อ.อิริยาบถ..เรื่องใกล้ตัวที่ถูกมองข้าม
หลายท่านได้พูดตรงกันว่า "โรคเกิดจากพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม" ถือเป็นข้อเท็จจริงที่มนุษย์เราทราบดี แต่ก็ไม่เคยตระหนักและให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอากาศ สังคม คนรอบข้าง ล้วนมีผลต่อการส่งเสริมให้เป็นโรคได้ ส่วนพฤติกรรรมที่ก่อให้เกิดโรคนั้น ส่วนใหญ่เราก็ทราบกันดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพฤติกรรมการทานอาหาร การออกกำลังกายการพักผ่อนให้เพียงพอ
และที่สำคัญที่สุด ก็คือพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือ อิริยาบถ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก จนถูกมองข้ามความสำคัญ แต่กลับเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อร่างกายโดยตรง และเป็นตัวกำหนดถึงความเจ็บป่วยที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของคนเราได้ในอนาคต อิริยาบถแบบไหนก่อให้เกิดความเจ็บป่วยใน...10 วิธีหนีให้ไกล ก่อนโครงสร้างร่างกายเสียสมดุล
1. การนั่งไขว่ห้าง คุณรู้ไหม? การนั่งไขว่ห้างจะทำให้น้ำหนักตัวลงที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง เป็นผลให้กระดูกคดอย่างแน่นอน หรืออาจจะคดแล้วก็ได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว
2. การนั่งกอดอก ทำให้หลังช่วงบน สะบัก และหัวไหล่ ถูกยืดยาวออก หลังช่วงบนค่อมและงุ้มไปด้านหน้า ทำให้กระดูกคอยื่นไปด้านหน้า มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงแขน อาจทำให้มืออ่อนแรงหรือชาได้ นอกจากนี้ยังมีผลต่อหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เพราะถ้ากระดูกคอผิดรูป จะทำให้กล้ามเนื้อคอเกร็ง และจำกัดการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงสมองเป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะ หรืออาจทำให้เป็นไมเกรนเรื้อรังได้
3. การนั่งหลังงอ/นั่งหลังค่อม คุณรู้ไหมว่าการนั่งค่อมหลัง เช่น การอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานๆ เป็นชั่วโมง จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง เกิดการคั่งของกรดแลกติค ทำให้มีอาการเมื่อยล้า ปวด และมีปัญหาเรื่องกระดูกผิดรูปตามมา
4. การนั่งเบาะเก้าอี้ไม่เต็มก้น การนั่งเก้าอี้ส่วนใหญ่คนเราจะชอบนั่งแบบครึ่งๆ ก้น คุณรู้ไหมว่าการนั่งแบบครึ่งก้น จะทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนักเพราะฐานในการรับน้ำหนักตัวแคบ แต่ในทางตรงข้ามถ้านั่งให้เต็มก้นเต็มเบาะ คือเลื่อนก้นให้เข้าในสุดจนติดพนักพิง จะทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานน้อยและเกิดการรองรับน้ำหนักตัวได้เต็มที่
5. การยืนพักขาลงน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว คุณรู้ไหม? การยืนที่ถูกต้องควรลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2ข้างเท่าๆ กัน โดยยืนให้ขากว้างเท่าสะโพก จะทำให้เกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกาย ไม่ทำให้กล้ามเนื้อข้างใดข้างหนึ่งต้องทำงานหนักมากเกินไป ในทางตรงข้าม หากยืนพักขาหรือลงน้ำหนักขาไม่เท่ากันจะทำให้กระดูกเชิงกรานบิดเบี้ยวส่งผลให้กระดูกสันหลังคด
6. การยืนแอ่นพุง/ค่อมหลัง ควรยืนหลังตรงแขม่วท้องเล็กน้อย ขณะยืน เดิน หรือนั่ง ให้พยายามแขม่วท้องเล็กน้อย โดยให้มีสติรู้สึกตัวอยู่ตลอด หากเป็นไปได้ควรทำตลอดเวลา เพื่อเป็นการรักษาแนวกระดูกช่วงล่างไม่ให้แอ่นและทำให้ไม่ปวดหลัง
7. การใส่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง จะทำให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลังและการมีโครงสร้างร่างกายที่ผิด
8. การสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว ไม่ควรสะพายกระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนเป็นการถือกระเป๋า โดยใช้ร่างกายทั้ง 2ข้างให้เท่าๆ กัน อย่าใช้แค่ข้างใดข้างหนึ่งตลอด เพราะจะทำให้ตัวคุณต้องทำงานหนักอยู่เพียงซีกเดียว ส่งผลให้กระดูกสันหลังคดได้
9. การหิ้วของด้วยนิ้ว การใช้นิ้วหิ้วของหนักบ่อยๆจะมีผลทำให้มีพังผืดยึดตามข้อนิ้วมือ เพราะจริงๆ แล้วกล้ามเนื้อในมือเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก หน้าที่หลักคือการใช้หยิบ, จับโดยไม่หนัก แต่หากต้องใช้จับหรือหิ้วหนักๆ จะทำให้เส้นเอ็นมีการเสียดสีและเกิดพังผืดในที่สุด ยิ่งหากหิ้วหนักมากๆ จะทำให้รั้งกล้ามเนื้อมัดอื่นๆ และเกี่ยวโยงไปถึงกระดูกคอ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งมากกว่าปกติ มีผลต่อการทรุดของกระดูกและกดทับเส้นประสาทได้
10. การนอนขดตัว/นอนตัวเอียง คุณรู้ไหม? ท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ถูกต้องที่สุด ควรนอนให้ศีรษะอยู่ในแนวระนาบขนานกับเพดาน ไม่แหงนหน้า หรือก้มคอมากเกินไป หมอนหนุนศีรษะต้องไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป ควรมีหมอนรองใต้เข่าเพื่อลดความแอ่นของกระดูกสันหลังช่วงล่าง หากจำเป็นต้องนอนตะแคง ให้หาหมอนข้างก่าย โดยก่ายให้ขาทั้งหมดอยู่บนหมอนข้าง เพื่อรักษาแนวกระดูกให้อยู่ในแนวตรง
อิริยาบถเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ร่างกายถูกใช้ซ้ำๆ อยู่ทุกวันหากเรามีสติระลึกรู้ได้ว่า เมื่อจะเคลื่อนไหวร่างกายในอิริยาบถใด ก็ให้อยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง เหมาะสม ชีวิตเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ใช้ร่างกาย แต่ต้องรู้จักดูแลให้ถูกทางไม่ใช่ปล่อยไปจนสายเกินแก้ ต้องให้เป็นโรคแล้วจึงรักษาซึ่งเมื่อเป็นโรคก็ยากต่อการเยียวยาให้ร่างกายกลับมาเหมือนเดิม อาจต้องเสียเวลา เสียทรัพย์ ทั้งของตัวคนเจ็บและผู้ที่อยู่รอบข้างด้วย
หากท่านต้องการมีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยและไม่เป็นภาระใคร ควรต้องหันมาใส่ใจดูแลอิริยาบถให้ถูกต้องตั้งแต่วันนี้ เพื่อการมีสุขภาพดีได้ทั้งกายและจิตวิญญาณ เพราะ "จิตใจที่แจ่มใส ย่อมอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง"