ตามประวัติแล้วลูกกอล์ฟ ตอนที่เริ่มเล่นใหม่ๆ นั้นเป็นลูกหนังยัดไส้ขนนก แต่พอมาถึงศตวรรษที่ 19
ผู้ผลิตลูกกอล์ฟ พบยางที่เรียกว่า กัตตา-เปอร์ชา เป็นวัสดุที่จะช่วยทำให้ลูกกอล์ฟตีไปได้ไกลมากขึ้น
ขณะที่นักประดิษฐ์พบว่า ลูกกอล์ฟที่มีรอยบุบนั้น ตีไปได้ไกลกว่าลูกผิวเรียบ จึงพยายามลดแรงเสียดทานพื้นผิวลูกกอล์ฟระหว่างที่พุ่งผ่านอากาศและช่วยพยุงให้ลูกลอยอยู่ในอากาศได้นานขึ้น ว่าแล้วจึงทำรอยบุ๋มซะทั่วลูก มีขนาดลึกประมาณ 0.01-0.25 มิลลิเมตร แต่ละลูกมีรอยบุ๋มประมาณ 300-500 รอย
ปัจจุบันนี้ลูกกอล์ฟทำด้วยยางที่แข็งนอกอ่อนใน และถ้าไม่บุ๋ม ไม่ใช่ลูกกอล์ฟ
เหตุผลอธิบายเรื่องนี้มีว่า ลักยิ้มหรือรอยบุ๋มบนลูกกอร์ฟจะกันกระแสลมไม่ให้ก่อตัวขึ้นข้างหลัง ลมก็จะผ่านลูกกอล์ฟไปอย่างราบรื่น ถ้าไม่มีรอบบุ๋ม กระแสลมก็จะก่อตัวขึ้นข้างหลังลูกกอล์ฟ และรบกวนการเดินทางของมัน พูดง่าย ๆ คือ หลุมบนผิวสร้างชั้นอากาศขึ้นมาซึ่งเป็นผลให้
1. แรงเสียดทานที่ผิวลดลง ลูกกอล์ฟหมุนได้นานและเร็วกว่าจึงรักษาทิศทางได้ดีกว่า
2. Flow Separation เกิดช้าลง ความแตกต่างของความดันด้านหน้าและด้านหลังลูกกอล์ฟมีน้อยกว่า แรงฉุดลดลง ลูกกอล์ฟจึงไปได้ไกลขึ้น