
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พระอาจารย์ท่านนึงที่ผมเคารพ ท่านได้พิมพ์บทความ เรื่อง "ทำไมต้องสวดมนต์" แล้วนำบทความนี้ให้แก่ผม
ในสังคมนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันสัตวโลกทั้งหลาย ล้วนแต่ต้องดิ้นรนเพื่อนำพาชีวิตของ ตนให้รอดพ้นจากความหิว ความเจ็บ ความหนาว ความร้อน ซึ่งคือความทุกข์ขั้นพื้นฐานทึ่สัตว์ โลกทั้งหลายต้องเผชิญ การหลีกเลี่ยงทุกข์พื้นฐานเหล่านี้ได้ย่อมได้พบความสุขขั้นพื้นฐาน
การสวดมนต์เป็นอีกวิธีหนึ่ง และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใฝ่ดี ผู้อยากเป็นคนดี แต่น่าเสียดายที่ มีหลายคนเสียเวลาไปกับการสวดมนต์โดยเปล่าประโยชน์ เสียเงิน เสียเวลา เสียแรง โดยไม่ได้อะไรเลย..
ในที่นี้ขอกล่าวเฉพาะการสวดมนต์อย่างไรที่จะได้ประโยชน์เต็มที่ ไม่เสียเงินเปล่า ไม่เสียเวลาและเสียแรงไปเปล่า ดังนี้..
การที่เราท่านทั้งหลาย จะทำสิ่งใด้ย่อมต้องมีเป้าหมาย เช่น การลงทุนย่อมหวังกำไร ปลูกพืชย่อมต้องการผล เมื่อทำความดีแล้วย่อมต้องการผลที่ดีเช่นกัน
ฉะนั้น การสวดมนต์ จึงมีใจความสำคัญคือ เป็นการชำระจิตให้สะอาด มีความหมาย เช่นเดียวกับ บุญ ที่เป็นเครื่องชำระจิต เมื่อเราสวดมนต์แล้ว จิตจะต้องสะอาด ผ่องใส เพราะเรา กล่าวแต่คำดี ที่เป็นคำของพระอริยเจ้า เมื่อจิตผ่องใส วาจาก็น่ารักน่าฟัง เพราะพูดแต่สิ่งที่เป็นอรรถเป็นธรรม ผู้ฟังเราแล้วเกิดปัญญาไม่หลงผิด ตื่นจากความงมงาย เป็นคำพูดที่เราเจริญรอยตามพระอริยเจ้า เมื่อวาจาผ่องใส ร่างกายมีหน้าตาเป็นต้น ก็จะผ่องใสอิ่มบุญอิ่มกุศล เพราะเราดำเนินตามพระอริยเจ้าคือผู้ที่เจริญแล้ว ไม่เสื่อมไม่ตกสู่ความชั่วและความผิดอีก การสวดมนต์ที่ถูกจะแสดงผลที่จิตใจของเจ้าตัวก่อน แล้วจึงแสดงออกมาสู่ภายนอก
บางท่านสวดมนต์มานาน แต่หน้าตาไม่ผ่องใส วาจาไม่น่ารัก หาอรรถหาธรรมไม่ได้ นั่น ย่อมแสดงว่า จิตใจภายในต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน การสวดมนต์ที่ถูกต้องจะส่งผลคือ ภายใน เราจะเป็นผู้รู้จักอิ่ม รู้จักพอ และภายนอกจะแผ่ถึงผู้อื่นด้วยคือ รู้จักให้ รู้จักอภัย อย่างน้อยหากเรามีความเข้าใจว่าการหันหน้าสู่พระปฏิมา คือการหันหน้าเข้าสู่จิตสู่ใจของ ตนเอง จะสำรวมกายให้เรียบร้อย สำรวมวาจา และสำรวมความคิดให้เป็นหนึ่ง การสวดมนต์จึง ศักดิ์สิทธ์และมีพลัง การมีกาย วาจาและใจเป็นหนึ่งเดียวกับพระธรรมหรือมนต์ที่สวดถือเป็น หัวใจและเคล็ดลับ เช่น เมื่อสวดมหากรุณาธารณี ของพระกวนอิมโพธิสัตว์ เราก็ต้องมีเมตตา กรุณา ปรารถนาให้สัตว์ทั้งหลายพ้นทุกข์ มนต์นั้นจึงสำแดงอานุภาพ เพราะเรามีจิตแบบพระโพธิสัตว์ มีวาจาเหมือนพระโพธิสัตว์ และประพฤติตนอย่างพระโพธิสัตว์ การสวดพระพุทธคุณ ก็เพื่อน้อมเอาพระคุณอันประเสริฐของพระพุทธเจ้า คือความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้ไกลจากกิเลส ฯลฯ มาไว้ในตน หากผู้ใดสวดพระพุทธคณ แล้วผิดจากหลักนี้แล้ว ก็ถือเป็นอวิชชา ผิดจากพุทธประสงค์ และขาดทุนอย่างยิ่ง
จึงขอฝากมายังผู้ใฝ่ดีทั้งหลาย ว่าเรานับถือศาสนาเพื่ออะไร เราสวดมนต์เพื่ออะไร หวังว่าบทความข้างต้น จะให้คำตอบแก่ท่านทั้งหลายแล้วว่าการสวดมนต์ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร สวดแล้วได้อะไร ซึ่งท่านจะหาคำตอบได้จากตัวท่านเอง ไม่จำเป็นต้องถามผู้ใด เพราะไม่มีใครตอบได้ดีเท่าตัวเรา เราย่อมรู้เองว่า ... เราได้อะไรมาบ้าง เราได้พัฒนาอะไรบ้าง และเราเสียอะไรไป
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือการสวดมนต์ด้วยศรัทธา แต่การสวดมนต์ด้วยปัญญานั้นยิ่งมีอีก นัยยะหนึ่ง ที่มากกว่าพิธีกรรม ความเชื่อและประเพณีที่ทำสืบต่อกันมา ... ซึ่งจะได้กล่าวในโอกาสต่อไป ด้วยประการฉะนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก : PALUNGJIT.COM
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday