ประกาศห้ามฆ่า
มีสมาคมหนึ่งในประเทศจีนได้ออกหนังสือประกาศฉบับหนึ่ง
เรื่อง “ประกาศห้ามฆ่า” ประกาศฉบับนี้ทำให้คนอ่านตกตะลึงและกล่าวขวัญกันอย่างมาก สาระสำคัญขอประกาศฉบับนี้มีอยู่ว่า...
มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐ
ความประเสริฐสูงส่งของมนุษย์นั้นคือจิตคุณธรรม ความเมตตาที่มีอยู่ในจิตของมนุษย์นี้เองทำให้มนุษย์ได้ชื่อว่าสัตว์ประเสริฐ ความเมตตาเป็นสิ่งที่แยกมนุษย์ให้แตกต่างจากเดรัจฉานด้วยจิตสำนึก... แต่มาบัดนี้ จิตที่เคยสูงส่งเปี่ยมด้วยความดีแห่งเมตตาได้มีกำแพงเหล็กอันแน่นหนามาปิดกั้นไว้จนมืดบอด เมื่อมนุษย์ขาดจิตสำนึกจึงมองไม่เห็นผิดบาปที่ตนกำลังก่อขึ้นอย่างมหันต์...
วีรบุรุษผู้นี้แหละเป็นผู้เอาคำถาม 10 ข้อมาเคาะกำแพงเหล็ก
ที่ครอบงำจิตมนุษย์ซึ่งหลั่งไหลมาเป็นเวลาแสนนาน เพื่อมนุษย์จะได้ฟื้นฟูจิตคุณธรรมแห่งความเมตตา กลับมารู้จักโฉมหน้าแท้จริงของตนอีกครั้ง ด้วยพลังอันแข็งแกร่งเขาสามารถปลุกจิตมนุษย์ตื่นขึ้นมาพังกำแพงเหล็กให้หลุดออกมาได้...
คำถาม 10 ข้อที่เขาถามนั้นคือ
1. บ้านเมืองเกิดสงคราม พวกเขากำลังถูกตามล่า ต่างพากันหนีตายอย่างลนลาน ในขณะที่โจรไล่ต้อนจนมุม ความตายมาถึงเบื้องหน้ารู้ว่าไม่มีทางรอดแน่ จิตใจเราขณะนั้นไม่สั่นสะท้านเพราะความกลัวจนขีดสุดหรอกหรือ!...
2. ในขณะพวกโจรจับตัวได้ เราถูกฉุดกระชากลากไถไปอย่างหยาบช้า ทำกับเราเยี่ยงหมูหมา ความรู้สึกของเราตอนนั้นจิตใจไม่แตกกระเจิงขวัญหนีดีฝ่อหรอกหรือ!...
3. เมื่อเห็นคนรักของเราถูกทุบตีอย่างทารุณต่อหน้าต่อตาเราทั้งโกรธทั้งแค้น ตะโกนร้องจนสุดเสียงวิงวอนขอชีวิตแทบขาดใจ ขณะนั้นใจเราไม่เจ็บปวดรวดร้าวหรอกหรือ!...
4. ญาติมิตรของเราถูกพวกโจรจับได้เอามาขึ้นตะแลงแกงพวกโจรฆ่าฟันห้ำหั่นอย่างเลือดเย็น เสียงหวีดร้องร่ำไห้อย่างโอดโอยของพวกเขา ใจเราขณะนั้นไม่คิดจองล้างจองผลาญหรอกหรือ
5. การฆ่ามาถึงตัวเรา พวกโจรเข้ารุมทำร้ายทุบถองตบตีจนกระอักเลือด ความทรมานเจ็บปวดยังไม่เท่าถูกกรีดเนื้อเถือหนังจนปวดแสบไปทั้งร่าง ใจเราขณะนั้นไม่อาฆาตเคียดแค้นหรอกหรือ
6. นาทีแห่งความตายใกล้เข้ามา จิตใจห่อเหี่ยวความหวังริบหรี่ลงทุกที แต่เผอิญขณะนั้นมีโจรคนหนึ่งมาช่วยปล่อยตัว เรามีหวังขึ้นมาอีกครั้ง ใจเราขณะนั้นไม่ดีใจสำนึกขอบคุณหรอกหรือ
7. ทันใดนั้นโจรอีกคันหนึ่งไม่เคยโกรธแค้นกันมาก่อนตรงเข้ามาขัดขวางไม่ให้ปล่อยไปง่ายๆ อ้อนวอนยังไงพวกโจรก็จะฆ่าเราให้ได้ ใจเราขณะนั้นไม่รู้สึกรันทดหดหู่หรอกหรือ!...
8. ในขณะพวกโจรคิดจะปล่อยตัวพวกเรา แต่มีโจรคนหนึ่งคัดค้านขึ้นมาว่าฆ่าเสียเลยจะดีกว่า คนเหล่านี้เกิดมามีเคราะห์ตายไปก็คงจะหมดเคราะห์ หมดกรรมใจเราขณะนั้นไม่เจ็บช้ำหรอกหรือ!...
9. ในขณะคนรักของเราป๋วยหนักอาการแสนสาหัส จริงแล้วถูกสั่งให้ปล่อย แต่มีโจรใจดำคนหนึ่งไม่เห็นด้วย ป่วยหนักเช่นนี้รอดตายยากฆ่าเสียสิ้นเรื่อง ใจเราขณะนั้นไม่เป็นเดือดเป็นแค้นหรอกหรือ
10. ญาติมิตรของเราส่วนใหญ่มีลูกเล็กเด็กแดง พวกโจรคิดจะปล่อยไป แต่มีโจรใจชั่วคนหนึ่งเสนอว่าเด็กพวกนี้ปล่อยไปก็ตาย ฆ่ากินดีกว่าเนื้ออ่อนอร่อย ใจเราขณะนั้นจะอโหสิให้ได้อีกหรือ!...
เขาเรียกร้องให้นำคำถามเหล่านี้ไปถามใจตนดูให้ดี
สัตว์น้อยใหญ่หรือแม้กระทั่ง กุ้ง หอย ปู ปลา เมื่อถูกจับมานอนอยู่ข้างเขียง ต่อหน้ามีดต่อหน้าน้ำร้อน มันก็ย่อมคิดว่าตัวมันกับญาติมิตรที่ถูกจับมาด้วยกันนี้ อีกชั่วครู่ต้องจบชีวิตอย่างเจ็บปวดสาหัส แต่ปากพูดไม่ได้นอกจากชักดิ้นรับความทรมาน... สภาพต่างๆ เหล่านี้ กับสภาพที่โจรจับเราไปมัดนอนรอความตายอยู่แค่ปลายศาตราจะมีอะไรแตกต่างกัน ลองนึกดูว่าถ้าเป็นใจเราบ้าง...
พวกเราทุกคนจงภาวนาอย่าให้มีการฆ่า
ที่ภาวนานี้มิใช่ขอไว้เพื่อเอาบุญแก่ผู้ขอ แต่ขอไว้เพื่อตัวผู้ฆ่า ผู้กิน ผู้เลี้ยง ผู้ค้าขายเองจะได้ไม่ทำบาป ขอให้ไตร่ตรองลองคิดเปรียบเทียบกับตัวเราเองต้องประสบเข้าเช่นนั้นบ้างเถิด ใจของเราจะปกปิดความจริงไม่ได้ อย่าหลอกตนเองต่อไปเลย ตื่นจากการเข้าใจผิดเสียที...
นอกจากจะไม่กินเนื้อสัตว์แล้ว ควรหาโอกาส ปล่อยสัตว์ ด้วย
ปล่อยชีวิตเขาก็เหมือนปกป้องการอยู่รอดของตัวเรา ถ้าเราดูสัตว์ที่เราปล่อยให้พ้นจากความตายนั้นจะรู้ดีกว่าเราเองก็คงดีใจที่รอดตายเช่นนั้นเมื่อเรามีอันตายและได้รับการช่วยเหลือให้อยู่รอดไปได้
สังคมธรรมะออนไลน์