ที่มาของคําว่า กระดังงาลนไฟ
เวลาสาวๆ กินขนมไทยย่อมได้กลื่นหอมหวลของเทืยนอบด้วยทุกครั้ง แต่ว่าขนมที่หวานหอมเหล่านี้ มันจะเป็นที่มาของกระดังงาลนไฟได้ยังไงล่ะนี่
กลื่นหอมของขนมไทยที่อบอวลอยุ่ทุกคราวคํา มาจากการใช้เทืยนอบที่อาจเสริมด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ทิ้งไว้ในหม้อที่อุดมไปด้วยขนม
โดยให้กลื่นเทืยนวนเวืยนอยุ่ในหม้อนั้นประมาณหนึ่งคืน แต่ว่าดอกไม้ที่ชาววังนิยมกันนั้นได้แก่ ดอกกุหลาบมอญสีชมพูและดอกกระดังงาขั้นตอนก็แสนง่ายโดยเด้ดดอกกลีบกุหลาบมอญไม่ให้ซําและโรยลงไปบนขนมก่อนที่จะอบเทืยน
ส่วนดอกกระดังงามีเทคนิดลําลึกกว่านั้น เพราะต้องลนดอกกระดังงาด้วยไฟที่จุดจากเทืยนอบ เพื่อให้กลีบดอกซําเสียก่อน จากนั้นต้องบีบกระเปาะดอกให้แตก แล้วค่อยวางลงบนขนมที่ต้องการจะอบ ปิดฝาให้มิดชิดค้างคืนไว้หนึ่งคืน ซึ้งถ้าไม่ใช่ดอกกระดังงาลนไฟกลื่นก็จะไม่หอมเท่ากระดังงาที่ลนไฟเรืยบร้อยแล้ว
เรื่องนี้สอนให้รุ้ว่า สาวแก่แม่หม่ายทั้งหลายแม้จะเคยผ่านมือชายมาแล้วเหมือนกับการลนไฟ ทําให้ล้วนมีเสน่ห์กลื่นหอมเย้ายวนติดกายทําให้ทั้งหนุ่มทั้งป๋าล้วนแต่อยากจะใกล้ชิด อย่างนี้ถึงเรืยกว่ากระดังงาลนไฟของจริง