ช่างทำรองเท้าผู้อารี...
ในเมืองเล็กๆแห่งนี้ มีร้านทำรองเท้าอยู่ร้านหนึ่ง
ชายเจ้าของร้านเป็นผู้มีใจอารี และมีฝีมือในการทำรองเท้าเป็นอย่างมาก และไม่ว่ารองเท้าคู่นั้นจะขาดวิ่นเพียงใด เขาก็จะสามารถซ่อมให้กลับมาใช้งานเหมือนเดิมได้ และเขาก็คิดราคาไม่แพง หากใครไม่มีเงินจริงๆเขาก็ซ่อมให้ฟรีๆ ดังนั้น เขาจึงเป็นที่รักใคร่ของคนในเมืองและต่างเมืองที่ต่างพากันมาใช้บริการของเขาอยู่เสมอ
ทุกครั้งที่เขาลงมือทำรองเท้า ไม่ว่าจะเป็นการตัดใหม่หรือซ่อม เขาคิดเสมอว่ากำลังทำรองเท้าของตัวเอง เหตุนี้เขาจึงทุ่มเทกายใจและความสามารถทั้งหมดในการทำอย่างดีที่สุด
วันหนึ่งขณะที่เขากำลังนั่งตัดรองเท้าคู่ใหม่อยู่นั้น
ได้มีชายชราคนหนึ่งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่าๆขาดๆเดินเข้ามาในร้านเขา พร้อมกับเอ่ยว่า
"พ่อหนุ่ม...ช่วยตัดรองเท้าให้ข้าสักคู่ได้ไหม" ช่างทำรองเท้ามองชายชราด้วยความรู้สึกสงสาร และตอบไปว่า "ได้สิ เชิญลุงนั่งก่อน" "เจ้าคิดราคาเท่าไรล่ะพ่อหนุ่ม" ชายชราเอ่ยถาม "ฉันไม่คิดเงินหรอกจะตัดรองเท้าให้ฟรีๆเพราะถ้าพ่อฉันอยู่ก็คงอายุเท่าลุงนี่ล่ะถือเสียว่าฉันตัดรองเท้าให้ลุงใส่ก็เหมือนตัดรองเท้าให้พ่อใส่ก็แล้วกัน"
ชายชราไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ยิ้มและพยักหน้า
พร้อมกับยื่นเท้าให้ช่างทำรองเท้าวัดขนาด เมื่อตะวันใกล้ตกดินรองเท้าคู่ใหม่ของชายชราก็เสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มยื่นรองเท้าให้ชายชรา ที่รับมาสวมในทันที
"ขอบใจนะพ่อหนุ่มเจ้าช่างเป็นคนที่มีน้ำใจอารี ข้าเองก็ยากจนไม่มีอะไรที่จะตอบแทนเจ้าได้ นอกเสียจากหนังวัวผืนนี้...จำไว้ว่าถ้าเมื่อใดที่เจ้าต้องการตัดรองเท้าคู่ใหม่ให้ตัวเอง จงนำหนังวัวผืนนี้มาตัดรองเท้าเถิด มันจะช่วยให้เจ้าสบายขึ้นบ้าง"
พูดจบชายชราก็ส่งหนังวัวให้กับช่างทำรองเท้า แล้วเดินจากไป
หลายปีผ่านไป...
ชายหนุ่มก็ยังตรากตรำทำงานอย่างหนัก แทบไม่มีเวลาพักผ่อน ดังนั้น หนังวัวที่ชายชราให้ไว้ก็ยังคงอยู่ในตู้เพราะชายหนุ่มยังไม่ได้คิดจะตัดรองเท้าคู่ใหม่ให้ตัวเอง เพราะเขาเห็นว่าไม่จำเป็น เนื่องจากไม่ได้เดินทางไปไหน
ต่อมาไม่นานชายหนุ่มก็ต้องไปหาหมอยังต่างเมือง
ด้วยอาการเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานอย่างหนัก เขาจึงได้ตัดรองเท้าคู่ใหม่ให้ตนเอง และไม่ลืมที่จะใช้หนังวัวที่ชายชราให้ไว้รองเท้าคู่ใหม่ของเขาช่างสวยงามมาก เมื่อเขาทดลองสวมใส่ ปรากฏว่ามันมีความนุ่มนวลและเบาดุจดังใช้ปุยเมฆมาทำรองเท้า
"โอ...มันช่างแสนวิเศษอะไรอย่างนี้"
ชายหนุ่มอุทาน และเมื่อเขาใส่รองเท้าเดินออกไปนอกบ้าน เขารู้สึกเหมือนว่าเท้าของเขามิได้ติดดิน และแต่ละก้าวที่ย่างออกไปนั้นมันช่างเป็นก้าวที่ยาวเหลือเกิน เขารู้สึกตกใจและประหลาดใจมาก แต่เมื่อเขาได้ลองทำดูหลายๆครั้งก็แน่ใจว่าเขามิได้ฝัน รองเท้าคู่ใหม่นี่เองที่ทำให้เป็นเช่นนั้น เขาหวนนึกถึงคำพูดของชายชรา และรู้ทันทีว่าเทพยดาได้แปลงตัวมาในร่างชายชรายากจน เพื่อช่วยเหลือเขาในยามเดือดร้อนนั่นเอง ชายหนุ่มจึงก้มลงกราบเทพยดาด้วยความซาบซึ้งในบุญคุณ
..............
ความมีน้ำใจเอื้ออารี และตั้งใจดีที่จะทำสิ่งดีๆให้กับผู้อื่นนั้น เมื่อมีอยู่ในบุคคลใดแล้ว สุดท้ายย่อมนำสิ่งดีๆมาสู่ผู้นั้นเสมอ ***
ขอบคุณที่มา : จาก หนังสือ ธรมลีลา ปี ๒๕๔๙