เรื่องน่ารู้ของคนถนัดซ้าย .....
ในขณะที่คำว่า "ขวา" ในหลายประเทศของยุโรปหมายความถึง "ถูกต้อง" (right ในภาษาอังกฤษ) "ความยุติธรรม" "อำนาจตามกฎหมาย" (recht ในภาษาเยอรมันและดัชต์ และ droit ในภาษาฝรั่งเศส)
สำหรับจีนโบราณด้านซ้ายคือด้านไม่ดี คำว่า "ซ้าย" ในภาษาจีนกลางหมายถึง "ไม่เหมาะสม" "ไม่ถูกต้อง" ทั้งหมดนี้มีนัยยะของความเอนเอียงไปทาง "ขวา"
เนื่องจากคนส่วนใหญ่ถนัดขวา
การที่บุคคลหนึ่งจะถนัดขวา (จริงๆ คือถนัดมือขวา) หรือถนัดซ้ายนั้น นักวิชาการปัจจุบันเชื่อว่าเลือกไม่ได้เพราะมันมาจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมในครรภ์
ในปี 2007 มีการพบว่ายีนส์ที่ตั้งชื่อว่า LRRTM 1 เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของโอกาสในการถนัดซ้าย
นอกจากนี้ยังพบว่าการจะถนัดมือไหนเริ่มพัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์โดยสังเกตเห็นได้จากการวางมือใดไว้ใกล้ปากมากที่สุด มือนั้นก็จะเป็นด้านที่ถนัดในเวลาต่อมา
ปัจจัยสำคัญอีกตัวหนึ่งก็คือ ปริมาณของฮอร์โมนเพศชาย (testosterone) ในครรภ์ที่ทารกเติบโตอยู่
ทฤษฎีของ Norman Geschwind ระบุว่า ฮอร์โมนเพศชายจะไปกดการเจริญเติบโตด้านซ้ายของ cerebral hemisphere (บริเวณสมองซีกซ้าย) จนเซลล์สมองหรือ neurons ย้ายไปเติบโตในซีกขวาแทน ดังนั้น ทารกในครรภ์จึงมีทางโน้มที่จะถนัดซ้ายเพราะสมองซีกขวาควบคุมการทำงานซีกซ้ายของร่างกาย
สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับการถนัดซ้ายก็คือ ประชากรอังกฤษในทศวรรษ 1970 มีหญิงชายอายุ 15-24 ปี อยู่ร้อยละ 11 ที่ถนัดซ้าย ซึ่งตัวเลขเดียวกันในอายุ 55-64 ปี หรือเกิดก่อนหน้าเด็กกลุ่มแรกประมาณ 40 ปี มีเพียงร้อยละ 3
ในสหรัฐอเมริกาก็พบคล้ายกันกล่าวคือ ส่วนของคนเกิดในทศวรรษ 1960 ถนัดซ้ายมากกว่าสองเท่าของคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ในสหรัฐอเมริกาเดิมเชื่อกันว่า คนถนัดซ้ายมีส่วนในประชากรเพียงประมาณ ร้อยละ 10 แต่เมื่อพิจารณาข้อมูลของประชากรอเมริกันที่ถนัดซ้าย โดยจำแนกตามปีเกิดแล้วก็จะพบว่ามีส่วนสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น เกิด ค.ศ.1943-1952 มีส่วนถนัดซ้ายร้อยละ 12 เกิด ค.ศ.1953-1962 ร้อยละ 13 และเกิด ค.ศ.1963-1972 ร้อยละ 15.8 (สถิติเหล่านี้มาจากการถามว่าถนัดมือข้างใดหลังจากเติบโตเป็นเยาวชนแล้ว)
ในประเทศอื่นก็เชื่อว่ามีส่วนของคนถนัดซ้ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน แต่มิได้เกิดถนัดซ้ายเพิ่มขึ้นมากเพราะสาเหตุจากฮอร์โมนเพศชาย แต่เชื่อว่ามาจากการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมการเลี้ยงดูและให้โอกาสเด็กพัฒนามากกว่าอย่างอื่น
Chris McManus ผู้เขียนหนังสือ Right-Hand, Left-Hand ได้เสนอสาเหตุหลายประการที่ทำให้คนถนัดซ้ายมีส่วนเพิ่มขึ้นดังต่อไปนี้
(1) คนถนัดซ้ายถูกกดขี่ในศตวรรษที่ 18 และ 19 อย่างหนัก เช่น พ่อ แม่ และครูจะพยายามบีบบังคับดัดมือให้ถนัดขวา (การเขียนจากซ้ายไปขวาทำให้คนถนัดซ้ายมีความไม่สะดวก ต้องจับปากกาและวางมือไว้ข้างบนตัวอักษร) ดังนั้น คนที่ดำรงความถนัดซ้ายแต่เกิดไว้ได้จึงมีส่วนต่ำ แต่ในยุคใหม่การบีบบังคับเช่นนี้มีน้อยลง
(2) เมื่อโตขึ้นคนถนัดซ้ายถูกสังคมมองว่าเป็นคนประหลาดโดยเฉพาะในสมัยก่อน คนถนัดซ้ายจึงมีโอกาสแต่งงานน้อยกว่า ดังนั้น โอกาสในการผลิตคนที่ถนัดซ้ายตามกรรมพันธุ์จึงมีน้อยลง
(3) ในยุคเสรีตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมาคนถนัดซ้ายได้รับการยอมรับมากขึ้น เนื่องจากสังคมยอมรับการเป็นปัจเจกบุคคลอย่างกว้างขวางขึ้น ดังนั้น แรงกดดันให้เปลี่ยนเป็นถนัดขวาจึงมีน้อยลง
(4) หญิงมีลูกตอนอายุสูงขึ้นทำให้ช่วยเพิ่มส่วนของคนถนัดซ้ายเพราะสถิติชี้ว่า หากหญิงมีลูกตอนอายุมากขึ้นก็มีทางโน้มที่จะมีลูกถนัดซ้ายมากขึ้น
โดยส่วนตัวเชื่อว่าการยอมรับการถนัดซ้ายโดยพ่อแม่ ครู และสังคมในยุคเสรีเปิดโอกาสให้เด็กบรรลุศักยภาพของตนเองคือ สาเหตุสำคัญที่ทำให้เยาวชนดำรงความถนัดซ้ายตั้งแต่เกิดจนเป็นผู้ใหญ่ไว้ได้ การกีดขวางพัฒนาการของเด็กโดยเริ่มที่การพยายามเปลี่ยนการถนัดซ้ายมาเป็นขวามีน้อยลง
Chris McManus ชี้ว่าเมื่อพิจารณาประวัติศาสตร์จะพบว่าคนถนัดซ้ายมีส่วนของคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง สูงกว่าคนถนัดขวาเนื่องจากสมองของคนถนัดซ้ายถูกสร้างให้แตกต่างกว่า โดยขยายขอบเขตของความสามารถโดยเฉพาะในด้านภาษาและศิลปะ
เขาเชื่อว่าปรากฏการณ์เพิ่มขึ้นของส่วนคนถนัดซ้ายจะเป็นผลดีแก่โลกในอนาคต
คนสำคัญในโลกที่ถนัดซ้าย ได้แก่ Alexander the Great/ Julius Caesar/ Napoleon Bonaparte/ รวมทั้ง Colin Powell และ Norman Schwarzkopf
Leonardo da Vinci/ Michelangelo/ Pablo Picasso/ Ludwig van Beethoven/ Paul McCartney/ Ringo Starr ถนัดซ้ายเช่นเดียวกับนักกีฬาเทนนิส เช่น Rod Laver/ Jimmy Connors/ John McEnroe/ Martina Navratilova
นักการเมืองถนัดซ้าย ได้แก่ Gerald Ford ประธานาธิบดีบุช (ผู้พ่อ) Bill Clinton/ Ross Perot (ทั้ง 3 คนหลังเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีในปี 1992 เหมือนกัน)
ราชวงศ์อังกฤษ เช่น Queen Elizabeth II (พระราชินีองค์ปัจจุบัน) เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าชายวิลเลียม รวมทั้ง Queen Mother (พระราชมารดาพระราชินีองค์ปัจจุบัน) ก็ล้วนถนัดซ้าย
คนถนัดซ้ายที่มักเรียกกันในภาษาอังกฤษว่า southpaw (บ้างก็ว่าคำนี้มีที่มาจากกีฬา baseball บ้างก็ว่าอยู่ในพจนานุกรมอังกฤษก่อนกีฬาเบสบอลเกิดอีก) นั้นมีชีวิตที่ลำบากพอควรไม่ว่าการหาเก้าอี้ที่เป็นแผ่นรองเขียนถนัดมือ หาอุปกรณ์กีฬาสำหรับคนมือซ้าย เช่น ไม้กอล์ฟ เล่นกีฬาฮอคกี้ไม่ได้ (กติกาบังคับห้ามถือไม้ในมือซ้าย) ปืนสั้นบางรุ่นที่สร้างมาสำหรับคนถนัดขวา ฯลฯ
ในช่วงเวลานี้ที่กีฬากำลังฮิต นักชกมวย southpaw ถือว่าได้เปรียบเพราะนักชกถนัดขวามักคาดเดากำปั้นที่ลอยมายากขึ้น หากเล่นโปโลน้ำโดยคนเล่นมักถนัดบุกทางปีกขวา คนถนัดซ้ายก็ได้เปรียบเพราะยิงประตูถนัดกว่าด้วยมือซ้าย ในเทนนิสคนที่ถนัดขวาแต่เคยชินกับการเล่นกับคนถนัดซ้ายก็ได้เปรียบมาก เช่น Rafael Nadal นักเทนนิสสุดดังในขณะนี้
งานวิจัยของ Johns Hopkins University ในปี 2006 พบว่าชายที่เรียนจบมหาวิทยาลัยที่ถนัดซ้ายโดยเฉลี่ยมีรายได้สูงกว่าคนถนัดขวาร้อยละ 25 (หากเรียนไม่จบ คนถนัดซ้ายก็ยังสูงกว่าร้อยละ 15 อยู่ดี) ดังนั้น ถึงแม้จะถูก "กดขี่" ในสมัยก่อน แต่ในยุคเสรีคนถนัดซ้ายมีโอกาสแสดงออกซึ่งศักยภาพอย่างเต็มที่
มีหลักฐานทางโบราณคดีว่ามนุษย์ถนัดทั้งซ้ายและขวามายาวนาน นับตั้งแต่เมื่อมนุษย์ลุกขึ้นยืนบนสองขาเป็นมนุษย์เช่นผู้คนในปัจจุบันเมื่อประมาณ 150,000 ปีก่อน มนุษย์ส่วนใหญ่ถนัดขวามากกว่าถนัดซ้าย จนการถนัดซ้ายถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติที่เลวร้าย