อีกแล้วทำนายโลกแตก 21/10/11 เชื่อหรือไม่??
เรื่องความเชื่อต่าง ๆ ของมนุษย์เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ ซึ่งมนุษย์มีความเชื่อต่าง ๆ นานา มาตั้งแต่โบราณกาล
เป็นความเชื่อที่มนุษย์ยังไม่รู้เรื่องธรรมชาติของโลก หรือรู้อย่างอวิชา พอมาถึงโลกยุคใหม่มนุษย์ได้รู้เรื่องราวต่าง ๆ ของโลกมากขึ้นที่สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับโลกใบนี้ แต่ความเชื่อของมนุษย์ในเรื่องต่าง ๆ ที่เมื่อก่อนอาจจะยังไม่รู้ แต่ปัจจุบันนี้รู้แล้ว แต่ก็ยังเชื่ออย่างไม่รู้ต่อไปด้วยความเชื่อว่าอาจจะเกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ โดยเฉพาะเรื่องโลกแตก หรือสุดท้ายของโลกที่กำลังจะเดินทางมาถึง
เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2510 เป็นต้นมาที่แผ่นดินไหวช็อกโลกถล่มประเทศเฮติจนคนตายหลายหมื่นคน
และติดตามด้วยภัยพิบัติร้ายแรงจากธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกทวีปของโลก จนกระทั่งเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในทะเลใกล้ประเทศญี่ปุ่นเกิดคลื่นสึนามิถล่มเมืองเซนไดยับเยินจนต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของชาวญี่ปุ่นในวันที่ 11 มีนาคม 2511
จากภัยธรรมชาติรุนแรงที่เล่นงานมวลมนุษย์ชาติอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนขาวโลกหวั่นวิตกกัน และทำให้บางคนเชื่อว่าใกล้ถึงวันสิ้นโลกแล้ว โดยเฉพาะชาวอเมริกันบางคนที่อิงคัมภีร์ไบเบิลมากเกินไป และอ้างตามคัมภีร์ไบเบิลว่าโลกจะถึงกาลอวสานแน่ พร้อมทั้งคำนวณวันที่โลกจะแตกคือวันที่ 21 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา
นายแฮโรลต์ แคมฟปิง ชาวอเมริกันวัย 89 ปีที่เชื่อคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิล
ได้ออกมาประกาศคำทำนายและทำป้ายโฆษณาชวนเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกวันที่ 21 พฤษภาคม 2554 มากกว่า 5,000 แห่งทั่วโลก เพื่อให้ชาวโลกได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะต้องพบจุดจบไปพร้อมกับโลก แต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2554 ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น โลกก็ยังไม่ได้วินาศดับสูญสลายไปในห้วงจักรวาล ชีวิตมนุษย์บนโลกก็ดำเนินไปตามปกติเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามแม้คำทำนายของ นายแฮโรลต์ แคมฟปิง ไม่เป็นจริง ไม่ส่งผลให้ใบหน้าของชาวอเมริกั้นผู้นี้รู้สึกหน้าแตกแต่ประการใด กลับเอ่ยขอโทษคนที่เชื่อว่าโลกจะแตกว่า ขออภัยที่คำนวณวันเวลาวันสิ้นสุดของโลกผิดพลาดไป ซึ่งได้คำนวณวันเวลาใหม่แล้ววันที่โลกจะแตกจริงคือวันที่ 21 ตุลาคม 2554 นี้
คำทำนายใหม่ครั้งนี้ จะฮือฮาเหมือนวันที่ 21 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมาหรือไม่ ก็คงต้องติดตามดูประชาชนชาวโลกจะมีกระแสอะไรออกมา
เพราะหลังจากวันที่ 21 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ โลกก็ยังเกิดแผ่นดินไหวแทบทุกวัน รวมทั้งผจญกับพายุร้ายแรงต่าง ๆ ทำให้ฝนตกนัก น้ำท่วม ดินถล่ม ไม่หยุดหย่อน ซึ่งอาจจะส่งผลให้ผู้ที่เชื่อวันสิ้นโลกมีความเชื่อต่อไปอีกว่าจะเกิดขึ้นจริง
เรื่องราวกาลอวสานของโลกยังไม่จบเพียงแค่นี้ หลังจากผ่านพ้นวันที่ 21 พฤษภาคม 2554 ไปแล้วไม่กี่วัน ก็มีบางกลุ่มงัดเรื่องของ”ปฏิทินมายา”ขึ้นมาสร้างกระแสแบบเงียบ ๆ บอกปากต่อปากว่าชนเผ่ามายาในยุคโบราณที่มีอารยะธรรมเจริญสุดขีด ในช่วงระหว่างปี ค.ศ.250-900บริเวณแถบอเมริกากลาง(ปัจจุบันคือประเทศเม็กซิโก) ได้ทำปฏิทินมายาขึ้นมา โดยปฏิทินดังกล่าวสิ้นสุดลงที่ตัวเลข“12-12-2012”(ตรงกับวันที่ 12 ธันวาคม 2555)หรือบอกเป็นรหัสวันสิ้นโลกว่า 12-12-12
บรรดาคนที่มีความเชื่อและแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่างพากันอ้างว่าชนเผ่ามายาได้ทำนายเอาไว้ว่าจะเป็นวันสุดท้ายของโลก เล่ากันเป็นเรื่องเป็นราวถึงขั้นว่าจะมีดาวเคราะห์ลึกลับจะมาสร้างความปั่นป่วนทำให้น้ำจะท่วมโลก แผ่นทวีปจะพลิกคว่ำพลิกหงาย สุดท้ายดวงอาทิตย์จะเผาผลาญโลก สรุปง่ายๆก็คือโลกจะถึงกาลอวสาน
อย่างไรก็ดีแม้คำทำนายของปฏิทินมายา จะยังมาไม่ถึงแต่บรรดานักสร้างหนังต่างประเทศก็หยิบยกเรื่องราวปฏิทินมายาไปปรุงแต่งเรียบเรียงสร้างเป็นภาพยนตร์โกยกำไรมหาศาล สร้างความหวาดผวาให้กับแฟนๆหนังฮอลีวู้ดมาแล้วนับไม่ถ้วน !!
เหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เล่นงานทั่วโลกหนักหน่วงรุนแรงมาขึ้นเรื่อยๆเช่นนี้ ทำให้บรรดานักวิชาการต่างประเทศ เริ่มเชื่อมั่นในสมมุติฐาน ผลกระทบจาก“สภาวะโลกร้อน”ที่ค่อยๆเริ่มแสดงฤทธิ์เดชออกมาให้เห็นในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนของแปลงสภาพอากาศทั่วโลก และเชื่อมั่นว่าจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงในอนาคตข้างหน้าอย่างแน่นอน
แต่มีคนเชื่อว่าโลกจะไม่มีวันดับสูญไปไหน ยังเป็นดาวนพเคราะห์ในห้วงจักรวาลตลอดไป มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ต้องดับสูญไปตามวงจรชีวิตของมนุษย์ที่มีการเกิดแก่เจ็บตายสืบทอดความเป็นมนุษย์บนโลกใบนี้!!