ขนบนใบหน้าจัดการไม่ยาก

 การเกิดขนส่วนเกินขึ้นโดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก จะเห็นได้ชัดกว่าปกติ ซึ่งมีผลมาจากพันธุกรรมที่แต่ละคนมีขนมากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งการโกนถอน หรือแว็กซ์ขนทั่วไปนั้นเป็นเพียงวิธีชั่วคราว เท่านั้น และการกำจัดขนที่ถาวรก็คือการกำจัดลึกถึงต้นตอ ซึ่งก็คือ การกำจัดขนตั้งแต่รากขนอันเป็นจุดที่เส้นขนถือกำเนิดขึ้นนั่นเอง

       How to Fix

          เลเซอร์เป็นวิวัฒนาการที่แพร่หลายในปัจจุบัน สำหรับการกำจัดขนบนใบหน้าที่สังเกตได้ง่าย อย่างเช่น หน้าผาก ซึ่งถือเป็นส่วนที่ละเอียดอ่อน จนทำให้บางคนไม่สามารถกำจัดด้วยวิธีทั่วไปอย่างการแวกซ์หรือโกน เพราะกลัวว่าขนที่งอกขึ้นมาใหม่ จะเป็นเส้นหนาและดกยิ่งขึ้น เลเซอร์จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ในการเลือกเลเซอร์ที่จะรักษา ก็ควรจะปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนทำด้วยนะ

       Light Sheer Laser

         เป็น Diode Laser ที่สามารถกำจัดขนได้อย่างละเอียดเป็นจำนวนมากและรวดเร็ว ใช้เวลาน้อยกว่าการจี้ด้วยไฟฟ้า ลดจำนวนขนได้อย่างรวดเร็ว ตรงเข้าสู่รากขนในผิวชั้นล่างไม่รบกวนเม็ดสีผิวที่อยู่ชั้นบน และมีระบบการให้ความเย็นบนผิว จึงสามารถใช้ได้กับคนทุกสีผิว จะเริ่มเห็นผลเมื่อทำได้ 4-7 ครั้ง ราคาเพิ่มต้นครั้งละ 2,000-18,000 บาท

       IPL (Intense Pulsed Light)

          การรักษาด้วยพลังงานแสงที่มีการใช้คลื่นแสงความเข้มสูง ส่งพลังงานไปยังรากขน โดยพลังงานจะเปลี่ยนเป็นความร้อนเพื่อไปทำลายรากขน และลบเลือนจุดด่างดำได้ ซึ่งในปัจจุบันมีบริการที่คลินิกความงามอย่างแพร่หลาย สามารถทำได้ทุก 2 สัปดาห์ มักจะเริ่มเห็นผลเมื่อทำได้ ประมาณ 5 ครั้ง ราคาเริ่มต้นครั้งละ 1,000 บาท

        Cool Glide Laser

          เป็นการกำจัดขนถาวร เลเซอร์จะตรงเข้าไปที่ชั้นรากขนและทำให้เส้นขนเล็กลง โดยมีการโกนขนและทายาชาก่อนทำเลเซอร์ รวมทั้งมีการประคบด้วยความเย็นหลังจากทำเลเซอร์เสร็จด้วย สามารถทำให้ต่อมรากขนนับร้อย หยุดการงอกของเส้นขนได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยปกติจะรักษาประมาณ 3-5 ครั้ง เว้นระยะเวลาขั้นต่ำ ประมาณหนึ่งเดือน ครั้งละ ประมาณ 8,000 บาท

       ข้อควรระวัง

            การทำเลเซอร์กำจัดขน ไม่ควรถอนขนก่อนที่จะเข้ารักษาก่อนการทำเลเซอร์ เพราะจะมีการทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 20-60 นาที และผลข้างเคียงหลังการรักษา อาจมีผื่นหรือรอยแดงที่รอบ ๆ รูขุมขน แต่มักจะหายได้เองภายใน 1-2 วันหลังจากที่ทำเลเซอร์



ที่มา ... Lisa