ตั้งแต่ที่สกาเล็ตประกาศแยกทางกับไรอัน เรโนลด์ ก็มีข่าวเล็ดลอดออกมาทันทีว่า เบลก ไลฟ์ลีย์ ได้ย้ายข้าวของไปอยู่บ้านของไรอัน ตั้งแต่ช่วงที่ถ่ายหนังเรื่อง Green Lantern ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาแล้ว ดูเหมือนว่าเบลกกำลังพยายามเดินตามรอยของแอลเจลิน่าอยู่ต้อยๆ
ซึ่ง ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้หญิงเหล่านี้มีความเป็นนักล่าอยู่ในตัวสูง แถมยังใช้ความสวยยั่วยวนล่าผู้ชายที่เธอต้องการอย่างโหดเหี้ยมอีกด้วย
นี่ เราไม่ได้กำลังจะพูดถึงผู้หญิงฉวยโอกาส ที่มักจะเข้ามาแทรกในความสัมพันธ์อันเปราะบางระหว่างหนุ่มคนนั้นและคนรัก หรอกนะ "พวกนักฉวยโอกาสมักจะพยายามเอาชนะใจของหนุ่มๆ ในช่วงที่เขากำลังมีความสัมพันธ์อ่อนแอ แต่ว่าพวกเธอจะไม่มีความมั่นใจมากพอที่จะแย่งไตรต่อหน้าต่อตาหรอก" ดร.เซท เมเยอร์ เจ้าของหนังสือ Dr.Seth's Love Prescription กล่าว นั่นหมายความว่า ตราบใดที่สายสัมพันธ์ของคุณยังแน่นหนายและแข็งแรงหนุ่มของคุณก็ไม่มีทางตก เป็นของแมวขโมยพวกนี้แน่นอน
ในขณะที่สาวนักล่ามักจะใช้เขี้ยวเล็บของเธอเพื่อจิกและฉกเอาหนุ่มที่พวกเธอต้องการมาอย่างไม่แคร์สื่อเลยต่างหาก "พวก เธอมักเป็นผู้ล่าที่มีความเย่อหยิ่งมั่นใจ และมีแรงดึงดูดทางเพศสูงมากๆ แต่พวกเธอยังต้องการที่จะทดสอบเสน่ห์ของตัวเองอยู่เสมอๆ" ดร.เอวา คาแดล นักบำบัดความสัมพันธ์ใน L.A. กล่าว และสถานที่ที่สาวๆพวกนี้ชอบเปิดเกมล่ามากที่สุดก็คือ "ที่ทำงาน" นั่นเอง เพราะเธอสามารถดูพัฒนาการของเกมที่เธอเล่นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องไปนั่งเฝ้าเขาที่ออฟฟิศ เพียงแต่ปล่อยให้ "ยัยจอมฉก" เล่นเกมของตัวเองไปก่อนเลย
รู้ได้ไง คนไหน "มือฉก"
เริ่ม สังเกตง่ายๆว่า ถ้าคุณได้ยินชื่อใครบ่อยขึ้นจากปากหนุ่มของคุณ นั่นแปลว่าเกมเริ่มขึ้นแล้ว "สาวนักล่าจะใช้วิธีการร้อยแปดเล่มเกวียนในการเข้าหนุ่มที่เธอต้องการ เธอสมัครใจที่จะช่วยเหลือทุกสิ่งอย่างที่เขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ข้าวกลางวัน หรือแม้กระทั่งการพูดว่า เขาดูเซ็กซี่ยังไง เพราะว่าเธอไมได้คิดเรื่องของการสะบั้นความสัมพันธ์ของใคร เธอคิดแค่การหว่านเสน่ห์ เพราะฉะนั้นการทอดสะพานของเธอจึงชัดเจนมาก" ดร.เมเยอร์กล่าว และวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะบอกได้ว่า "เธอได้ใจผู้ชายของคุณไปหรือยัง" ก็เพียงสังเกตว่า "พวกเขาจะหลบเลี่ยงการตอบคำถามเมื่อคุณเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนี้ เพราะเขาเองก็รู้ว่า "สาวนักล่า" กำลังเล่นเกมกับเขาอยู่แม้เกมนี้ช่วยให้เขารู้สึกถึงอีโก้ในตัวที่สูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เขารู้สึกผิดเกินกว่าที่จะยอมรับว่า "กิ๊ก" กับเธอคนนั้นจริง" เมเยอร์สรุป
เล่นไปตามเกม
เมื่อ คุณรู้แล้วว่าหนุ่มของคุณคือเหยื่ออันโอชะของเธอ ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องเปิดเกมเร็วกลับไปแล้วว่า "คุณรู้สึกไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้" เมเยอร์อธิบาย บอกเขาไปตรงๆว่าคุณคิดว่าเธอคือตัวอันตราย และถ้าสมมติว่าคุณจำเป็นต้องทำงานกับหนุ่มที่เสน่ห์แรงมากๆ คุณเองก็คงใจไม่แข็งพอที่จะปล่อยให้ตัวเองทำงานกับหนุ่มคนนั้น 2 ต่อ 2 เช่นกัน เพราะฉะนั้นในทางกลับกัน คุณก็ได้แสดงให้เขาเห็นแล้วว่าคุณเข้าใจสถานการณ์ของเขามากเพียงใดว่า การหว่านเสน่ห์แบบรุกนี้น่ากลัวกว่าการทอดสะพานแบบชิลๆขนาดไหน (แต่ขอร้องอย่าพูดว่า "อย่าคิดนะว่าคุณนอกใจได้คนเดียว") จากนั้นเริ่มให้ทางออก (กึ่งๆความตกลงร่วมกัน) ว่า เขาไม่ควรมีกิจกรรมใดๆ ร่วมกับผู้หญิงคนนี้อีกหลังเลิกงาน ถ้าเขาทำตามกฎนี้ไม่ได้ คุณคงต้องไป
อีกวิธีหนึ่งที่ดีไม่แพ้กันคือ การแวะไปกินข้าวกลางวันกับเขาบ้างสักวัน แล้วอย่าลืมทักทายเธอแบบสบายๆด้วยละ (เราหมายถึงคุณทั้งคู่) ก่อนจะเดินเคียงข้างกันผ่านเธอไป "มันเป็นการสร้างเขตแดนของคุณขึ้นมา" คาแดลกล่าว แถมยังเป็นการประกาศความเป็นพรรคพวกแบบ 2 ต่อ 1 ไปโดยปริยายซึ่งถ้าแม่สาวจอมฉก รู้สึกว่าถูกรุมเมื่อไหร่เธอก็จะเปลี่ยนเป้าหมายหาเหยื่อรายใหม่ทันที
ขอบคุณข้อมูล : นิตยสาร Cosmopolitan