ขัดหิน ขัดใจ


ขัดหิน ขัดใจ

เมื่อวันอาทิตย์ ผมกับคุณแอ๊ดและลูกชายช่วยกันทำความสะอาดสวนข้างบ้าน เนื่องจากขี้ตะไคร่จับตามแผ่นหินดูไม่งาม แถมสวนก็ดูโทรมไปเยอะเพราะฝนตกต้องปล่อยไปตามยถากรรม ไม่ได้ตกแต่งสวน พอฝนแล้งผมก็ไม่ว่างไปเรียนหนังสือ กับใต้พื้นสวน ได้ทำถังเก็บน้ำไว้ และเครื่องสูบน้ำมีปัญหาบ่อย ในที่สุดก็เจอปัญหาว่าช่างทำท่อจากเครื่องไปสู่ถังเก็บน้ำไม่ดี ท่อตกท้องช้างการสูบน้ำจึงมีปัญหาทำให้ลมดันที่ฝักบัว ในที่สุดก็ต้องขุดดินในสวนทำท่อใหม่ กลายเป็นว่ามีท่อโผล่จากพื้นสวนดูน่าเกลียด


คุณแอ๊ดชวนผมไปซื้อหินเกล็ดกับหินแม่น้ำมาประดับสวนกันใหม่แค่ ๖-๗ ถุง และเตรียมทำความสะอาดกัน ให้เนติ์ลูกชายเอาเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจากที่ร้านเขามาฉีดล้างทำความสะอาดหินทรายและอิฐตามทางเดิน ภาพนี้คือสภาพโทรมๆก่อนทำความสะอาด


ขัดหิน ขัดใจ


หลังจากฉีดน้ำเอาตะไคร่ตามจุดต่างๆเสร็จก็รื้อหิน แม่น้ำที่วางไว้ตามทางเดินมาจัดการทำความสะอาด คราวนี้คุณแอ๊ดก็รื้อหินออก ผมมีหน้าที่ล้าง แต่ความที่หินแม่น้ำโดนน้ำอยู่เรื่อยๆก็มีตะไคร่จับ ถ้าจะใช้กรดเกลือกัดทำความสะอาดก็ได้มันเร็วแต่ผมว่าไม่ค่อยคุ้มกับสุขภาพของคนในครอบครัว ก็เลยเอาหินมาใส่กะละมังล้าง ส่วนไหนที่มันสกปรกมากก็เอาแปรงทองเหลืองขัด

ขัดหิน ขัดใจ


เริ่มตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ไปเดินออกกำลัง หาอาหารเช้าทาน แล้วก็มาทำความสะอาดตั้งแต่ ๙ โมงเช้าเสร็จเอาเกือบเที่ยง พักทานข้าว งีบเสียหน่อยหนึ่ง ตื่นขึ้นมาบ่ายสามโมง ฮา...แล้วก็เริ่มจัดการกับก้อนหิน คุณแอ๊ดเป็นคนรื้อก้อนหินจากพื้นจัดแยกหินสีขาวที่มันสกปรกมากไปจัดการแถวท่อน้ำที่โผล่อยู่เพื่อปรับระดับให้ใช้หินเกร็ดโรยระดับได้ง่ายขึ้น จนหกโมงครึ่งก็เกือบเสร็จเหลืออีกอ่างเดียว ผมต้องรีบไปงานแซยิดแม่ของเพื่อนเลยวางไว้ทำต่อวันนี้ นี่ไงครับผลงาน แถมมือพังอีกต่างหาก ตอนแรกนึกว่าโดนกรดเกลือที่เขาใช้ล้างก้อนหินที่ติดอยู่ตามก้อนหินกัดมือเอา คุณแอ๊ดเอามือผมมาดูแล้วหัวเราะก๊าก..เพราะที่มือพังเพราะเอาแปรงทองเหลือง ถูโดนมือ อิอิ

ผมนึกแปลกใจตัวเองเหมือนกัน มานั่งล้างก้อนหินได้ตั้งนานสองนาน ทั้งๆที่งานพวกนี้ให้แม่บ้านที่มารับทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้งมานั่งล้างก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องลงมือเองเลย แต่เมื่อวานขณะที่นั่งล้างไปได้ประมาณ ๑ ชั่วโมง ก็มีความคิดว่า เอ๊ะ เราทรมานตัวเองเกินไปหรือเปล่า มานั่งหลังขดหลังแข็งทำงานพวกนี้ แต่ในใจก็ตอบว่าก็ดีไหมล่ะ จะได้ฝึกความอดทน


ผมรู้สึกโล่ง...ใช่เรากำลังฝึกความอดทน ในงานที่ไม่จำเป็นต้องทำ แต่ทำไมถึงอยากทำล่ะ เพราะเรารักมัน เรารักสวนของเรา ที่เราทำมันมากับมือ ผมขนหินทราย หินเกร็ด หินแม่น้ำ ศิลาแลง เข้ามาจัด คุณแอ๊ดจัดการเรื่องต้นไม้ พวกชะอม ผักเหมียง กล้วยไม้ ไม้จิปาถะ เราออกแบบไฟส่องตามต้นไม้ ไว้นั่งคุยกันแบบโรแมนติกตอนกลางคืน ใช่แล้วเราทำด้วยใจ


คนเรา หากทำอะไรในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำ แต่อยากทำก็คงจะต้องนึกถึงจุดมุ่งหมายก่อนเป็นอันดับแรก (นี่ผมคิดของผมโดยไม่สนใจทฤษฎีนะ) เรามุ่งหมายจะได้อะไรจากการกระทำนั้น อย่างเช่น ผมจัดสวน เพราะอยากได้ความสุขข้างบ้าน มีเงินจ้างไหม มี....ทำเองเป็นไหม เป็น แต่เหนื่อย... ตอนนี้ร่างกายเป็นไง...อ้วน ออกกำลังไหม ออก...แล้วถ้าการจัดสวนได้ออกกำลังด้วยดีไหม...ดี ทำไหม...ทำ อ้อ...จุด มุ่งหมายของผมอยู่ที่อยากได้สวนที่เป็นฝีมือตัวเอง และได้ออกกำลัง


การกระทำอย่างนี้ พอเอามาเทียบทางพุทธศาสนา ๑.เพราะมีฉันทะ ความพึงพอใจที่จะทำ (เพราะอยากได้สวนฝีมือตัวเอง ได้ออกกำลังและได้ฝึกความอดทน) ๒.มีวิริยะ มีความเพียร (แม้จะนั่งหลังขดหลังแข็งเป็นชั่วโมงก็เอา) ๓.มีจิตตะ มีใจจดจ่อ เพราะการขัดหินทีละก้อน ก็เหมือนเป็นการขัดใจเราเองให้สะอาด ก็ดูเอาสิครับว่ามันมีกี่ก้อน อิอิ)และมี ๔.มีวิมังสา มีการคิดทบทวนไตร่ตรองในสิ่งที่กระทำ เราจะจัดแบบไหน เอาแบบเก่าหรือออกแบบใหม่ จัดแล้วมันจะออกมาเป็นรูปใด


ขัดหินไปรู้สึกเพลินเพราะลายของหินแต่ละก้อน รูปร่างของมันก็แตกต่าง สีของก้อนหินที่เราซื้อมามันมีหลากสี เหมือนผู้คนที่อยู่ในสังคมจะให้มันเหมือนกัน จะให้เขาคิดเหมือนเรา ให้เขาทำอย่างเรา ก็คงไม่ได้ เพราะเขาก็เป็นเขา เราก็เป็นเรา และในใจเราเองก็หาใช่ว่ามันจะสะอาดไปตลอดไม่ เพราะบางครั้งเราก็มีจิตใจที่ขุ่นมัว เราคิดในทางลบ ถ้าเราหันมาพัฒนาจิตเราเอง ขัดความขุ่นมัวออกเสียบ้าง ให้จิตใจมันผ่องใส มันจะส่งผลไปที่ใบหน้าให้เราอิ่มบุญ ใครเห็นก็อยากเสวนาด้วย ใครอยู่ใกล้ก็รู้สึกอบอุ่น


ขัดหิน ขัดใจ


รู้ถึงประโยชน์อย่างนี้แล้ว มีใครอยากมาช่วยผมขัดหินบ้าง ยังมีอีกกองหนึ่งแน่ะ...ฮา...


ขอบคุณที่มา  ::  ความรัก...ความสุขที่พอเพียง


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์