การเดินทางของเข็มนาฬิกา
หลายคนไม่เคยรู้ตัวเลยว่า ได้กลายเป็นหนุ่มเป็นสาว หรือเติบโตเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่
ซึ่งก็อาจเป็นเพราะพวกเราไม่เคยมีโอกาสได้หยุดมองรอยต่อของวัยเหล่านั้น
ถ้าไม่เรียนไม่เล่นจนเพลินไปเสียก่อน เหตุผลของการพลาดโอกาสเช่นนั้น ก็คงหนีไม่พ้นความยุ่งเหยิงในชีวิต
ในวาระที่ต้องขวนขวายหาสถานที่ศึกษาต่อหรือไม่ก็มัวแต่กระเสือกกระสนหางานทำหลังเรียนจบ
รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นหนุ่มสาวมหาลัย หรือไม่ก็เป็นผู้ใหญ่ในคราบมนุษย์เงินเดือนไปเสียแล้ว
เพื่อนๆ เคลื่อนตัวจากสถานที่หนึ่งไปสถานที่หนึ่งเท่านั้น
หากยังพาพวกเขาก้าวข้ามจากเวลาหนึ่งไปสู่อีกเวลา ดุจเดียวกับการเดินของเข็มนาฬิกาอีกด้วย
"การที่เราได้เห็นทุกวินาทีกลายเป็นอดีต ทำให้เรารู้ว่าทุกอย่างจะไม่หวนมาอีกแล้ว"
หลังจากที่พวกเราได้เดินทางข้ามวันและคืนผ่านจุดแล้วจุดเล่ามาแล้ว
"นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะได้นั่งที่นี่ อ่านข้อความจาก มุมนี้"
เพราะพรุ่งนี้ หรือวินาทีต่อไป จะไม่มีทางเหมือนเดิมอีกแล้ว สำหรับเรา
ไม่ใช่แค่หน้าของเพื่อนร่วมชั้นเรียน และ ร่วมกินร่วมเที่ยวเท่านั้นที่จะเปลี่ยนไป
เพราะแม้แต่ "หน้าตา" ของพวกเขาเองก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วด้วย
จากที่เคยเป็นผ้าที่มีสีขาวเป็นส่วนประกอบใหญ่
พวกเราก็จะกลายเป็นผ้าที่มีสีอื่นมาแต่งแต้ม
วัยของพวกเราอาจคือวัยแห่งความไม่ชัดเจน หลายคนไม่รู้ว่าอะไรควรเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต
พวกเราบางคนจึงเลือกจะจัดเรื่องลดความอ้วน และ การพยายามดึงดูดความสนใจไว้เป็นอันดับหนึ่ง
อีกทั้งช่วงอายุของเรายังเป็นวัยแห่งจินตนาการ
เห็นอะไรเล็กๆ น้อยก็สามารถนำมาสานต่อเป็นเรื่องแต่งอันบรรเจิดได้
เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมาย เราก็สามารถจัดการกับความสับสนของตัวเองได้
ในขณะที่บางคนก็ยังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเดิมๆราวกับเด็กไม่รู้จักโต
ถึงอย่างนั้น ก็ยังพูดได้ว่าทุกคนที่ร่วมเดินทางได้ก้าวมาสู่อีกหนึ่งหลักชัยของชีวิตแล้ว
แต่ต่อให้เดินมาแล้วหลายพันหลายหมื่นก้าว
พวกเราก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในการเดินทางครั้งต่อไปอยู่ดี เพราะชีวิตของพวกเขายังไม่สิ้นสุด
และยังมีอีกหลายหลักชัยเหลือเกินที่รอให้พวกเราเดินไปถึง
ขอบคุณที่มา
สาระแน