ยอดตายพุ่ง39ศพ ส่งฮ.ชีนุก เร่งอพยพนบพิตำ

ยอดตายพุ่ง39ศพ ส่งฮ.ชีนุก เร่งอพยพนบพิตำ

ระทึก- หน่วยกู้ภัยเข้าไปให้ความช่วยเหลือและลำเลียงคนในพื้นที่
 อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ที่ถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัด
จนแทบจะปลิวหลุดไปจากเชือกที่ขึงไว้ เมื่อ วันที่ 2 เม.ย.

ยอดตายน้ำท่วมภาคใต้พุ่ง 39 ศพแล้ว หลายพื้นที่ระดับน้ำยังคงท่วมสูง 'พุนพิน' วิกฤตผวานายวัชระ บุญญานุรักษ์ อายุ 54 ปี หลานของนางจิราภรณ์ เปิดเผยว่า ฝนได้ตกอย่างหนักมาก

ได้ยินเสียงลั่นมาจากฝายน้ำตกยอดน้ำ ม.7 ต.เขาน้อย จากนั้นพบว่าทั้งน้ำทั้งโคลนพัดเข้ามาจนมิดชั้นสองบ้านพังราบ น้าหลุดจากบ้านหายไป ในขณะที่ตัวเองนั้นได้ถูกกระแสน้ำพัดไปติดกับต้นไม้ ในสภาพเลือดโชกจนมีชาวบ้านมาช่วย สำหรับบ้านที่อยู่เป็นบ้าน 2 ชั้นโครงสร้างทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดคาน 40 ซ.ม.เสาคอนกรีต กระแสน้ำซัดมิดหลังคาสูงอย่างน้อย 6-7 เมตร บ้านทั้งหลังถูกถอนรากถอนโคนแม้แต่ตอม่อถูกกระแสน้ำถอนหมดอย่างเหลือเชื่อ รถยนต์กระบะ 2 คันถูกน้ำและโคลนซัดหายไป ตนเกิดมาไม่เคยพบเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้มาก่อน

อ.เชียรใหญ่ระดับน้ำสูง 3 ม.


ทางด้านพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังประกอบด้วย 5 อำเภอ คือ อ.ปากพนัง อ.เชียรใหญ่ อ.หัวไทร อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากตัวจังหวัดชั้นในกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักโดยเฉพาะพื้นที่ อ.เชียรใหญ่ ในตำบลไสหมาก ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตรหลายหมู่บ้าน ประชาชนถูกตัดขาดจากโลก ภายนอกจำนวนมาก ในขณะที่การช่วยเหลือยังเข้าไปได้อย่างยากลำบาก อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวทั้ง 5 อำเภอเป็นพื้นที่ที่อยู่ในโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในห้วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่เกษตรกรในพื้นที่เตรียมเก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งนาข้าวประเภทนาปี นาปรัง ผักกินใบต่างๆ พริก ผักประเภทผล เช่น มะเขือชนิดต่างๆ แตงกวา ฟักทอง ฟักเขียว ซึ่งเจริญงอกงามออกผลผลิตเตรียมเก็บเกี่ยวได้ในฤดูกาลนี้ แต่ปรากฏว่าพืชผลผลิตดังกล่าวเสียหายอย่างยับเยินทำให้เกษตรกรหลายคนสิ้นเนื้อประดาตัว

'สุราษฎร์ฯ'อพยพคนหนีน้ำ

ที่จ.สุราษฎร์ธานี พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 25 นำรถลำเลียงทหารขับเคลื่อน 4 ล้อสูง 8 คัน ขับฝ่าสายน้ำลึกเกือบ 1 เมตรระยะทางประมาณ 10 ก.ม. บนถนนสายตัดใหม่ 417 สุราษฎร์ฯ-สนามบิน เพื่อขนย้ายผู้โดยสารของสายการบินต่างๆ ที่เดินทางจากกรุงเทพมหานครตั้งแต่เย็นวันที่ 1 เม.ย. ประมาณ 500 คนเนื่องจากการสัญจรทางรถถนนสายต่างๆ ที่จะเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานีมีน้ำท่วมสูง การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากน้ำลึกและกระแสน้ำเชี่ยวกรากประกอบกับมีรถขนาดใหญ่พยายามใช้เส้นทางจำนวนมาก

ด้านนายสุวิทย์ พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานบำรุงทางสุราษฎร์ธานีที่ 2 รายงานสรุปทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม รถผ่านไม่ได้ ประกอบด้วย ทางหลวงหมายเลข 41 หรือถนนสายเอเชีย จาก อ.พุนพิน ไป อ.ทุ่งสง ที่ก.ม.210 น้ำท่วมสูงประมาณ 40-50 ซ.ม. ทางหลวงหมายเลข 401 ทางแยกไป อ.พุนพิน บริเวณหน้าโรงไฟฟ้า น้ำท่วมสูง 50-60 ซ.ม. สะพานบางอ้อชำรุด ทางหลวงหมายเลข 401 กาญจนดิษฐ์-บ้านใน ทางขาดคอสะพานชำรุด ถนนสายสุราษฎร์ฯ-นาสาร จากบ้านซอยสิบ ไป อ.กาญจนดิษฐ์ สะพานขาด สำหรับถนนรอบเกาะสมุย ซึ่งมีดินสไลด์ ในบางจุด ขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไขรถสามารถ ผ่านได้ตลอด ทั้งนี้ สามารถสอบถาม เส้นทางใน จ.สุราษฎร์ธานี ได้ที่ 0-7727-6900 ต่อ 104

ที่จ.ชุมพร ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดชุมพร สรุปความเสียหายตั้งแต่วันที่ 23-31 มีนาคม ว่า มีพื้นที่ประสบภัย 8 อำเภอ 1 เทศบาลเมือง (ทม.หลังสวน) 58 ตำบล 514 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 60,887 คน 20,458 ครัวเรือน เสียชีวิต 2 คน มูลค่าความเสียหายทั้ง 8 อำเภอจากการสำรวจในเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท

'พัทลุง' 11 อำเภอยังจมมิด

ที่จ.พัทลุง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังฝนหยุดตกระดับน้ำได้ลดลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ในต.พญาขัน ต.ชัยบุรี ต.ควนมะพร้าว ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง ต.ทะเลน้อย ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน และ ต.จองถนน อ.เขาชัยสน ระดับน้ำเฉลี่ยประมาณ 1 เมตร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ราบลุ่มริมทะเลสาบ และเป็นที่รับน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาบรรทัดและบางครั้งก็เกิดน้ำทะเลหนุน

วันเดียวกัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม แก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลพญาขัน ตำบลลำปำ ตำบลชัยบุรี และตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมืองพัทลุง ที่วัดควนถบ ม. 4 ต.พญาขัน อำเภอเมืองพัทลุง จำนวน 500 ชุด และมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมจำนวน 2 ครอบครัว ครอบครัวละ 50,000 บาท

ด้านนายธนกร ตระบันพฤกษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง รายงานสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพัทลุง ว่าที่ผ่านมาได้เกิดน้ำท่วมใน 11 อำเภอ 65 ตำบล 622 ครัวเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 45,388 ครัวเรือน 177,414 ราย มีการอพยพ 92 ครัวเรือน และเสียชีวิต 2 ราย คือเด็กชายซอดีหรีม เส็นเกลี้ยง อายุ 7 ขวบ และเด็กชายกิตติยศ เกาะทอง อายุ 13 ปี ส่วนความเสียหาย ในเบื้องต้นรวมมูลค่าประมาณ 130,660,400 บาท

องค์โสมเสด็จปล่อยครัวเคลื่อนที่

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่หน้าสำนักงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ องค์นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เสด็จทรงเป็นประธานปล่อยคาราวาน "ครัวเพื่อนพึ่ง (ภาฯ)" ซึ่งเป็นรถประกอบอาหารเคลื่อนที่ เพื่อลงไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นการร่วมแรงร่วมใจของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก กับ ดีแทค เอไอเอส ทรูมูฟ 3 ค่ายโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่ของประเทศ และสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน มีรถกระบะของอาสาสมัครกว่า 100 คัน บรรทุกวัสดุการทำครัว อาหารสด อาหารแห้ง ลงพื้นที่ไปมอบให้กับประชาชนกว่า 100 ตำบล ในพื้น ที่จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง โดยอาหารนี้สามารถเลี้ยงดูได้ 300 คนต่อวัน วันละ 2 มื้อ อย่างน้อย 4 วัน

ยอดตายพุ่ง39ศพ ส่งฮ.ชีนุก เร่งอพยพนบพิตำ

แจกเอง - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ นั่งเรือนำข้าวกล่อง น้ำดื่ม และถุงยังชีพ
แจกจ่ายให้ประชาชนสองฝั่งแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
 ซึ่งส่วนใหญ่ประสบอุทกภัยจนไม่สามารถประกอบอาหารกินได้ เมื่อ 2 เม.ย.

'เทือก'แจกของเกาะสมุย

เวลา 14.00 น. ที่อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่พบประชาชนและแจกถุงยังชีพให้ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย 6 จุด อาทิ บ้านหน้าทอน วัดละไม วัดสว่างอารมณ์ จากนั้นขึ้นเฮลิคอปเตอร์กองบินตำรวจ สำรวจพื้นที่ประสบอุทกภัย ได้แก่ อ.เกาะสมุย อ.กาญจนดิษฐ์ และอ.พุนพิน พบว่าบ่อกุ้ง ฟาร์มหอยนางรม และสวนปาล์ม เสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะที่อ.พุนพิน ถนนพุนพินสายเก่าตั้งแต่บริเวณท่าอากาศยานสุราษฎร์ มุ่งหน้าสู่อ.พุนพิน มีปริมาณน้ำท่วม และถนนถูกตัดขาด ใช้เวลาบินประมาณ 40 นาที

จากนั้นเวลา 17.30 น. นายสุเทพพร้อมคณะลงเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำเพื่อนำอาหาร น้ำดื่ม เข้าไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่บ้านสะพัง บ้านมะปลิง อ.เมือง ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำตาปี น้ำท่วมขังมานาน 2 วัน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

อ.พุนพินยังจมบาดาล

ที่อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำยังสูงเนื่องจากจุดที่ตั้งอำเภอเป็นพื้นที่รับน้ำของแม่น้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำตาปีตอนบน และแม่น้ำคีรีรัฐที่ไหลมารวมที่อ.พุนพิน ก่อนไหลลงสู่อ่าวไทย โดยถนนที่น้ำท่วมสูงรถเล็กสัญจรไม่ได้ ได้แก่ ต.คลองน้อย บริเวณก.ม.14-17 ถนนตัดใหม่สาย 417 จากสนามบิน จ.สุราษฎร์ธานี ไปตัวอำเภอ, ถนนสายพุนพิน-สุราษฎร์ธานี, ทางหลวงหมายเลข 41 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม น้ำท่วมสูงตั้งแต่ก.ม.ที่ 165-166, ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน น้ำท่วมสูงตั้งแต่ก.ม.ที่ 153-165 และต.ท่าข้าม สายหนองขรี-สุราษฎร์ ธานี น้ำท่วมสูงถึงคอสะพานพระจุลจอมเกล้า

นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ ธานี เปิดเผยสถานการณ์ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในหลายอำเภอเริ่มลดลงแล้ว ส่วนสภาพอากาศทั่วไปของจังหวัด ในวันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งไม่มีเมฆฝน ส่งผลให้วันนี้ฝนไม่ตก นอกจากนี้ ได้สั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยส่วนหน้ากรณีเร่งด่วนที่อ.พุนพิน เน้นช่วยชีวิตก่อนทรัพย์สิน อีกทั้งจัดส่งเรือเข้าไปรับผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมสูงไม่สามารถออกมาได้ ส่วนอาหารขณะนี้ครัวกาชาด ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ได้นำอาหาร น้ำดื่มกระจายแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว

น้ำเซาะถนนขาดหลายสาย

ด้านนายสุวิทย์ พิกุลทอง ผอ.สำนักงานบำรุง ทางสุราษฎร์ธานีที่ 2 รายงานยอดทางหลวงถูกน้ำท่วมจนรถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 41 ถนนสายเอเชีย พุนพิน-ทุ่งสง น้ำท่วมสูง 40-50 ซ.ม. ที่ก.ม. 210, ทางหลวงหมายเลข 401 หน้าโรงไฟฟ้า น้ำท่วมสูง 50-60 ซ.ม. สะพานชำรุด ถนนสายกาญจนดิษฐ์-บ้านใน ถนนขาด คอสะพานชำรุด ถนนสายสุราษฎร์ธานี-นาสาร จากบ้านซอยสิบ ไปอ.กาญจนดิษฐ์ สะพานขาด โดยถนนรอบเกาะสมุยซึ่งมีดินสไลด์ลงมาก่อนหน้านี้ ได้ดำเนินการแก้ไขจนรถสามารถสัญจรได้แล้ว

เวลา 14.00 น. ที่สถานีรถไฟ จ.พิษณุโลก สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดพิษณุโลกนำเครื่องอุปโภค-บริโภค น้ำดื่มและสิ่งของต่างๆ ที่เปิดรับบริจาคที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นำขึ้นรถไฟสายล่องเชียงใหม่-กรุงเทพฯ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอุทกภัยในภาคใต้

'มาร์ค'ฟังสรุปสถานการณ์

เวลา 16.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เพื่อรับฟังการสรุปสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ และประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 10 จังหวัด โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น ทั้งนี้ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปตัวเลขอีกครั้งว่า มีผู้ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น 10 จว., 100 อําเภอ, 641 ตําบล และ 5,169 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อนทั้งสิ้น 579,062 ครัวเรือน ประชาชนเดือดร้อน 2,004,350 คน มีผู้เสียชีวิตจนถึงวันที่ 2 เมษายนอย่างเป็นทางการ 39 ราย

ด้านนายธีรยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี รายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีสูงมาก ทุกหน่วยกำลังระดมกำลังให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้ยังมี 3 อำเภอที่ยังประสบเหตุรุนแรง อาทิ อำเภอพุนพิน อําเภอท่าฉาง และอำเภอพระแสง โดยเฉพาะที่อําเภอพุนพินระดับน้ำยังไม่ลดลงกลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งถือว่าจังหวัดสุราษฎร์ฯ นี้น้ำท่วมหนักในช่วง 50 ปี ขณะนี้ต้องการด่วนคือ เครื่องมือหนักขนาดใหญ่ คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มหรือภาวะน้ำทะเลหนุนสถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปตามลำดับ และขณะนี้บริเวณสี่แยกหนองสือถือว่าระดับน้ำยังสูงมาก ทางจังหวัดได้ประสานกับทางกองทัพใช้รถยีเอ็มซีในการช่วยเหลืออพยพประชาชนออกมา

'ตรัง'เสียหาย 130 ล้าน

นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช รายงานว่า ขณะนี้ในพื้นที่โดยรวมฝนหยุดตกแล้ว สถานการณ์เริ่มที่จะคลี่คลายตามลําดับ ที่แหลมตะลุมพุกเริ่มเบาบาง ฟ้าโปร่ง การระดมความช่วยเหลือประชาชนได้รับความร่วมมืออย่างดี แต่ถนนสายหลักค่อนข้างเสียหายหนัก ในส่วนของสนามบินจากการตรวจสอบจากรองอธิบดีกองการบิน บอกว่าในทางเทคนิค คาดว่าในอีก 2-3 วันจะแก้ไขได้เรียบร้อยและคาดว่าน่าจะเปิดใช้การได้ ส่วนที่โรงพยาบาลท่าศาลาฝนหยุดตก การระบายน้ำเริ่มดีขึ้น ขณะนี้ทุกหน่วยงานกำลังระดมเร่งช่วยเหลือ สถานการณ์ล่าสุดมีประชาชนประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ของประชาชนทั้งหมดในจังหวัดได้รับความเดือดร้อน มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 18 ราย มีพื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 580,000 ไร่ ส่วนบ่อกุ้งและปลาจํานวนมากเสียหายทั้งหมด ถนนเสียหาย 1,811 สาย สะพานเสียหาย 185 แห่ง ฝาย 35 แห่ง วัด 75 แห่ง และสิ่งที่ต้องการขอสนับสนุนโดยด่วนคือเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ ส่วนนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง รายงานว่า ในช่วงบ่ายยังมีฝนตกไม่หยุด สถานการณ์น้ำที่น่าห่วงตอนนี้ที่อำเภอห้วยยอด อําเภอเมือง และอำเภอกันตัง ซึ่งทางจังหวัดกำลังเร่งระดมความช่วยเหลือ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ความเสียหายประมาณ 130 ล้านบาท

ฟุ้งรัฐบาลดูแลชาวบ้านเต็มที่

นายกรัฐมนตรีกล่าวสรุปในช่วงท้ายว่า ขอเน้นย้ำให้ทุกจังหวัดดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่ยังมีสถานการณ์ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลความปลอดภัย และการกินอยู่ของชาวบ้าน ซึ่งเท่าที่รับรายงานก็คงมีที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ที่ยังจำเป็นที่จะต้องระดมความช่วยเหลือ และตนขอย้ำให้ทุกจังหวัดเร่งทําความเข้าใจกับประชาชน ว่าในวันจันทร์ที่ 4 เม.ย.ครม.จะประชุมเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะเรื่องของทรัพย์สิน ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องทั่วไปแล้วก็ขอให้เร่งสํารวจ และส่งข้อมูลในเรื่องที่อยู่อาศัย พื้นที่ใดที่อยู่อาศัยของชาวบ้านเสียหายทั้งหลังก็ขอให้รายงานเข้ามาโดยเร็วที่สุด เพราะรัฐบาลต้องการเร่งช่วยเหลือโดยอาจใช้วิธีการคล้ายๆ กับโครงการบ้านมั่นคง หรือระดมหน่วยงานต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือ เช่น กองทัพ ซึ่งหากได้ข้อมูลเร็วการอนุมัติกรอบความช่วยเหลือก็จะเร็วขึ้นตามลำดับ

"ผมขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า รัฐ บาลจะดูแลอย่างเต็มที่ และขณะนี้เมื่อมีบางพื้นที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายก็จะระดมอุปกรณ์ต่างๆ ให้ความช่วยเหลือไปในจังหวัดที่ประสบปัญหาอยู่ เพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชน" นายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 3 เม.ย. นายอภิสิทธิ์มีภารกิจลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมภาคใต้ตลอดทั้งวัน โดยช่วงเช้าไปแจกถุงยังชีพที่ร.พ.สราญรมย์ อ.พุนพิน จ.สุราษฎ์ธานี ช่วงบ่ายแจกถุงยังชีพที่ร.พ.พนางดุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

'ในหลวง'พระราชทานทรัพย์

วันเดียวกัน ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 รับเงินพระราชทานจากพระบรมฉายาลักษณ์ จำนวน 500,000 บาท เพื่อที่จะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่

พล.ท.อุดมชัยกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ผ่านผู้บัญชาการทหารบกมาให้กับกองทัพภาคที่ 4 โดยพระองค์ท่านมีพระประสงค์จะช่วยเหลือพสกสิกรพี่น้องทุกหมู่เหล่าที่ได้รับผลกระทบโดยไม่เว้นผู้หนึ่งผู้ใด และมีพระราชกระแสรับสั่งผ่านผู้บัญชาการทหารบก ให้ดูแลประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มขีดความสามารถ

ส่วนที่วัดโทเอก ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นายสุทธิพงษ์ เทิดรัตนพงษ์ รองผู้ว่าฯ นครศรีฯ เป็นประธานเปิดครัวพระราชทานกลุ่มแม่บ้านงานครัวประจำโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจาก ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี ซึ่งต้องมาอาศัยอยู่ที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา นำมาซึ่งความปลาบปลื้มแก่ผู้ประสบภัยเป็นอย่างมาก

'กระบี่'เจออีก 2 ศพ

ที่จ.กระบี่ ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านต้นหาร ม.7 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นจุดที่เกิดภูเขาถล่มทำให้มีผู้เสียชีวิตและพบศพแล้วจำนวน 9 ราย และยังสูญหายอีก 4 ราย ในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทหาร อาสมัคร หน่วยกู้ภัยและญาติของผู้เสียชีวิตยังคงค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง และพบศพเพิ่มอีก 2 ศพ คือศพนางหนูเปรียม ชูศรี อายุ 35 ปี และด.ญ.อันธิกา ชูศรี อายุ 5 ขวบ

เวลา 11.30 น. วันเดียวกัน นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ที่วัดถ้ำโกบ พร้อมเดินทางลงพื้นที่บ้านต้นหารเพื่อดูที่เกิดเหตุ นายอาศิส กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมและความเป็นคนไทยด้วยกัน เมื่อได้รับความเดือดร้อน ตกทุกข์ได้ยาก ก็ต้องเห็นใจกัน เราไม่แบ่งแยกเชื้อชาติและศาสนา และต้องให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตั้งมั่นอยู่ในสติ ไม่มีอะไรขวางกั้นระหว่างความเป็นพี่น้องไทยพุทธและมุสลิม และฝากเน้นย้ำให้ผู้ที่บริจาคอาหารให้ผู้ประสบภัยขอให้เป็นอาหารที่ฮาลาล ซึ่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาวไทยพุทธและมุสลิมที่ประสบภัยสามารถรับประทานได้

กองทัพเรือส่งของช่วยภาคใต้

เวลา 19.00 น. พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบหมายให้พลเรือเอกณรงค์ เทศวิศาล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จัดเครื่องบินแอมแบร์-135 หมายเลข 2113 ของกองทัพเรือ จากฝูงบิน 201 กองบิน 2 กองการบินทหารเรือ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง นำถุงยังชีพในโครงการ "กลุ่ม ปตท. ร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้" ที่ร่วมกับกองทัพเรือ จำนวน 500 ชุด นำส่งให้กับทัพเรือภาคที่ 2 จังหวัดสงขลา ที่สนามบินหาดใหญ่ เพื่อนำเข้าให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

นายเดชา บุญวรรณ ผู้จัดการส่วนชุมชนสัมพันธ์ ฝ่ายกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "กลุ่ม ปตท.ร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้" ได้ร่วมกับกองทัพเรือบรรจุถุงยังชีพจำนวนกว่า 7,000 ชุด ที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เพื่อนำเข้าให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.กระบี่ สงขลา และสุราษฎร์ ธานี โดยจะลำเลียงโดยเครื่องบินของกองทัพเรือ จำนวน 2,000 ชุด และลำเลียงโดยเรือรบของกองทัพเรือ 5,000 ชุด ซึ่งจะออกเดินทางในวันที่ 3 เม.ย.

'เทือก'แจกข้าวริมน้ำตาปี

เวลา 17.00 น. ที่ท่าเรือตำรวจน้ำสุราษฎร์ ธานี ริมแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช. ภาค 8 และคณะ ลงเรือนำข้าวกล่อง 500 กล่อง น้ำ 1,000 ขวด และถุงยังชีพแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมริมแม่น้ำตาปี

จากนั้นขึ้นจากเรือบริเวณริมถนนสายตัดใหม่สุราษฎร์ฯ-สนามบิน ตำบลวัดประดู่ นำข้าวกล่องและน้ำไปแจกประชาชนประมาณ 200 คนที่ติดบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ริมถนนสายดังกล่าว

ด้านนายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ ธานี ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจดูสภาพน้ำทางอากาศไล่ขึ้นไปตั้งแต่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี-อ.พุนพิน พบว่าถนนสายหลักทั้งหมดมีกระแสน้ำท่วมสูง รถไม่สามารถสัญจรได้ รวมทั้งมีรถยนต์ตกข้างทางจมน้ำหลายคัน มีบ้านเรือนถูกท่วมถึงมิดหลังคาอีกจำนวนมาก

นายธีระยุทธกล่าวว่า เห็นสภาพการไหลของกระแสน้ำจะใช้แผนให้เจาะเกาะกลาง ถ.พุนพิน-หนองขรี เป็นช่วงๆ ให้ระบายน้ำออกทะเลได้เร็ว และสั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยส่วนหน้าเป็นการเร่งด่วนที่ อ.พุนพิน โดยเน้นช่วยชีวิตผู้ประสบภัยก่อนและจัดเรือท้องแบนเข้าช่วยผู้ที่ติดในพื้นที่น้ำท่วมสูงออกมาไม่ได้ โดยให้ครัวกาชาดส่งอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานและอาหารแห้งกระจายเข้าช่วยเหลือเร่งด่วน

ดินสไลด์ทับบ้านเรือนอีก

วันเดียวกัน ศูนย์กู้ภัยดอนสักรับแจ้งมีดินสไลด์จากภูเขาลงมาทับบ้านที่บ้านเขาถ้ำ หมู่ 13 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา จึงส่งทีมกู้ภัยเดินเท้ากว่า 5 ก.ม.เข้าไปช่วยชาวบ้าน 4 คนและแม่ชีสำนักสงฆ์วังมัจฉา 2 รูปออกมาได้ และมีนางพัว ปานดำ อายุ 83 ปี ป่วยเป็นโรคเบาหวานมีความดันสูง ต้องขอเฮคิคอปเตอร์จาก ตชด.อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช มารับ นอกจากนี้ พบบ้านถูกดินทับพัง 2 หลัง รถจักรยานยนต์ 2 คัน แต่หลังจากนั้นได้มีฝนตกหนักลงมาอีก ทีมกู้ภัยทั้งหมดจึงต้องรีบออกจากพื้นที่ทันที

สำหรับพื้นที่น้ำท่วมของ จ.สุราษฎร์ธานี มี 19 อำเภอ 129 ตำบล 1,041 หมู่บ้าน มีราษฎรเดือดร้อน 114,034 ครัวเรือน 433,013 คน มีการอพยพ 38,568 คน เสียชีวิต 8 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 318,757 ไร่ ถนนเสียหาย 431 สาย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 2,010 ล้านบาท

'ชวน'ออกเยี่ยมชาวตรัง

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่นำถุงยังชีพ 600 ถุง ไปมอบให้กับประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 1-4 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง จำนวน 650 ครัวเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม โดยนายณัฐพงศ์ เนียมสม นายก อบต.นาตาล่วง ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังพนังกั้นแม่น้ำตรังทั้ง 3 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย ม.2 ต.หนองตรุด ม.4 ต.นาตาล่วง และ ม.6 ต.บางรัก พังทลายลงมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงถึง 3 เมตร ขณะที่พื้นที่บนเนินกลับมีน้ำท่วมสูงถึง 2.00-2.50 เมตร ทำให้มีบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวจมอยู่ใต้น้ำกว่า 100 ครอบครัว

ด้านนายชวนได้แสดงความเสียใจกับผู้ที่ประ สบภัย พร้อมบอกว่า ติดตามสถานการณ์จากทาง ผวจ.ตรังอย่างต่อเนื่อง และเป็นห่วงคนในพื้นที่ เพราะพื้นที่นี้เคยเกิดน้ำท่วมหนักเมื่อปี 2518 โดยครั้งนั้นระดับน้ำสูงถึง 5 เมตร และมีผู้เสียชีวิตนับ 10 คน แต่มาปีนี้เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ถือว่า จ.ตรัง ยังเดือดร้อนไม่มากนัก จากนั้นนายชวนได้ลงเรือท้องแบนตรวจสภาพน้ำท่วมในเขต ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์