เทคนิคสร้างสมาธิในการเรียน
บอกลาอาการง่วง ซึมเซา วอกแวก ฟุ้งซ่าน ด้วยวิธีเสริมสร้าง “สมาธิ” อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยหลักปฏิบัติง่าย ๆ 5 ข้อ วัยเรียนหลายคนที่มักเผชิญปัญหาสมาธิสั้น หรือบ่อยครั้งจดจ่อกับกิจกรรมเป็นบางเรื่อง แต่ก็เพียงระยะเวลาไม่นานนัก นั่นเป็นเพราะน้อง ๆ อาจละเลยความสมดุลของตารางกิจวัตรประจำวันไป จนส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ และจดจำ อย่างไรก็ตาม ภาวะดังกล่าวปรับแก้ได้ด้วย 5วิธีสร้างสมาธิง่าย ๆ ดังนี้ เริ่มจาก หลับเพื่อสมอง ในอัตราที่เพียงพอ 6-7ชั่วโมง ระบบประสาทจะถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมสำหรับการเรียนในวันถัดไป บอกลาอาการง่วง ซึมเซาได้เลย หากนอนให้เป็นระบบทุกวัน ร่างกายจะคุ้นชิน และส่งผลดีต่อสมองในระยะยาวด้วย เลี่ยงคาเฟอีนเข้มข้น แม้ผลวิจัยในต่างประเทศจะพบว่า คาเฟอีนจัดเป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ลดความง่วง เหนื่อยล้า กระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ทำให้กลไกการคิดรวดเร็ว และมีสมาธิมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับในปริมาณไม่มากเกินไป สำหรับวัยเรียนลองลดความเข้มข้นจากกาแฟเป็นชาจะเหมาะต่อสุขภาพมากกว่า ขยับกายยืดเส้นยืดสาย ในระหว่างรอเรียน หรือเปลี่ยนคาบเรียน อาจลุกเดินรอบ ๆ ห้อง ก้ม เงย หยุดพักสายตาที่สนามสีเขียว หรือจิบน้ำเปล่าบ้าง ช่วยเติมความสดชื่น คลายเครียด คลายกล้ามเนื้อ และเป็นการเรียกสมาธิให้กลับคืนมา สร้างสมาธิด้วยโยคะ รวมถึงการออกกำลังกายลักษณะอื่น อาทิ วิ่งเหยาะ ๆ ว่ายน้ำ ฯลฯ เมื่อร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน จะรู้สึกกระชุ่มกระชวย นอกจากช่วยคลายเครียดแล้ว ยิ่งปฏิบัติสม่ำเสมอจะทำให้จิตใจสงบ ไม่วอกแวก หรือฟุ้งซ่าน มีผลต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้นานขึ้นด้วย กำหนดหรือควบคุมเวลา โดยเฉพาะเมื่อต้องสะสางงาน รายงาน การบ้าน อ่านหนังสือ รวมถึงกระทำสิ่งต่าง ๆ โดยตั้งเป้า นับเป็นพื้นฐานเบื้องต้นในการปรับสมดุล และความแปรปรวนของร่างกาย สู่การเสริมสร้างสมาธิอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยวิธีง่าย ๆ ข้างต้น ลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ