ข้ามฟากมาที่สหรัฐอเมริกา ธุรกิจเครื่องดื่มเจ้าใหญ่อีกแห่งหนึ่ง คือบริษัท โซดาสตรีม ก็เพิ่งประกาศตัวไปว่าเร็วๆ นี้บริษัทจะบรรจุเครื่องดื่มในขวดพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ในการฝังกลบภายใน 5 ปี เทียบกับขวดพลาสติกปกติใช้เวลาย่อยสลายถึง 450 ปี ก็เท่ากับลดระยะเวลาลงถึง 90 เท่า
ขวดโซดาสตรีมแบบใหม่ที่เรียกว่า "ขวดชีวภาพ" (Bio Bottles) ผลิตขึ้นโดยเติมสารจากบริษัท Bio-Tec Environmental เข้าไปในกระบวนการผลิตตามปกติ ซึ่งจะใช้กับส่วนขวด ฝา และพลาสติกห่อหุ้ม ซึ่งทำให้ส่วนประกอบทุกส่วนสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติหรือนำไปรีไซเคิลได้
ถึงแม้ว่าโคคาโคล่า ไฮนซ์ และโซดาสตรีม จะนำเสนอว่าการลงทุนการรีไซเคิล การเติมสารย่อยสลาย และไม่ใช้ปิโตรเลียมในการผลิตพลาสติก ล้วนช่วยลดปริมาณขยะฝังกลบ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทใหญ่ๆ เหล่านี้จะต้องลงทุนอีกมากแค่ไหน เราถึงจะเห็นการแก้ไขความเสียหายต่อโลกเราที่ได้ก่อกันไว้
จากการศึกษาของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกาเมื่อเร็วๆ นี้ มีตัวเลขว่า ในปี 2009 มีปริมาณขยะจากบรรจุภัณฑ์พลาสติก (รวมทั้งขวด) กว่า 12.53 ล้านตันที่สิ้นสุดด้วยการฝังกลบในสหรัฐ
นอกจากสารเคมีอื่นๆ และผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายแล้ว พลาสติกส่วนมากที่ใช้ในอาหารและเครื่องดื่ม มีสารเร่งฮอร์โมนเอสโตรเจน ในอีกความหมายหนึ่งของสถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สหรัฐอเมริกา) ระบุว่า "พลาสติกเหล่านี้มีความสามารถที่จะแทรกซึมเข้าสู่ระบบต่อไร้ท่อในร่างกายและและส่งผลเสียต่อกายภาพ"
รู้อย่างนี้แล้ว บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มในประเทศไทยอย่ารอช้าอยู่เลย น่าจะลงทุนผลิตขวดพลาสติกย่อยสลายได้หรือรีไซเคิลอย่างครบวงจรดู เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมบ้าง
...แต่จะให้ดีที่สุด "ลด"การใช้พลาสติกด้วยการพกกล่อง กระติก ฯลฯ เป็นวิธีที่ใช้เงินน้อยที่สุด และเห็นผลมากที่สุด
...แต่จะให้ดีที่สุด "ลด"การใช้พลาสติกด้วยการพกกล่อง กระติก ฯลฯ เป็นวิธีที่ใช้เงินน้อยที่สุด และเห็นผลมากที่สุด
greenworld