คู่รักเลิกกันเพราะเหตุใด

คู่รักเลิกกันเพราะเหตุใด


ส่วนสาเหตุที่ทำให้รักนี้มีอันต้องเลิกรากันน่ะเรอะ แซมเปิ้ลให้ฟังก็ได้...

1. คู่รักต่างคาดหวังซึ่งกันและกันมากเกินไป

พอฝ่ายนั้นทำไม่ได้ หรือไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกคาดหวังไว้ เจ้าต่อมความไม่สบอารมณ์และอิดหนา ระอาใจก็จะกำเริบขึ้นมาทันที สังเกตดูดิ เมื่อเรารักใคร ร้อยทั้งร้อยอยากให้แฟนเป็นคนแบบที่เค้าอยากให้เป็นทั้งน้านเลย เช่น... ชายอยากให้แฟนของเค้า...

• เป็นแม่ศรีเรือน คอยปรนนิบัติเค้าทุกกรณี แต่ในเมื่อสาวยุคดิจิตอลต้องทำงานนอกบ้านเพื่อช่วยหารายได้มาอุดค่าใช้จ่าย ด้วย จึงยากที่จะเป็นอย่างที่หนุ่มปรารถนาไว้...ไม่รู้จะให้เป็นเบ๊ (คนคอยรับใช้) หรือแฟนกันแน่ แต่คงไม่ให้เป็นแม่แน่นอน

• ปล่อยให้เค้าไปสังสรรค์กับเพื่อนผู้ชายหรือเพื่อนสาวด้วยอย่างอิสรเสรี โดยที่หล่อนต้องไม่ตามไปลากตัวเค้ากลับบ้าน โอ้โฮเฮะ ทีกะเพื่อนล่ะ ไม่อยากให้แฟนสาวเข้ามาจุ้นเชียวนะ

• อยากให้แฟนสาวสวยเซ็กซี่ตลอดกาล เพราะนอกจากจะเป็นหน้าเป็นตาทำให้เค้ามีสง่าราศีในสังคมแล้ว เค้ายังอยากอยู่กะสาวเอ๊าะๆที่สวยวันสวยคืนมากกว่าสาวแก่น่ะซี


ส่วนผู้หญิงน่ะเหรอ ก็อยากมีแฟนหนุ่มแบบ...

• มีความเป็นผู้ใหญ่, มีความรับผิดชอบ และถ้ามีหน้าที่การงานดีด้วยก็ยิ่งเลิศ

• ไม่เจ้าชู้และรักเธอคนเดียว....ขอให้หาเจอเหอะนะ

• มีเวลาให้หล่อนบ้าง ไม่ใช่อ้างว่างานยุ่ง หรืออ้างว่าต้องทำงานเยอะๆ เพื่อหารายได้มากๆมาเลี้ยงครอบครัว ฟังแล้วดี๊ดี เหมือนเค้ายอมเสียสละ แต่แฟนสาวของเค้าสิ คงเหงาน่าดู เห็นมะว่า ความปรารถนาของหญิงและชายมีทั้งคล้ายและแตกต่าง จึงขึ้นอยู่กับว่าทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันได้ดีขนาดไหน



2. เกี่ยงกันว่าจะแต่งงานหรือไม่แต่ง อย่างไหนดีกว่ากัน?

สำหรับ ฝ่ายชายแล้ว การจัดพิธีสมรสสมรักหรือเปล่านั้น คงไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร เพราะหนุ่มๆไม่ บอบช้ำจากการจะสละโสดหรือไม่นี่หว่า ไม่เหมือนกับฝ่ายหญิงนี่ ถ้าขืนหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กะใครแล้ว ภายหลังเกิด “รักไม่ลงล็อก” ขึ้นมา หล่อนย่อมหน้าแหกแน่นอน แถมฝ่ายหญิงก็มักถูกเม้าท์ถึงเรื่องพรรค์นี้ มากกว่าฝ่ายชายซะอีก

เอ้าคิดดูดิ ถ้าขืนใครๆในสังคมรู้กันทั้งบางแล้วว่า เธอเคยมีแฟนแถมยังเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนซะด้วย ขืนได้ชื่อว่าผ่านมือผู้ชายมาแล้ว พูดไปก็มีแต่จะหมดราคา แม้ปัจจุบัน ใครๆจะบอกว่า โอ้ย โลกยอมรับเรื่องนี้กันมากขึ้นแล้วก็เหอะ ไอ้คนที่พูดว่าไม่เป็นไร ไม่ถือน่ะ ใจกว้างสักแค่ไหนเชียว ดังนั้น ฝ่าย หญิงถึงอยากแต่งงานแทนที่จะอยู่ด้วยกันอย่างลอยๆ แต่ถ้าฝ่ายชายยืนยันไม่เอาด้วยซะอย่าง แล้วจะพูดกันรู้เรื่องอยู่อีกรื้อ? ต้องไปหาคนอื่นมาเข้าใจแทนแล้วมั้ง



3. ถ้าเพื่อนของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ชอบขี้หน้าแฟนคุณขึ้นมา ก็เกิดปัญหาได้

การ ที่เพื่อนบางคนไม่ชอบหน้าแฟนของคุณ คงไม่ใช่เรื่องรับไม่ได้หรอกนะ แต่เกรงว่าจะมีเพื่อนแบบชอบ “ยุให้รำตำให้รั่ว” หรือ “เพื่อนขี้อิจฉา” น่ะสิ ที่คอยยุจนทำให้ใจของคู่รักไขว้เขวออกไปจากกันได้ โดยไม่รู้ตัว ดังนั้น คู่รักจึงควรมีใจคอหนักแน่นกันหน่อย

แต่พูดไม่ได้หมายความ ว่าเพื่อนทุกคนจะประสงค์ ร้ายไม่อยากให้เพื่อนในกลุ่มชิ่งหนีไปมีแฟนหรอกนะ เพราะเพื่อนที่ดีจริงๆ ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องฟงแฟนของเพื่อนหรอก ยกเว้นแต่ ถ้ารู้ว่าแฟนของเพื่อนไปแสดงพฤติกรรมไม่ซื่อขึ้นมา จึงมีบ้างที่จะปากโป้งหรือเตือนกัน เรียกว่าหวังดี ไม่ใช่ยุให้รำตำให้รั่วแหงๆ แต่ก็อีก ไม่เห็นใครเตือนใครด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจแล้วได้ผลสักราย ดังนั้น ปล่อยให้เพื่อนเผชิญเหตุการณ์ในอนาคตของเค้าเองดีฝ่า จะได้รู้สึกซะมั่ง



4. มารู้ทีหลังว่าแฟนเป็นพวกโฮโมเซ็กชวล ต๊าย ตายแล้วจะทำไงดีเนี่ย

เรื่อง นี้เป็นที่วิตกของสาวๆอย่างยิ่ง แม้แต่ หนังยังสร้างเรื่อง แก๊งชะนีกับ “อีแอบ” เลย โถ...จะไม่ให้หวั่นใจว่าหนุ่มคนไหนจะเป็นอีแอบได้ไง? ในเมื่อเกย์บางคนดันคว้า (เอ๊ะหรือว่าหลอก) ผู้หญิงให้ แต่งงานด้วย จนสาวๆน้ำตาตกในมาเยอะแล้วน่ะสิ ดังนั้น สาวๆรุ่นใหม่จึงไม่อยากหลงคารมถูกหลอกอีกต่อไป พูดถึงเกย์แล้วก็รู้หรอกว่า ชายบางคนที่เป็นเกย์แต่ยังไม่แน่ใจหรือสับสนตัวเองก็มีไม่น้อย จึงไม่ได้ ตั้งใจจะหลอกสาวมาแต่งด้วย แต่เมื่อไหร่จะหายสับสนน้า? ดังนั้น ใครรู้ตัวว่าเป็นเกย์แล้วยังไปชวนหญิงแต่งงานเพื่อรักษาหน้าตาทางสังคม หรือต้องการปกปิดละก็ หยั่งงี้ควรถูกประณามซะให้สาสม

ส่วนหนุ่มที่ น่าชื่นชมและยกย่อง เห็นจะเป็นผู้ที่รู้ตัวว่าเป็นเกย์แล้วเปิดเผย หรืออาจไม่จำเป็นต้องเปิดเผยแบบตะโกนให้โลกรู้ก็ได้ แต่รู้อยู่แก่ใจและไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นนี่สิดีจริง เพราะอย่างน้อย การเป็นเกย์ก็ไม่ใช่ความผิดบาปอะไรนี่ แถมเกย์บางคนกลับฉลาดกว่าคนที่ไม่ได้เป็นเกย์ด้วยซ้ำ เผลอๆเป็น “พ่อพระ” ทำงานเพื่อพัฒนาสังคมก็มี โอ้ย เกย์อย่างนี้สิ น่าชมเชย

ผู้หญิงน่ะ ชอบมีเพื่อนเป็นเกย์จะตาย แถมยังเปิดใจรับคนที่เป็นโฮโมเซ็กชวลมากกว่าซะด้วย แต่ถ้ามาหลอกให้เสียความรู้สึกละก็ คิดดูดิว่าชีวิตของสาวคนนั้นจะเหมือนตกนรกไหมล่ะ เกย์ต้องไม่หลอกผู้หญิง ขอร้องล่ะนะฮ้า


5. อายุที่ต่างและห่างกันมากๆ มักก่อปัญหาให้เสมอ

ดู “รักต่างวัย” ของคาเมรอน ดิแอซ นางฟ้าชาร์ลี กับจัสติน ทิมเบอร์เลค นักร้องหนุ่ม ก็ได้ ไปๆมาๆก็เลิกกันซะดื้อๆ เพราะฝ่ายหญิงวัย 30 เศษ อยากมีครอบครัว แต่ฝ่ายชายวัย 20 กว่า บอกไม่รู้จะรีบไปทำไม นี่แหละน้า อายุต่างกันก็คิดต่างกัน จนต้องเดินคนละทางอย่างนี้แหละ




FW

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์