วิธีสวยจากศีรษะจรดปลายเท้า

วิธีสวยจากศีรษะจรดปลายเท้า


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket “ผม” ต้องแคร์

To do

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketการหวีผมด้วยแปรงก่อนนอนทุกวัน วันละ 10 นาที ทำให้ผมเงางาม เพราะช่วยกระตุ้นให้เลือดมาเลี้ยงรากผมมากขึ้น

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketควรเช็ดผมให้หมาดก่อนดราย เพื่อป้องกันให้ผมร่วง แห้ง และแตกปลาย

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketเลือกใช้แชมพูที่เป็นกลางจะมีค่า PH 7 ซึ่งเหมาะกับเส้นผมทุกชนิดถึงแม้จะสระผมบ่อยก็จะไม่ทำให้ผมแห้ง

To eat

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketไข่ นมพร่องมันเนย ถั่วเหลือง อุดมด้วยโปรตีนที่ช่วยกระตุ้นให้ผมยาวเร็วและเสริมความแข็งแรงให้เส้นผม

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketลูกพรุน และอาหารทะเล มีแร่ธาตุทองแดงซึ่งช่วยให้รากผมแข็งแรง

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketกรดแพนโทเทนิคในผักสีเขียว เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ปลา ไข่แดง และธัญพืช ทำให้เส้นผมเจริญงอกงาม ชุ่มชื้นและรักษาเส้นผมให้นุ่มสลวยอย่างเป็นธรรมชาติ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketแครอทมีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสุขภาพผมให้แข็งแรง

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketน้ำมันงาและถั่วแดงช่วยบำรุงเส้นผมให้ดกดำเงางามและลดการเกิดผมหงอกได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketสาหร่ายมีไอโอดีนทำให้เส้นผมดกดำเป็นเงางาม

Secret Recipe

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketสูตรเปลี่ยนสีผมสีน้ำตาลธรรมชาติ สระผมให้สะอาดแล้วนำเบียร์สด (ชนิดไม่แช่เย็น) 1 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำมะนาวคั้นสด 1/2 ถ้วยตวง ชโลมให้ทั่ว คลุมผมด้วยหมวกพลาสติกพักไว้ 1-2 ชั่วโมง ล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วล้างน้ำสุดท้ายด้วยน้ำมะนาวคั้นสด 1 ผล เกลือทะเลบด 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำสะอาด 2 แก้ว ทำทุกวัน 1-2 สัปดาห์

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketหมักผมด้วยกล้วยหอมบดกับน้ำมันมะกอกประมาณ 15 นาทีก่อนสระผมสัปดาห์ละครั้ง ช่วยให้ผมสลวยเป็นเงางาม

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ หมักผมประมาณ 30 นาที ก่อนสระผม ช่วยให้ผมนุ่มสลวย ลดการแตกปลาย


วิธีสวยจากศีรษะจรดปลายเท้า


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket ผิวหน้าเปล่งปลั่ง อ่อนวัย

To do

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketการล้างหน้าบ่อยเกิน 2 ครั้งต่อวัน จะกระตุ้นให้เกิดสิวและผิวแห้ง

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketการทาครีมกันแดดควรทาให้เคลือบทั่วไปหน้า แต่ไม่นวดให้ซึมเข้าสู่ผิว เพื่อให้ครีมกันแดดเป็นปราการด่านแรกที่กระทบกับแสงแดด

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketควรทดสอบคลีนซิ่งออยล์ก่อนซื้อทุกครั้ง ผลการสำรวจพบว่าคนไข้ 30 เปอร์เซ็นต์ที่มีอาการผดผื่นบนใบหน้า มีสาเหตุมาจากการอุดตันของคลีนซิ่งออยล์

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketใช้ทิชชู่ห่อน้ำแข็งถูให้ทั่วใบหน้า เน้นบริเวณทีโซน ประมาณ 2 นาที ทุกเช้าเย็น จะช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้าได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketการใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางนวดวนจากข้างจมูกขึ้นไปที่โหนกแก้มก่อนแต่งหน้าทุกครั้ง จะช่วยให้แก้มกระชับอยู่เสมอ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketใช้น้ำมันทีทรี (Tea tree oil) แต้มสิว จะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketทาน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ช่วยลดการอักเสบของสิวได้ เพียงนำมาแต้มบริเวณหัวสิว

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketน้ำผึ้งมีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ส่วนยางผึ้งมีฤทธิ์กำจัดแบคทีเรียและสมานผิว เมื่อนำมาแต้มรอยสิวที่ยังไม่แห้งจะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketทาน้ำส้มสายชูช่วยรักษาผิวไหม้แดด เพราะเมื่อน้ำส้มสายชูระเหยจะนำความร้อนจากผิวไหม้แดดออกไป น้ำส้มสายชูยังมีสรรพคุณต้านการอักเสบและคันจากผิวไหม้แดดได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketใช้น้ำมะนาวทาบริเวณที่เป็นกระช่วยให้รอยกระจางลงได้

To eat

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketวิตามินบี 5 จากจมูกข้าว ช่วยลดผื่นแดง ผื่นแพ้ และช่วยลดกระได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketข้าวกล้องมีเส้นใยช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายดี ส่งผลให้หน้าใสและไม่มีกลิ่นตัว

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketแร่ธาตุสังกะสีซึ่งมีอยู่ในเมล็ดฟักทองช่วยรักษาผิวอักเสบและรอยคล้ำบนใบหน้า

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketการดื่มน้ำแครอท 2-4 แก้วต่อวัน จะช่วยลดการเกิดสิวได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketอาหารที่มีวิตามินบี 6 เช่น อะโวคาโด กล้วย ถั่วเมล็ดแห้ง มันฝรั่ง ช่วยปรับสมดุลของระดับฮอร์โมน และบรรเทาอาการอักเสบของสิวได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketสำหรับคนที่เป็นสิวก่อนประจำเดือน ลองดื่มชาเชสเบอร์รี่ (Chaste berry) วันละ 1-2 ถ้วย เพื่อปรับสมดุลของฮอร์โมน ลดการเกิดสิว แต่ต้องดื่มติดต่อกันประมาณ 1-2 เดือน

Secret Recipe

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketผสมมะเขือเทศบด 1 ช้อนโต๊ะกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้งอย่างละ 1 ช้อนชา พอกทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก จะช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลงได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketนำอะโวคาโดมาปอกเปลือก สับ และทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที วิตามินอีในอะโวคาโดจะช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketผสมโยเกิร์ตสูตรธรรมชาติกับน้ำมันงาบริสุทธิ์ พอกผิวหน้าไว้ประมาณ 10 นาที ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นและลดริ้วรอยได้ดี

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketใช้หัวไชเท้าบด 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำผึ้ง 1/2 ช้อนชา พอกทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก ช่วยลดฝ้าและจุดด่างดำบนใบหน้าได้


วิธีสวยจากศีรษะจรดปลายเท้า


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket เอวกิ่ว สะโพกกระชับ

To do

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketการนวดวนขณะอาบน้ำเป็นประจำ ช่วยลดปัญหาเซลลูไลต์ได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketบริหารต้นขาง่ายๆ ทุกเช้า โดยนอนตะแคงข้างแล้วยกขาขึ้นลง ข้างละ 15 ครั้ง จะช่วยลดไขมันและกระชับกล้ามเนื้อต้นขาได้

To eat

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketหันมากินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง เผือก ช่วยลดการสะสมของไขมันบริเวณเอวและสะโพกได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketการรับประทานอาหารที่มีกรดไขมัน รวมทั้งน้ำมันปลา ถั่ว และธัญพืช ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketสารแอลบูมินที่มีอยู่ในอาหารกลุ่มโปรตีนไขมันต่ำจำพวกถั่วช่วยลดระดับของเหลวที่สะสมอยู่ในเซลลูไลต์ได้

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนม เนย น้ำตาลบริสุทธิ์ คาเฟอีน และอาหารมันๆ เพราะกระตุ้นให้เกิดการสะสมของเซลลูไลต์มากขึ้น

Secret Recipe

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucketนำส้มเขียวหวานปอกเปลือกและแกะเม็ด คลุกกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะและข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะ ขัดเบาๆ บริเวณที่มีเซลลูไลต์สัปดาห์ละ2 ครั้ง จะช่วยลดปริมาณเซลลูไลต์ได้


ขอบคุณข้อมูลจาก :   นิตยสาร Health & Cuisine


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์