ในประเทศอังกฤษ บ้านผีสิงเป็นสิ่ง ที่หาง่าย เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
เพราะไม่ว่าจะเป็นปราสาทเก่าแก่ หรือคฤหาสน์อายุ หลายร้อยปี ซึ่งมีอยู่เป็นอันมากใน ประเทศอันเก่าแก่ แห่งนี้ เกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ มีนิยายเกี่ยวกับ ภูตผีปิศาจสิง สู่อยู่ด้วยทั้งนั้น
ความน่าสะพรึงกลัวของมัน ไม่ใช่นำมาแต่ ความ หวาดหวั่นขวัญสยองเท่านั้น ยังนำมาซึ่งความตายอีกด้วย
เหตุเกิดขึ้นเมื่อปี 1852 ณ คฤหาสน์อันโอ่อ่า ซึ่งตระหง่านงาม อยู่ที่ปีเตอร์บอโร ในนอร์ธแธมป์ตันเชอร์ กล่าวกันว่า บุตรีสาวสวยของเจ้าของคฤหาสน์ ดูเหมือนจะไม่สมหวังในความรัก จึงฆ่าตัวตาย แต่ทางบ้านปิดข่าวเงียบ เปิดเผยให้คนอื่นรู้กันเพียงว่า มาจอรี่ ฮอกินส์ ธิดาสาวสวยของท่าน เซอร์จอห์น ฮอกินส์ เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ ป่วยเป็นลมปัจจุบันเสียชีวิตเท่านั้น
เวลาผ่านไปประมาณปีเศษ ญาติห่างๆคนหนึ่งของท่านเซอร์ก็เดินทางมาพักแรมอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ เป็นการพักผ่อนหย่อนใจหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับงานในเมืองหลวงมานานครัน
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อสาวใช้นำถาดอาหารเข้าไปให้ มาสเตอร์เฮนรี่ ฮาร์ด ในห้องนอน เจ้าหล่อนก็ต้องหวีดร้อง สุดเสียง ปล่อยถาดอาหารตกกระจายเกลื่อนพื้น แล้วหันหลังวิ่งแน่บไปจากที่นั่น ร้องตะโกนเหมือนคนบ้า
“มาสเตอร์ฮาร์ด ! พระเจ้า ! มาดูมาสเตอร์ฮาร์ดกันเดี๋ยวนี้ น่ากลัวเหลือเกิน !”
ผู้ที่ได้ยินเสียงสาวใช้ ต่างก็วิ่งมาที่ห้องพักของญาติเจ้าของบ้านโดยเร็ว ภาพที่เห็นเล่นเอาตกตะลึงจังงังกันไปหมดทุกคน
เฮนรี่ ฮาร์ด แขวนคอตายกับขื่อกลางห้อง ใบหน้าของเขาน่ากลัวสุดพรรณนา
นัยน์ตาโปนถลน ปากอ้า ลิ้นแลบออกมายาวเฟื้อย กล้ามเนื้อที่หน้าตึงเขม็งกลายเป็นสีเทา ไปเพราะขาดเลือดหล่อเลี้ยงมาหลายชั่วโมง
ไม่มีหลักฐานแห่งความตายอันน่าสยดสยองของเฮนรี่ ฮาร์ด จึงได้แต่ลงความเห็นกันเพียงว่า เป็นการฆ่าตัวตายเท่านั้น
เรื่องนี้คงจะเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้ที่ได้ยิน หากว่าอีกไม่กี่เดือนต่อมา เพื่อนสนิทของเฮนรี่ จะไม่เดินทาง ไปค้นหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความตาย ของเพื่อนเกลอ ณ คฤหาสน์ฮอกินส์แห่งนี้
ลอร์ด ฮาร์วีย์ คัธเบิร์ท คือชายหนุ่มคนนั้น
เขาเพิ่งได้รับบรรดาศักดิ์สืบต่อจากบิดา นับว่าเป็นคนหนุ่มที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยว แต่ก็สุภาพอ่อนโยน เหนือสิ่งอื่นใด เขามีความรักเพื่อนอย่างจริงจัง
คัธเบิร์ทไม่เชื่อว่าคนอย่างเฮนรี่ ฮาร์ด เพื่อนของเขา จะฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ เขารู้จักเพื่อนเกลอดีว่า ผู้ชายชอบสนุกร่าเริงและไม่มีปัญหาใดๆในใจเลยอย่างฮาร์ด ไม่มีวันทำอะไรโง่ๆ อย่างนั้นเป็นอันขาด
บิดาผู้ล่วงลับของเขารู้จักกับเซอร์ฮอกินส์เป็นอันดี เมื่อท่านลอร์ดคนใหม่แจ้งความจำนง ขอมาพักอยู่ที่คฤหาสน์ฮอกินส์สักพัก เจ้าของบ้านจึงยินดีและเต็มใจต้อนรับอย่างยิ่ง
มารู้สึกไม่ชอบมาพากลก็ตอนที่คัธเบิร์ทบอกว่า จะขอพักในห้องเดียวกับเฮนรี่ ฮาร์ด เพื่อนผู้ล่วงลับของเขานั่นเอง
“ลุงว่าอย่าดีกว่า หลาน”
เซอร์ฮอกินส์ปรามอย่างไม่สู้สบายใจนัก
“ลุงสั่งปิดตายห้องนั้นแล้ว ไม่ต้องการจะเห็น หรือพูดถึงมันให้ สะเทือนใจอีก”
“แต่ผมอยากจะใช้เวลาสักคืนอยู่ในที่ที่เฮนรี่เคยอยู่น่ะครับคุณลุง”
คัธเบิร์ทบอกอย่างเด็ดเดี่ยว แต่สุภาพนอบน้อม
“อยากรู้ว่าในห้องนั้นมีบรรยากาศอย่างไร เพื่อนผมจึงทำเรื่องที่เขาไม่เคยคิดจะทำนี้ขึ้น”
“อย่าดีกว่าน่า ห้องอื่นสบายกว่าถมไป”
เจ้าของคฤหาสน์พยายามห้ามปรามด้วยสีหน้าไม่สบายใจหนักขึ้น
แต่ลอร์ดหนุ่มตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเสียแล้ว เจ้าของบ้านจึงไม่มีทางเลือก นอกจากสั่งคนรับใช้ให้ทำความสะอาด ห้องที่ปิดตายมาหลายเดือน พร้อมทั้งจัดให้เป็นที่พักของลอร์ดหนุ่มผู้รักเพื่อน
คืนนั้น ลอร์ดคัธเบิร์ทเข้านอนเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง เขาไม่สำเหนียกวี่แววความแปลกประหลาดในห้องนั้นเลย ไม่มีความรู้สึกหนาวเย็นเยือก ไม่มีเสียงผิดปกติให้ได้ยิน และก็ไม่มีกลิ่น หรืออะไรอื่นอันอาจมาจากโลกหนึ่งซึ่งเร้นลับเกินสายตาเห็น
ขุนนางหนุ่มเดินไปเปิดหน้าต่างออก ลมหนาวเย็น พัดกรูเกรียวเข้ามาทันใด แต่เขาไม่สนใจไยดี ชะโงกตัวออกไปข้างนอก แล้วแหงนหน้ามองขึ้นไปข้างบน
ตอนนี้แหละถึงไม่ใช่คนกลัวและมีประสาทแข็งปานใดก็ตาม ชายหนุ่มก็อดเสียวสันหลังวาบไม่ได้ เพราะเหนือขึ้นไปจากหน้าต่างห้องที่เขาชะโงกอยู่ คือหน้าต่างห้องนอนของมาจอรี่ ฮอกินส์ ธิดาสาวสวยของเจ้าของบ้าน ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยวิธีใดไม่แจ้ง หน้าต่างห้องเจ้าหล่อนอยู่ตรงกับห้องเขาพอดิบพอดี
“หวังว่ามาจอรี่คงไม่ลงมาหาเราในคืนนี้...” ลอร์ดหนุ่มนึกเล่นๆ แต่ก็อดขนลุกไม่ได้
ตามปกติ เขาเป็นคนชอบอากาศโปร่งสบาย คัธเบิร์ทจึงไม่ปิดหน้าต่าง แต่เปิดไว้ให้แสงเดือนละไมส่องเข้ามาพร้อมกับลมดึกอันเย็นเยือก
แล้วก็ม่อยหลับไปในไม่กี่นาทีต่อมา หลังจากเอนหลังบนเตียงนอนอันแสนสบาย
เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีนั้น เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว เสียงแผ่วเบาที่นอกหน้าต่าง ทำให้เขารู้สึกตัวตื่นจากนิทราอันแสนสุข
ลอร์ดคัธเบิร์ทเบิกตามองไปยังหน้า ต่างที่เปิดกว้าง แสงจันทร์ส่องเข้ามากระจ่าง มองเห็นทุกอย่างถนัด เขาเห็นปลายเชือกหรือผ้าชิ้นยาวสีขาวๆ แกว่งกระทบขอบหน้าต่างเกิดเสียงดังเบาๆ ในความเงียบสงบสงัด
ขุนนางหนุ่มเกือบลุกขึ้นไปดูเสียแล้ว แต่ก็ยั้งใจได้ทัน เพราะในขณะนั้นมีอะไรบางอย่างปรากฏ ลงมาพร้อมกับปลายเชือกด้วย
มันเป็นชายกระโปรงอันยาวพองบานพลิ้วของสตรี
และท่ามกลางการจ้องมองอย่างตะลึงงันนั่นเอง คัธเบิร์ทก็เห็นร่างหนึ่งโรยตัวรูดลงมาตามเชือกอย่างคล่องแคล่ว ปลายเท้าเหยียบขอบหน้าต่างของเขา ส่งตัวเองเข้ามาในห้องอย่างง่ายดาย
ร่างนั้นหันหน้ามาทางเขาเต็มที่ เปิดยิ้มอย่างเย้ายวนชวนให้เคลิ้มฝัน
ขุนนางหนุ่มตกตะลึงจังงังเหมือนเป็นท่อนไม้ เบิกตาเพ่งดูหน้าอันงามและรอยยิ้มเย้ายวนชวนพิสมัยนั้นพลางอุทานเสียงแผ่วเครือ