1 ใน 3 ของผู้หญิงเมืองผู้ดี ไม่กล้าออกจากบ้านถ้าไม่แต่งหน้า

แม้จะมีความงามที่ธรรมชาติให้มา แต่ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยก็ยังไม่มั่นใจและต้องให้เครื่องสำอางเป็นตัวช่วยเติมความงามเสมอก่อนออกจากบ้าน

ผลการสำรวจล่าสุดของช่องรายการโทรทัศน์ขายสินค้า QVC ของอังกฤษชี้ว่า ผู้หญิงชาวเมืองผู้ดีจำนวน 1 ใน 3 คิดว่าเป็นเสมือนฝันร้ายและไม่กล้าย่างกรายออกจากบ้านหากไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มบนใบหน้า

ในขณะที่ผู้หญิงอีก 1 ใน 4 ต้องคอยซับหน้าหรือเติมหน้าหลังจากที่ออกจากบ้านไปสัก 2-3 ชั่วโมง

โดยเฉลี่ยทั่วไปแล้ว วันๆหนึ่งผู้หญิงเหล่านี้แต่ละนางก็จะคิดถึงรูปร่างหน้าตาของตัวเองประมาณ 9 ครั้งต่อวัน และ 3 ใน 10 ของบรรดาคุณแม่ทั้งหลายต้องทาลิปสติกเป็นอย่างน้อยหากต้องขับรถไปรับ-ส่งลูกไปโรงเรียน

การสัมภาษณ์งานและการออกเดทกับชายหนุ่มสักคนเป็นครั้งแรกถือเป็นสถานการณ์ที่ผู้หญิงมักจะรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ตัวเองและทำให้จะต้องเสริมความงามด้วยการแต่งหน้าในที่สุด

แต่กระนั้น จำนวน 1 ใน 3 ของผู้หญิงที่ถูกสำรวจเผยว่า เธอจะรู้สึกกังวลว่าจะต้องสวยเวลาไปเจอกลุ่มเพื่อนสาวมากกว่าไปเจอเพศตรงข้ามเสียอีก

Dr Linda Papadopoulos นักจิตวิทยา หัวหน้าทีมการศึกษาค้นคว้าเรื่องผลกระทบทางด้านอารมณ์ที่เกิดจากความผิดปกติด้านผิวหนังบอกว่า เธอเชื่อว่าผิวหนังที่ดูสดใสและเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล คือผิวหนังที่สุขภาพดีและเป็นความรู้สึกสำคัญที่สะท้อนว่าเรารู้สึกอย่างไร และหากแต่ละคนรู้สึกว่าผิวดี มันก็จะส่งผลให้คนคนนั้นมีความคิดโดยรวมต่อชีวิตในแง่บวก

ผลการวิจัยยังบอกอีกด้วยว่าผู้หญิงจำนวนร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์ยอมรับว่า การดูแลความงามของเธอเป็นสิ่งสุดท้ายในใจเธอยามค่ำคืน และอีกร้อยละ 16 เผยว่า เรื่องความงามเป็นสิ่งแรกที่เธอนึกถึงในยามเช้า

1 ใน 5 ของสาวๆบอกว่า เธอรับเอาวิธีการดูแลความสวยความงามมาจากคุณแม่ และมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่บอกว่าการแต่งหน้าถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของแต่ละวัน และผู้หญิงบางคนก็ไม่เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ความงามที่ตัวเองใช้เลยตั้งแต่หัดเริ่มใช้เครื่องสำอางมา