ส่งสัญญาณ หว่านเสน่ห์ (ชาย)

การส่งสัญญาณหว่านเสน่ห์พิฆาตใจชาย แนะนำแก่สาวๆกันไปแล้ว มาคราวนี้ถึงคิวท่านชายได้เรียนรู้วิชาบ้างล่ะ! ว่าการหว่านสเน่ห์อย่างมีชั้นเชิง และลงตัว (ไม่ประเจิดประเจ้อ แต่ไม่หงิมเกินไป) ต้องทำไงกันบ้าง ไปดูกันเลย…..

1. ยึดพื้นที่เข้าไว้

สิ่งหนึ่งที่ผู้ชายหลายๆคนเข้าใจผิด เกี่ยวกับการหว่านเสน่ห์ ก็คือเรื่องของการแสดงความเป็น“สุภาพบุรุษ” โดยพวกเขาเข้าใจว่าการหลบเลี่ยง หรือการทำตัวลีบตัวงอ เพื่อให้ฝ่ายหญิงสามารถมีพื้นที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ต้องนั่งติดกันบนรถประจำทาง การยืนในลิฟท์ หรือเวลาการเดินสวนกัน เป็นต้น เรื่องน่าเศร้าก็คือว่า เมื่อมาถึงเรื่องของแรงดึงดูดทางเพศแล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่จะตีความพฤติกรรมเหล่านั้นไปในทางลบซะมากกว่า คือมองว่ามันไม่แมน และไม่น่าเกรงขาม….จริงอยู่ ว่าการแสดงน้ำใจเป็นเรื่องดี แต่คุณสามารถเก็บน้ำใจของคุณไว้ปฏิบัติต่อเธอภายหลังก็ได้ ในช่วงแรกของการหว่านเสน่ห์ ให้คุณวางตัวสบายๆ ผ่อนคลายให้มากที่สุด เวลายืนไม่ต้องหนีบ เวลานั่งไม่ต้องหุบ เวลาเดินไม่ต้องหักหลบ ใช้พื้นที่ในกิริยาอาการต่างๆ ราวกับว่าโลกนี้คือบ้านของคุณ แล้วพวกเธอจะรู้สึกถึงความน่ายำเกรง อันจะนำไปสู่การ “คล้อยตาม”ต่อไป

2. มองต่ำ

ไม่ได้หมายถึงให้คุณไปมองหน้าอกเธอนะครับ ผู้ชายโดยเฉลี่ย จะมีสรีระร่างกายสูงกว่าฝ่ายหญิงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในระยะใด เวลาพวกเธอมองคุณ พวกเธอมักจะก้มหน้าและเหลือบตาขึ้นมอง ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำเวลามองพวกเธอ ก็แค่เชิดคางนิดๆ แล้วมองพวกเธอโดยพักสายตาลงมา เพราะหากคุณมองพวกเธอในแบบเดียวกับที่เธอมองคุณ หรือก้มหน้าแล้วเหลือบตาขึ้นแล้วล่ะก็ ความรู้สึกของพวกเธอจะตรงกันข้ามทันที กลายเป็นว่าคุณเหมือนพวกเหนียมอายและน่ากลัว ไปซะมากกว่าจะน่าเกรงขาม….อ้อ! แล้วอีกอย่างหนึ่ง จงมองเธอด้วยทัศนคติเดียวกับเวลาที่คุณมองเห็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆคนนึง แล้วมันจะช่วยได้ครับ

3. รุก

ถ้าคุณสังเกตพฤติกรรมการหว่านเสน่ห์ของสุภาพสตรี จะเห็นได้ว่าเป็นไปในเชิง“รับ”หรือเรียกร้องความสนใจมากกว่า ซึ่งก็เป็นไปตามธรรมชาติของเพศหญิงและเงื่อนไขทางสังคมอยู่แล้ว แล้วผู้ชายอย่างเราๆท่านๆจะทำอย่างไรเพื่อให้สมดุลและดึงดูดกัน ถ้าไม่ใช่การ”รุก” แต่การรุกในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการไปรุกรานอะไรเธอนะครับ เพียงแต่ว่าในกระบวนการหว่านเสน่ห์นั้น คุณต้องเป็นผู้กำหนดเอง ว่าจะเข้าหา พูดคุย และตอบสนองไปในทิศทางใด โดยไม่ต้องไปสนใจในพฤติกรรมของพวกเธอมากนัก ถ้าอยากคุย คุณก็แค่เอ่ยปากทักทายไปเลย และหากเริ่มมีการพูดคุยกันได้ระยะหนึ่งแล้ว เรื่องของการสัมผัสร่างกาย(อย่างมีมารยาท) คุณก็ควรเป็นผู้เริ่มก่อนเช่นกัน เพื่อสร้างความรู้สึกให้พวกเธอเคยชิน กับการถูกสัมผัสจากคุณ ไม่ว่าคุณจะรุกด้วยวาจาหรือทางกาย จงทำออกไปด้วยความมั่นใจ สบายๆ

4. เป็นสุข

ไม่ว่าเธอจะมีปฎิกริยาตอบสนองอย่างไร เวลาที่พวกคุณแสดงออกดัง 3 ข้อข้างต้นไปแล้ว จงยิ้มรับและมองพฤติกรรมของเธอ ให้เป็นเรื่องท้าทายจิ๊บๆ เหมือนกับว่าคุณกำลังทำโจทย์ข้อสอบง่ายๆข้อนึงเท่านั้น จงมีความสุขและเรียนรู้กับกระบวนการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ยิ่งถ้าได้รับการตอบสนองที่น่าพึงพอใจจากเธอ จงยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับว่าคุณกำลังสนุกอยู่…นั่นจะยิ่งทำให้เธออยากรู้จักคุณให้มากขึ้นครับ

5. ยึกยัก

มีความแตกต่างอย่างมากในความหมายของการที่ผู้ชายทำตัวล่อกแล่ก ซึ่งเธอดูแล้วหมดอารมณ์แต่แรก กับการยึกยักมีลูกเล่น โดยเล่นกับอารมณ์ของเธอ ซึ่งจะทำให้เธอถูกดึงเข้าไปอยู่ในมนต์สะกดของคุณ แบบหลังนั้น ทำได้โดยการคอยสังเกตอารมณ์ของเธอ หากเธอกำลังเฉยๆ หามุขอะไรเล็กน้อยให้เธอหัวเราะ จากนั้นเมื่อเธอเริ่มอารมณ์ดี อาจพูดหรือทำอะไรบางอย่างให้เธอรู้สึกน้อยใจ เช่นแซวเธอเรื่องของรองเท้าที่ไม่เข้ากับชุด หรืออีกตัวอย่างเช่น เมื่อการสนทนากำลังเป็นไปถึงจุดพีค ให้คุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนกับจะขอเบอร์โทรจากเธอ แกล้งกดดูเล่นๆสักพัก แต่แล้วคุณก็เก็บลงไปใหม่ สุดท้ายแล้วถ้าคุณต้องการจริงๆ ค่อยให้เธอบอกเบอร์คุณอีกครั้ง ลูกเล่นต่างๆเหล่านี้ ประเด็นก็คือการทำให้เธอรู้สึกว่า คุณเป็นคนที่น่าค้นหาและติดตาม และมีสไตล์ของตัวเอง โดยไม่ได้รู้สึกประหม่าจากความสวยหรือความเป็นหญิงของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ….เร้าอารมณ์เธอสุดๆเลยล่ะครับ!

ทั้งหมดนั่นคือหลักง่ายๆในการแสดงความเป็นชายของคุณออกมาอย่างมีชั้นเชิง ไม่ดูก้าวร้าว หรือเงียบติ๋มจนเกินไป หากเปรียบเทียบง่ายๆจะเห็นได้ว่า เวลาผู้หญิงทำการส่งสัญญาณหว่านสเน่ห์ พวกเธอจะเน้นไปที่การทำตัวให้น่ารักน่าทะนุถนอม ในขณะที่ผู้ชายเรา ทำในทางตรงข้าม นั่นคือการวางตัวแบบมั่นใจและมีพลังในตัวเอง เมื่อหยินและหยางมาเจอกัน ก็กลายเป็นแม่เหล็กทางกายโดยธรรมชาตินั่นเองครับ