น้ำตก ไนแอการา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์รวมของแม่น้ำหลายสายรวมกัน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ บนพรมแดนระหว่างประเทศแคนาดากับสหรัฐอเมริกา โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ยอดนิยมนานกว่า ศตวรรษ เนื่องจากมีบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม โรแมนติก ที่คู่รักหลายคู่ที่ชวนกันไปถ่ายรูปกับน้ำตกเป็นที่ระลึกในวันแต่งงาน และในขณะที่บางคนเลือกที่จะเป็นจุดฆ่าตัวตาย!! โดยจุดที่นิยมมากที่สุดคือ “Horseshoe Falls” ซึ่งเป็นจุดที่สูงสุด สูงกว่าตึก 16 ชั้นพร้อมด้วยกระแสน้ำก็เชี่ยวกราดแน่นอนว่าถ้าตัดสินใจโดดมาแล้วไม่รอดชัว ร์ จากอดีตจนถึงปัจจุบันมีคนตายตัวตายในที่แห่งนี้ถึง 2780 คน(เท่าที่พบศพ) เฉลี่ยปีละ 23 คน
10 สถานที่ฆ่าตัวตายยอดนิยมของโลก
มี หลายคนเชื่อว่าสะพานถูกออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อเป็นเส้นทางระหว่างความเป็น ทางตาย หลายคนมักเลือกจบชีวิตความหวังของเขาด้วยการโดดลงสะพาน
Cold Springs Canyon Bridge หลายคนคงไม่รู้จักสะพานนี้ และมันก็ไม่ได้ติด“10 สะพานฆ่าตัวตาย”ด้วย เอาเป็นว่ามันเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงสำหรับฆ่าตัวตาย เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อให้รถขับผ่านภูเขาซันตา(Santa Ynez Mountains) เชื่อมกับเมืองซานตาบาร์บาราและเมือง Santa Ynez แค ลิฟอร์เนีย เปิดใช้บริการปี 1963 โดยคนที่เลือกจะฆ่าตัวตายนี้ก็เพราะวิวด้านข้างสวยและโรแมนติกมาก อีกทั้งพื้นด้านล่างหุบเขาลึกเป็นป่าและหินตายแน่นอน เฉลี่ยตายปีละสิบคน จนมีการถกเถียงว่าควรแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการใช้สถานที่
หอไอเฟล เป็นหอคอยเหล็ก สร้างขึ้นใน ค.ศ.1887-9 ออก แบบโดยวิศวกรที่ มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสชื่อ กุสตาฟ ไอเฟล ตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส และสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย ด้วยความสูงกว่า 325 เมตรและโรมนติกดังนั้นมันจึงเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาฆ่าตัวตายอย่างช่วย ไม่ได้ จากสถิตจนถึงปัจจุบันมีคนฆ่าตัวตายที่หอคอยนี้ทั้งหมด 350-400 คน การฆ่าตัวตายครั้งแรกคือการแขวนคอตนเองจากคาน และจากสถิต 90 ปีผ่านมา มีคนกว่า 369 คนพยายามฆ่าตัวตายโดยโดดจากที่สูงจาก 57 เมตรชั้นแรก
Bridgend เป็นเมืองเล็กๆ ประชากรแค่ 39,429 คน(สำรวจปี 2001) ในคาร์ดิฟฟ์ เวลส์ เป็นเมืองเก่าแก่ในประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวที่โรแมนติกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปราสาท สะพาน หอคอยที่เก่าแก่ขลัง จึงไม่น่าแปลกอะไรที่เรามักได้ยินข่าวการฆ่าตัวตายของหนุ่มสาวบ่อยครั้งใน หลายปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยปีละ 23 คน อายุประมาณ 15-30 ฆ่าตัวตายในรูปแบบต่างๆ กัน จนสื่อของอังกฤษต้องรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการฆ่าตัวตาย
ลาสเวกัส เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในมลรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา ที่ รู้จักกันคนทั่วโลก ในชื่อ "เมืองแห่งบาป" เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสี การพนัน และการฆ่าตัวตาย โดยผู้หมดหวังในชีวิตมักเข้ามาในเมืองแห่งนี้โดยการจองห้องพัก ก่อนที่จะฆ่าตายพวกเขาจะดื่มสุราและเล่นการพนันให้สนุกสุดเหวี่ยงในชีวิต และจบชีวิตตนเองในห้องพักของตนเองหรือ กระโดด ตึก และที่พบบ่อยก็คือทำทีขอตัวจากกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวและเขาก็ไม่กลับมาอีก เลย ที่น่าตะลึงคือข่าวเหล่านี้มักปกปิด ไม่ว่าจะเป็นทาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พนักงาน โรงแรม บ่อนการพนัน ล้วนปกปิดข้อมูลนี้ทั้งหมดไม่ให้ปรากฏเป็นข่าวออกไปสู่สื่อสาธารณะ เนื่องจากเรื่องเหล่านี้มีผลกระทบต่อชื่อเสียงและธุรกิจของเมือง
ประเทศ ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่มีอายุขัยเฉลี่ยสูงสุดของโลก โดยสถานที่นิยมที่จะไปฆ่าตัวตายคือ อะโอกิงาฮาราเป็นป่าที่อยู่บริเวณภูเขาฟูจิในญี่ปุ่น โดยจุดที่ฆ่าตัวตายมากที่สุดจะเป็นส่วนที่อยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิที่เรียกว่า “ทะเลป่า” ซึ่งได้รับขนานนามว่าเป็นจุดฆ่าตัวตายอันดับสองของโลก สาเหตุเนื่องมาจากนิยายเรื่อง”Black Sea of Trees” ที่ เป็นนิยายที่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับคนรักฆ่าตัวตาย ในตำนานก็ยังเล่าว่าเป็นจุดที่มีผีสิง ปีศาจปรากฏตัวจนกลายเป็นป่าแห่งความตาย นอกจากนั้นยังมีบุคคลที่ฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้หลายหลาย ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก ครอบครัว ผู้สูงอายุ ส่วนสถิตการฆ่าตัวตายประมาณ 70 คนต่อไป ในปี 2002 พบว่ามีการพบศพคนฆ่าตัวตายที่ส่วนใหญ่จะเป็นการแขนคอถึง 78 ราย ซึ่งมากกว่าสถิตเดิมจาก 73 รายในปี 1998 และตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่เสื่อมถอยและปัญหาการตกงาน
ซูฟอลส์ เป็น เมืองใหญ่ที่มีสถิตเติบเร็วที่สุดในประเทศอเมริกา ตั้งอยู่ในรัฐเซาท์ดาโคตา ถือว่าเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวและนันทนาการ เต็มไปด้วยสถานที่แปลกๆ สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบ ที่ราบกว้างสวยงาม อีกทั้งในเมืองยังมีกิจกรรมดนตรี หอศิลป พิพิธภัณฑ์ แข่งกีฬา และเมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงในฆ่าตัวตาย โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละปีมีผู้มาในเมืองแห่งนี้ฆ่าตัวตายประมาณ 15-25 ต่อปี ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอเมริกันหนุ่มสาว ดังนั้นเมืองแห่งนี้เลยมีการจัดตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพและรักษาโรคและให้ความ สะดวกสบายแก่ผู้ที่รับการปรึกษาปัญหาชีวิตเพื่อแก้ทางออกไม่ให้ฆ่าตัวตาย
เป็นแหลมหินชอล์กที่ตั้งอยู่ในแฮสติ้ง อีสต์ซัสซิกซ์ บนชายฝั่งตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่ง เป็นสัญลักษณ์ของอังกฤษ หน้าผาแห่งนี้ก่อรูปขึ้นด้วยหินปูนละเอียดเมื่อประมาณหนึ่งล้านปีก่อน จนมีหน้าผาสูงจากน้ำทะเลกว่า 530 เมตร ด้วยความสูงของมันทำให้หลายปีที่ผ่านมาสถานที่แห่งนี้จึงมีคนฆ่าตัวตายมาก ที่สุดเป็นในโลกเป็นอันดับสาม ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยกระโดดตนเองจากหน้าผาเฉลี่ยประมาณ 20 คนต่อปี ซึ่งข้างล่างเต็มไปด้วยโขดหินและน้ำทะเล ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายโดยการเดินเท้าหรือทางรถยนต์ ทำให้ทางการมีการตั้งทีมลาดตระเวนออกตรวจตาและตู้โทรศัพท์พิเศษเพื่อแจ้ง เหตุ และที่นี้เคยเป็นจุดฆ่าตัวตายช็อกโลกมาแล้วเมื่อคุณพ่อนีลชาวอังกฤษวัย 34 ปี และคุณแม่คาซูมิชาวญี่ปุ่นวัย 44 ปี ได้ตัดสินใจกระโดดพร้อมกันที่ประภาคารของชายหาดพร้อมกับร่างอันไร้วิญญาณของหนูน้อยแซมในเป้ใบใหญ่ เนื่องจากทั้งคู่รับไม่ได้ถ้ามีชีวิตอยู่โดยขาดลูกคนนี้
Gap เป็น เนินเขาและหน้าผาในเมืองบริสเบน รัฐควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย นอกเหนือจากหน้าผาที่สวยงามแล้วมันยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความ นิยมมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจมากมายไม่ว่าเป็น สโมสรกีฬา ป่า ร้านอาหาร โรงแรม ช๊อปปิ้ง จึงไม่แปลกอะไรที่โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละปีมีคนถึง 50 คนกระโดดฆ่าตัวตายในที่แห่งนี้รวมไปถึงคนดังอย่างนักประกาศสาว Charmaine Dragun ที่ ฆ่าตัวในปี 2007 เนื่องจากสถาวะซึมเศร้าและอาการเบื่ออาหาร ทำให้สถานที่แห่งนี้ต้องติดตั้งกล้องรักษาความปลอดภัย โทรศัพท์ และรั้วสูงเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย
สะ พานโกลเดนเกต หรือสะพานประตูทองที่ต้อนรับผู้มุ่งมาซานฟรานซิสโก เป็นสะพานแขวนแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทอดยาวข้ามอ่าวตอนเหนือของเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาสร้างในสมัยประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. โรสเวลต์ เมื่อปี ค.ศ. 1933 เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1937 ตอนกลางสะพานยาว 1,280 เมตร กว้าง 27 เมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเล 67 เมตร มีทางรถยนต์ 6 ทาง รถบรรทุก 3 ทาง รถไฟ 2 ทาง ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเมื่อสะพานนี้สร้างเสร็จ สะพานกลายเป็นสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาและ กลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วไปโลก และนับตั้งแต่สะพานโกลเด้น เกท เปิดตัวเมื่อปี 1937 สถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับคนอยากตายเพราะมีตัวเลขผู้มา ฆ่าตัวตายที่แห่งนี้มากกว่า 1,500 คน(เฉลี่ยปีละ 30 คน) ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนนิยมฆ่าตัวตายที่โกลเด้น เกตเนื่องจากสะพานอยู่สูงกว่าผิวน้ำถึง 227เมตร บวกกับกระแสน้ำที่ เชี่ยวกรากแล้ว ทำให้โอกาสที่จะได้ตายสมดังความตั้งใจนั้นสูงเฉียดร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งว่ากันว่ามันเป็นสถานที่ฆ่าตัวตายที่ให้ความรู้สึก โรแมนติกมาก แม้ทางการเองจะออกมาตรการป้องกันการฆ่าตัวตายบนสะพานหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะ ติดตั้งกล้องสอดส่องพฤติกรรมของคนบนสะพานตลอดความยาว 3 กิโล เมตรของโกลเด้น เกท การจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนบนสะพานอยู่ตลอดเวลา และยังมีโทรศัพท์สายด่วนบนสะพานให้คนที่ท้อแท้ใจโทรมาพูดคุยปรึกษาเจ้า หน้าที่ได้ด้วย แต่กระนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้สถิตเหล่านี้ลดลงเลย