้อย
คุณสามารถชาร์จได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรอให้หมดเกลี้ยง และควรจะต่อสายชาร์จเข้ากับมือถือให้เรียบร้อยก่อนจากนั้นค่อยนำอีกด้านไปต่อกับปลั๊กไฟ เพื่อป้องกันการลัดวงจร หรือไฟกระชากเกินระดับที่ปลอดภัย