ปิดฉาก Ovi ผนึกไมโครซอฟท์ ความพยายามครั้งใหม่ของ โนเกีย

ในสมรภูมิธุรกิจสมาร์ทโฟนที่มี ไอโฟนค่าย "แอปเปิล" และบีบี (แบล็คเบอร์รี่) ค่าย "ริม" เป็นดาวเด่นจรัสแสง ที่ในทางการตลาดของยักษ์มือถือสัญชาติฟินแลนด์ "โนเกีย" ดูจะคับแคบขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ต้องปรับตัวปรับกลยุทธ์กันจ้าละหวั่น ความเคลื่อนไหวสำคัญที่น่าจับตามองต่อไปคือ การประกาศเป็นพันธมิตรธุรกิจกับยักษ์ซอฟต์แวร์โลก "ไมโครซอฟท์" เมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งคู่ระบุว่า จะอาศัยทรัพยากรที่ ต่างฝ่ายต่างมีเกื้อหนุนซึ่งกันและกันเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศการสื่อสารเคลื่อนที่ และผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด โดย "โนเกีย" เตรียมเปิดตัว มือถือรุ่นใหม่ที่ใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone เป็นจำนวนมากภายในปี 2555

ก่อนจะถึงวันนี้กระแสข่าวที่ดังกระหึ่มเป็นข่าวลือเรื่องที่ว่า "ไมโครซอฟท์" กำลังวางแผนซื้อธุรกิจโทรศัพท์มือถือของโนเกีย

"บล็อกเกอร์" ชาวรัสเซีย "เอ็ดลาร์ เมอร์ตาซิน" ผู้เคยคาดการณ์มาแล้วว่า 2 ยักษ์ใหญ่จะร่วมมือกันในฐานะพันธมิตรธุรกิจตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และได้เขียนเรื่องนี้ในบล็อกว่า โนเกีย เริ่มปรึกษาหารือเรื่องการขายธุรกิจของตนให้ไมโครซอฟท์ ซึ่งทั้งคู่พยายาม ปิดดีลกันอย่างเร่งรีบ คาดว่าข้อตกลงดังกล่าวจะสิ้นสุดได้ภายในปลายปีนี้

แม้เรื่องนี้จะเป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีการยืนยันจากทั้ง 2 บริษัท แต่ก็ไม่ได้ออกมาปฏิเสธเต็มปากเต็มคำเช่นกัน

สื่อออนไลน์หลายสำนักในต่างประเทศวิเคราะห์คล้ายกันว่า ดีลดังกล่าวมีทั้งความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ โดยให้เหตุผลที่จะทำให้เป็นไปได้ว่าไมโครซอฟท์มีสินทรัพย์ 32.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีมูลค่าใกล้เคียงส่วนแบ่งตลาดที่โนเกียครอบครองอยู่ อีกทั้งยังส่งผลดีกับการตัดสินใจซื้อบริการโทรศัพท์มือถือผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต "สไกป์" ของไมโครซอฟท์ด้วย และทำให้ ไมโครซอฟท์กลายเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือในทันที

สาเหตุสำคัญที่ดีลนี้ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเท่ากับว่า "โนเกีย" ล้มหายตายจากไปจากตลาดโทรศัพท์มือถือในบัดดล เหลือเพียงรายได้จากธุรกิจซอฟต์แวร์ อาทิ แผนที่ดิจิทัล และธุรกิจโครงข่าย (โนเกียซีเมนส์)

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาผลงานการบุกตลาดโทรศัพท์มือถือของไมโครซอฟท์เองก็ไม่ค่อยสดใสนัก ทั้งดีลที่ว่ายังดูขัดกับจุดยืนธุรกิจในปัจจุบันของยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์รายนี้ด้วย

สำหรับรายละเอียดความร่วมมือก่อนหน้านี้ของทั้งคู่จะทำให้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน 7 กลายเป็นระบบปฏิบัติการหลักบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของ โนเกียต่อจากนี้ไป รวมถึงเสิร์ชเอ็นจิ้น "บิง" (Bing), เอ็กบ็อกซ์ไลฟ์ และไมโครซอฟท์ออฟฟิศ จะมาปรากฏตัวบนโทรศัพท์โนเกียอีกด้วย เช่นเดียวกับแอพสโตร์บนวินโดวส์โฟน 7 จะนำมารวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับแอพสโตร์ของโนเกีย

การจับมือกับไมโครซอฟท์จึงถือเป็นความพยายามครั้งสำคัญของยักษ์มือถือโลก "โนเกีย" ซึ่งยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น ล่าสุดโนเกียตัดสินใจปรับโครงสร้างการบริหารจัดการตราสินค้าของตนเองโดยประกาศเลิกแบรนด์ "โอวี่" (Ovi) แบรนด์ที่ใช้เรียกสารพัดบริการเสริมต่าง ๆ บนโทรศัพท์มือถือของโนเกีย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้หลายฝ่าย โยงไปถึงความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในระดับที่ลึกซึ้งกว่าเดิม โดยผู้เชี่ยวชาญบางรายถึงกับคาดการณ์ว่าเป็นสัญญาณการปรับตัวก่อนที่ไมโครซอฟท์จะเข้าซื้อกิจการของโนเกียเลยทีเดียว

รายงานข่าวจากเว็บไซต์พีซีแม็กเปิดเผยว่า โนเกียตัดสินใจยกเลิกการใช้ แบรนด์บริการเสริม "โอวี่" ซึ่งประกอบไปด้วยแอพสโตร์, บริการด้านเพลง, แผนที่ออนไลน์, อีเมล์ และบริการชนิดต่าง ๆ แล้ว โดยโนเกียชี้แจงว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นแค่การรีแบรนด์กลับมาเป็นโนเกียเท่านั้น

"เจอร์รี่ เดอวาร์ด" หัวหน้าฝ่ายการตลาด โนเกีย กล่าวว่า "เราตัดสินใจปรับเปลี่ยนชื่อแบรนด์บริการของเราจากโอวี่มาเป็นโนเกีย ก็เพราะต้องการสร้างภาพลักษณ์การบริการภายใต้แบรนด์เดียว ไม่ใช่สองแบรนด์ ซึ่งจะเสริม แบรนด์โนเกียให้ทรงพลังยิ่งขึ้น"

หัวหน้าฝ่ายการตลาดของโนเกียเรียกการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวว่า "การหลอมรวมโครงสร้างภายในของทั้งสองแบรนด์เป็นหนึ่งเดียว แต่ยังคงมอบโอกาสที่น่าสนใจและประสบการณ์ในการใช้งานบริการใหม่ ๆ ที่น่าดึงดูดใจให้กับ ทั้งพาร์ตเนอร์และลูกค้าเหมือนเดิม"

โดยกระบวนการปรับภาพลักษณ์ แบรนด์ "โนเกีย" ในครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป และกินเวลายาวนานถึงสิ้นปี 2555 ซึ่งเขายืนยันว่าสิ่งที่จะเปลี่ยนไปในสายตาผู้บริโภคมีเพียงการแทนที่ชื่อ "โอวี่" ด้วย "โนเกีย"

ถ้าจะพูดให้เห็นภาพก็คือ แอปพลิเคชั่น "โอวี่ แม็พส์" (Ovi Map) จะกลายเป็น "โนเกีย แม็พส์" (Nokia Map) ส่วนบรรดาโทรศัพท์ที่ประทับ โลโก้โอวี่ไปกับตัวเครื่องก็จะปรับเปลี่ยนผ่านซอฟต์แวร์ที่อยู่ข้างในโทรศัพท์แทน

"ปิโน โบเนตตี้" บรรณาธิการเว็บบล็อก "โอวี่" ของโนเกีย ให้ข้อมูล เพิ่มเติมในบล็อกว่า การประกาศรีแบรนด์ในครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อเว็บบล็อกของโอวี่ ทั้งย้ำด้วยว่าเป็นแค่การเปลี่ยนชื่อบริการเท่านั้น ไม่ใช่การยกเลิกบริการบน "โอวี่" แต่อย่างใด โดย เว็บบล็อกอย่างเป็นทางการของ "โอวี่" เดิมก็จะยังทำหน้าที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารสำคัญต่อลูกค้าโนเกีย ต่อไปเหมือนเดิม

สำหรับแบรนด์ "โอวี่" เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2550 แต่อัตราการรับรู้ในแบรนด์ค่อนข้างต่ำในสายตาผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการที่โทรศัพท์บนระบบปฏิบัติการซิมเบียนของสมาร์ทโฟนโนเกียมียอดขายไม่มากเท่าที่ควร โดยก่อนหน้านี้ในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาโนเกียได้ตัดสินใจยกเลิกบริการฟังเพลงผ่านอินเทอร์เน็ตแบบไม่คิด ค่าใช้จ่ายใน 27 ประเทศ รวมทั้งลดการให้บริการฟังเพลงได้ไม่อั้นมาเป็นแบบจำกัดเวลาอีกด้วย