อ้อมกอดเล็กๆ เพื่อสุขภาพ
ภาพหลานสาวกอดคุณตา หลานชายนั่งตักกอดคุณย่า ช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นผูกพันให้กับทั้งสองฝ่าย ช่วยให้คุณตาคุณยายมีสุขภาพและอารมณ์ดี
เมื่ออเจ้าตัวน้อยโผเข้ากอดคุณตาคุณยาย ไม่เพียงแค่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนในครอบครัวเท่านั้น แต่ยังได้รับการพิสูจน์ในทางการแพทย์แล้วว่า เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้สูงอายุอายุยืนขึ้นอย่างมีความสุข
คุณเบ็ญจพร มงคลธง นักจิตวิทยา ประจำบริษัทโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท จำกัด (ผู้สูงอายุ) กล่าวว่า เมื่อหลานๆ กอดคุณตาคุณยายด้วยอ้อมกอดที่อบอุ่น พลังงานความร้อนของร่างกายที่ส่งผ่านถึงกัน จะทำให้ท่านรู้สึกดี, ปลอดภัย, เป็นที่ยอมรับ, ผ่อนคลาย, มีความสุข, มีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่, มองเห็นคุณค่าในตัวของท่านเอง และทำให้เกิดความมั่นใจตามมา เนื่องจากการกอดเป็นการสัมผัสแบบ 3 มิติ ซึ่งถ่ายทอดความรักความห่วงใยได้ดีกว่าการสัมผัสแบบ 2 มิติ เช่น การดูรูป,อ่านจดหมาย ฯลฯ การแสดงออกแบบ 3 มิติ สามารถแสดงออกได้หลายทางเช่นการกอด, จับมือ, บีบ, จับ, นวด, พูดคุย ฯลฯ
นอกจากนี้ การกอดยังช่วยให้หลานๆ ได้รู้สึกดีต่อตัวเอง, มีจิตใจอ่อนโยนพร้อมที่จะรัก และยอมรับผู้อื่น ,รู้สึกมั่นคงปลอดภัย, เชื่อใจ, มีความสุข, เป็นที่ยอมรับ และช่วยพัฒนาไอคิว, ลดความหวาดกลัว, รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่, ลดความเครียดหงุดหงิด, ลดการต่อต้านผู้อื่น และความรู้สึกในทางลบต่อสิ่งรอบตัว
อ้อมกอดกับผู้สูงวัย
พญ. สิรนิสถ์ ประพันธ์ศิลป์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป กล่าวว่า กอด สามารถส่งผลดีได้โดยตรงต่อสุขภาพ
1.ความดันโลหิตลดลง
การกอดจะส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้หลอดเลือดขยายตัวส่งผลให้ความดันเลือดลดลง
2. ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
การกอดช่วยเพิ่มฮอร์โมนออกซิโทซิน (ฮอร์โมนที่ร่างกายหลั่งออกมาเมื่อมีความรักความผูกพัน) ซึ่งจะช่วยลดโอกาสของการเป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกอดจะช่วยให้สารออกซิโทซินหลั่งในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
3.ส่งผลดีต่อสมอง
การสัมผัสโอบกอด ช่วยลดการหลั่งสารคอร์ติซอล ซึ่งเป็นสารที่หลั่งออกมาเมื่อเครียด และช่วยให้สมองหลั่งสารโดปามีน (Dopamine), เอ็นดอร์ฟีน (Endorphine) และเซเรโทนิน (Seretonin) ที่เป็นสารแห่งความสุขเบิกบานแจ่มใส ทำให้มีอารมณ์ดี ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ
4. กระตุ้นการทำงานของฮีโมโกลบิน
ฮีโมโกลบินเป็นส่วนประกอบในเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดการลำเลียงของออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย ส่งผลให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าแข็งแรงช่วยให้ภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้น
5. ทำให้มีความสุข
การกอด จับมือ และสัมผัส สามารถลดระดับฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า และทำให้อารมณ์ดีขึ้นอย่างชัดเจนยย รู้สึกกระตือรือร้นที่จะทำสิ่งต่าง ๆยย อยากมีชีวิตอยู่, ลดอาการซึมเศร้า, รู้สึกเป็นที่รัก และต้องการของคนในครอบครัวยย ส่งผลให้ความเครียดลดลง ความรู้สึกอยากจะพูดอยากจะบ่นก็น้อยลง
กอดกันให้แข็งแรง
"กอด" ทำได้ง่ายๆ ทุกที่ทุกเวลาที่รู้สึกอยากกอด แต่ต้องเป็นอ้อมกอดที่สื่อถึงความรู้สึกอบอุ่นและแสดงความรักจากใจยย ด้วยความรู้สึกที่อยากกอดจริงๆ ไม่ใช่กอดด้วยการถูกบังคับ ซึ่งหลานๆ ควรสบตาคุณตาคุณยายทั้งก่อนและหลังกอด
คุณมีกอดแบบไหน?
-อ้อมกอดแบบหมี(Bear Hug)
การกอดด้วยการเบียดตัวอย่างเต็มที่ และรวดเร็ว เช่น หลานโผเข้ากอดคุณตาแบบเต็มตัว (ท่านี้เหมาะกับคุณตาคุณยายที่ยังแข็งแรงหรือกำลังอยู่ในท่านั่งแบบมั่นคงเท่านั้น) เป็นท่ากอดที่แสดงออกถึงความพิเศษของผู้ที่ถูกกอด บ่งบอกความรัก ความปลอดภัย และให้ความรู้สึกที่อบอุ่น
-โอบเอวด้านข้าง (Side to Side)
ท่านี้เป็นการโอบเอวจากด้านข้าง เหมาะที่คุณตาคุณยายจะแสดงความรักกับหลานด้วยท่านี้
-กอดแบบแซนด์วิช(Sandwich Hug)
เป็นการกอดกันแบบ 3 -4 คน โดยให้คุณตาหรือคุณยายอยู่ตรงกลางในท่านั่ง แล้วหลาน 2- 3 คน ยืนโอบกอดจากทั้งด้านหน้าด้านหลังและด้านข้าง เป็นการแสดงถึงความรักผูกพันให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
สำหรับสงกรานต์ปีนี้ อย่าลืมพาหลานๆ ไปเยี่ยมคุณตาคุณยายพร้อมกับกอดท่านวันละหลายๆ ครั้ง เพื่อให้ท่านมีความสุขยิ้มสดใสและสุขภาพกายใจแข็งแรง