สร้างความรู้ให้เกิดขึ้น ความรู้ไม่ดับ
ที่จะทำให้ความทุกข์ระงับไปได้ จะต้องสร้างวิชชาให้เกิดขึ้น คือ ความรู้ยิ่งตามเป็นจริงของสิ่งทั้งปวง วิชชาจึงเป็นต้นกระแสที่ทำให้อวิชชาดับ
บางคนอาจจะสงสัยว่า ความระงับดับทุกข์ที่ว่านั้นมันจะเป็นจริงหรือ ?
เปรียบได้ว่า เหมือนเราไปพบหีบใบหนึ่งซึ่งมีกุญแจล๊อคไว้เปิดไม่ได้เราย่อมคิดปรุงแต่งไปว่าภายในหีบนั้นมันอาจจะมี ทรัพย์สินเงินทอง เป็นต้น ตราบใดที่เรายังไม่ได้เปิดหีบออกดู ความคิดทุกอย่างของเราย่อมเป็นการปรุงแต่งที่คิดเอาเอง มิใช่ความรู้แจ้ง
ตามเป็นจริงของหีบ แต่เมื่อใดเราลงมือไขกุญแจเปิดหีบออกได้แล้ว เราย่อมแลเห็นของในหีบ ทำให้รู้ว่ามันมีอะไรสิ้นข้อสงสัยเราย่อมจะรู้ชัดเจนว่า แท้จริงแล้ว ภายในหีบใบนั้นมันว่างเปล่าไม่มีอะไรอยู่เลย
เมื่อนักปฏิบัติสามารถสร้างวิชชาให้เกิดขึ้นได้
เขาย่อมรู้อย่างแจ่มชัดด้วยปัญญาอันยิ่งว่า แต่เดิมมาอัตตาของคนเราและทุกสรรพสิ่งมิได้มี เพราะอัตตามันเพิ่งมีในนาทีที่คนเราหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพิ่งเกิดขึ้นมาในโลก แต่ก่อนหน้านั้นคนหรือสิ่งของนั้นมันไม่มี ซึ่งทำให้ได้ค้นพบทฤษฎีใหม่อย่างที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบว่า แต่เดิมมาตัวตนไม่มี ตัวตนของใคร าก็ไม่มี ตัวตนของภูเขาก็ไม่มี ตัวตนของบุญบารมีก็ไม่มี ตัวตนของวัฏฏสงสารก็ไม่มีตัวตนของนิพพานก็ไม่มี เพราะทุกสิ่งเพิ่งเกิดมีขึ้นในนาทีที่มันมีเหตุปัจจัยปรุงแต่งพร้อมมันจึงเกิดมีขึ้นแต่เดิมมาตัวตนของทุกสรรพสิ่งหามีอยู่ไม่ เมื่อรู้แจ้งด้วยปัญญาเช่นนี้แลัว จิตของนักปฏิบัติผู้นั้นย่อมหมดความยึดมั่นถือมั่นหมดความสำคัญมั่นหมายในการมีอยู่ของสิ่งทั้งปวง เมื่อนั้นจิตจะหยุดความปรุงแต่งในทุกสรรพสิ่ง จะหยุดความรู้สึกที่ว่าวิญญาณของเรามีตัวตนอยู่จริง วิญญาณเป็นตัวตนของเราจริง ๆจิตของนักปฏิบัติผู้นั้นย่อมจะไม่เห็นแก่ตัว และ ความยึดถือใด ๆ เหลืออยู่ จึงทำให้ไม่มีความเครียด มีผลทำให้ไม่ทุกข์ นี่คือความจริงที่นักปฏิบัติผู้ชาญฉลาดเท่านั้นจึงจะเข้าถึงได้
สังคมธรรมะออนไลน์