เพิ่งรู้จัก... จะคุยอะไรดี
“เอ่อ...คือว่า.....” อย่ามัวแต่อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ เวลาที่จะจีบใครสักคน ต้องมีการเตรียมตัว คล้ายๆ กับเวลาที่คุณไปสอบสัมภาษณ์งาน ฉะนั้น แล้ว หากคุณปิ๊งใครคนหนึ่งอยู่ และขอเบอร์โทรศัพท์ ของเขาหรือเธอคนนั้นมาได้ในที่สุด คุณยังไม่ควรรีบร้อนโทรไปจีบ โดยที่ยังไม่ได้ มีการเตรียมตัว ว่าจะคุยประเด็นเรื่องอะไรดี
หากคุณไม่ได้หล่อ-สวยมาก หรือรวยมาก หรือเป็นระดับคาสโนว่า ที่ดึงดูดใจให้ฝ่ายตรงข้ามเริ่มเปิดบทสนทนากับคุณก่อน
คำแนะนำต่อ ไปนี้ เป็นการเตรียมตัวเบื้องต้น ที่จะช่วยให้บทสนทนาของคุณไหลลื่นไปได้
1. ครอบครัว ชวนคุยเรื่องครอบครัว เป็นการทำความรู้จักกันอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา ตามมารยาทแล้ว ถ้าจะคุยกันในประเด็นนี้ คุณ ต้องเล่าเรื่องราวของครอบครัวคุณ ให้ฝ่ายตรงข้ามฟังก่อน แต่อย่างไรก็ตาม คุณต้องสังเกตน้ำเสียง และท่าที ของฝ่ายตรงข้ามด้วยเช่นกัน ว่าเขาหรือเธอ สะดวกที่จะพูดคุยถึงเรื่องครอบครัวหรือไม่ ถ้าหากเขาหรือเธอไม่สะดวก ต้องเปลี่ยนเรื่องคุยในทันที
2. การศึกษา คุยกันเรื่องการศึกษา เพื่อทำความรู้จักพื้นฐานความรู้ของแต่ละฝ่ายกันก่อน ตัดความรู้สึกเรื่อง สถาบันของผมเก่งกว่า สถาบันของคุณ หรือสถาบันของชั้นเก่งกว่าสถาบันของนายออกไป แต่คุยในประเด็นอย่างเช่น ชอบเรียนวิชาอะไรบ้าง ตอนสมัยเรียน ได้ทำกิจกรรมอะไร ที่สนุกๆ บ้างไหม คุยกันไป คุยกันมา อาจจะพบว่า มีเรื่องที่สนใจคล้ายๆ กัน หรืออย่างน้อยๆ ก็ทำให้ ได้รู้จักตัวตน ของแต่ละฝ่าย เพิ่มมากขึ้นไปอีก
3. การงาน ถามได้ แต่ว่า ขอความกรุณาอย่าเพิ่งไปถามเรื่องเงินเดือนเป็นเด็ดขาด และถ้าเงินเดือนของคุณอยู่ในระดับสูง ก็ไม่ควรพูดโอ้ อวดเกี่ยวกับเงินเดือนของคุณ เช่นเดียวกัน ประเด็นสำหรับคุยเกี่ยวกับเรื่องการงาน มีทั้งเรื่อง ความถนัดของคุณ เรื่องประทับใจในที่ทำงาน หรือเรื่องแย่สุดๆ ในที่ทำงาน ที่คุณอยากจะเม้าท์
4. ความชอบ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องสี คุณชอบสีอะไร? คุณถูกโฉลกกับสีไหน? หรือคุยกันเรื่องสัตว์เลี้ยง เลี้ยงสนุข เลี้ยงแมว เลี้ยงปลา ฯลฯ และมีวิธีดูแลอย่างไรบ้าง
5. หนัง,ละคร,เพลง เป็นอีกเรื่องสำคัญที่จะทำให้รู้ตัวตนของเค้า ไม่ว่าจะเป็น แนวเพลงที่ชอบ ป๊อป,ร็อค,แจ๊ส,ฮิพฮอพ หนังก็มีหลาย ประเภท ตั้งแต่ดราม่าน้ำตาแตก ทริลเลอร์เขย่าขวัญ รักโรแมนติก เมื่อ รู้แนวที่ชอบของแต่ละฝ่าย ต่อไปเมื่อมีการพัฒนาสายสัมพันธ์ ไปดูหนังด้วยกัน จะได้เลือกดูเรื่องที่ถูกใจ
6. กิจกรรมยามว่าง นอกจากหนัง,ละครและเพลงแล้ว กิจกรรมยามว่างอื่นๆ ก็มีอีก เช่น เล่นกีฬา วาดรูป ท่องเที่ยว เข้าวัด ทำบุญ.... คุย เรื่องกิจกรรมยามว่างที่คุณสนใจ และเสนอแนะเขาหรือเธอว่า ไปเที่ยวที่นี่กันดีมั้ย ไปทำกิจกรรมที่นั่นกันดีมั้ย? หรือชวนกันแลกเปลี่ยน ไอเดีย และหาข้อสรุป ว่าจะทำกิจกรรมอะไรดี ที่จะได้สนุกร่วมกัน
7. ไสยศาสตร์และการดูดวง ลองเกริ่นๆ ดูก่อน ว่าเขาหรือเธอ สนใจ และมีความเชื่อเรื่องการดูดวงหรือเปล่า ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่ชอบ การทำนายทายทัก หรือดูดวงชะตาชีวิต ก็พูดคุยแลกเปลี่ยนถึงศาสตร์ในเรื่องนี้กัน หรือยามมีเวลาว่าง ชวนกันไปดูดวง ก็เข้าท่า
8. ทำบุญ ทุกศาสนามีพิธีกรรมต่างๆ และรูปแบบการทำบุญที่แตกต่างกันออกไป การไปทำบุญด้วยกัน ช่วยทำให้จิตใจรู้สึกผ่อนคลายลง ได้ และช่วยทำให้รักอย่างมีสติ ลองชวนคนที่คุณกำลังจีบอยู่ ไปทำบุญด้วยกัน ถ้าเค้าไป แสดงว่า ส่วนหนึ่งในจิตใจเค้า เชื่อในการทำ ความดี แต่ถ้าเค้าไม่ไป ก็ไม่ต้องรีบร้อน รอให้เค้าว่างๆ ก่อน ค่อยชวนไปใหม่ อีกรอบก็ได้
9. ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว มีทั้ง กลางวัน และกลางคืน กลางวัน ก็มี สวนสาธารณะ ห้างสรรพค้า สวนสนุก สวนสัตว์ หอศิลป์ ฯลฯ ส่วนสถานที่เที่ยวกลางคืน ก็ไปที่ที่มีความเหมาะสม เช่นร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ริมน้ำเจ้าพระยา ตลาดนัดกลางคืน ที่สะพานพุทธ ถาม คนที่คุณกำลังจีบว่า เขาหรือเธอ ชอบสถานที่ ท่องเที่ยว ที่มีบรรยากาศ แบบไหน... เป็นธรรมชาติ? แหล่งช๊อปปิ้ง? แหล่งอาหารอร่อย? เมื่อรู้ใจในเบื้องต้นกันแล้ว ก็เหลือแค่ หาเวลาว่างไปเที่ยวด้วยกัน
10. ความลับ ลองบอกกับคนที่ คุณกำลังจีบอยู่ว่า "เรื่องที่ผมพูดออกไปนี่ เก็บไว้เป็นความลับด้วยนะครับ" เพื่อดูว่า ฝ่ายตรงข้าม จะรักษา ความลับของคุณ เอาไว้ได้หรือไม่ ถือเป็นการเล่นอะไรสนุกๆ ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องที่คุณพูดออกไป อาจไม่ใช่ความลับ ที่สลักสำคัญอะไร มากก็ได้ หรือว่า ลองเกลี้ยกล่อมฝ่ายตรงข้าม ให้เขาหรือเธอ บอกความลับกับคุณบ้าง