“แม่” คำสั้น ๆ ที่มีความหมายยิ่งใหญ่
ในความคิดของคนทุกคนเลยก็ว่าได้ คำว่า “แม่” มักจะมาพร้อม ๆ กันกับคำว่า เสียสละ ให้ และ อดทน เราในฐานะลูกมักจะได้ความรัก ความหวังดี ความห่วงใยจากผู้เป็น “แม่” เสมอ
พิมพ์ กับคำว่า แม่
วันนี้ในชีวิตจริง พิมอาจยังไม่ได้ยืนตรงจุดนั้น แต่บทบาทในละครเทิดพระเกียรติชุดประวัติศาสตร์ เรื่อง “บ้านเล็กในป่าใหญ่”
ทำให้พิมเข้าใจถึงคำว่า “หัวอกของคนเป็นแม่” ได้เป็นอย่างดี กับการได้รับบท “ชงโค” สาวชาวป่า ที่ต้องพลัดถิ่นจากลูกไปไกลเพื่อทำงานเลี้ยงปากท้อง ทำให้พิมเข้าใจและมองโลกในมุมที่กว้างขึ้น ทำให้รู้ว่าระยะทางไม่ได้เป็นอุปสรรคในการที่แม่จะเป็นห่วงเรา หรือรักเราน้อยลง เพราะในเรื่อง นอกจากพิมจะได้เป็นแม่คนแล้ว
ในขณะเดียวกันพิมก็ยังได้รับความรักจาก “แม่เหน่ง-เมตตา รุ่งรัตน์” ที่มารับบท เป็นแม่
ของพิมในเรื่อง ซึ่งก็มีวิธีหรือการแสดงออกถึงความรักที่มีต่อลูกแตกต่างไปอีกแบบกับพิม พิมเชื่อนะคะว่า แม่ทุกคนรักลูก แต่วิธีการแสดงออกอาจจะแตกต่างกัน ตามคาแรกเตอร์หรือนิสัยของคนคนนั้น แค่เราเปิดใจมองสักนิด เพิ่มความเข้าใจอีกหน่อย เราก็จะรู้ว่าสิ่งที่เราได้รับจากแม่ ล้วนเป็นสิ่งดี โดยที่ไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ จากเรา
นอกจาก “ความภูมิใจ” ภูมิใจที่เราเป็นคนดี ต่อตัวเอง สังคม และประเทศ ที่หาซื้อด้วยเงินทองไม่ได้ เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจให้ พ่อ-แม่ชื่นใจได้แล้วค่ะ ลองนั่งถามตัวคุณเองว่า วันนี้คุณได้มอบความรู้สึกนั้นให้ท่านบ้างแล้ว หรือยัง
ดั่งสุภาษิต ที่กล่าวไว้ว่า “เหมือนเส้นผมบังภูเขา” ฉันใด ความรักจากพ่อ-แม่ที่ใกล้ตัวเราที่สุด
มักยากต่อการมองเห็นก็ฉันนั้น สำหรับใครที่ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ พิมก็อยากหยุดคิดทบทวนสักนิดว่า กว่าเราจะเป็นเราอย่างทุกวันนี้ พ่อ-แม่ ของเราต้องเหน็ดเหนื่อยมาอย่างไรบ้าง และอาจจะใช้โอกาส “วันแม่แห่งชาติ” ที่กำลังจะมาถึงนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการรักและตอบแทนพระคุณแม่ของเรา ให้ท่านได้ชื่นใจ และสำหรับใครที่ดูแลเอาใจใส่ความรู้สึกของพ่อ-แม่เป็น รวมถึงเป็นลูกที่ดีอยู่แล้ว พิมก็ขอยินดีและชื่นชม กับการได้เกิดมาเป็น “อภิชาต บุตร” ของทุกคนด้วยค่ะ สำหรับพิมก็จะรักแม่ของพิมเพิ่มขึ้นทุกวันและตลอดไปค่ะ.
พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์