"จันทร์กระจ่างอยู่กลางใจเธอเสมอ หาให้เจอจะเป็นสุขทุกคืนวัน"
"เพิ่งจะรู้สึกถึงการมีชีวิตและเข้าใจความจริงของชีวิตก็ไม่นานมานี้เอง"
เมื่อก่อนเคยคิดแต่เรื่องของตัวเอง วุ่นวายอยู่แต่กับอะไรที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า
ชีวิตวัยเด็ก..เรียนหนังสือ ลำบากตามประสาเด็กบ้านนอกที่ครอบครัวยากจน
พอโตมามีความรัก...ก็เริ่มมีเรื่องวุ่นวายเกี่ยวกับความรัก
และการค้นพบว่าตัวเองเป็นในสิ่งที่พ่อแม่ไม่ยอมรับ
เครียด วุ่นวาย สับสน หาทางออก คิดถูกบ้าง..ผิดบ้าง
พอเรียนจบ ทำงาน ก็วุ่นวายแต่เรื่องงาน
......ไขว่คว้าสิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์ ความก้าวหน้า เงินเดือน
หลาย ๆ ครั้งที่เราเดินไปในทางผิด...ผิดจนเห็นว่าทางที่เราควรเดิน เป็นยังไง
สิ่งผิดมักสร้างบทเรียนที่ดีให้เราได้จำ...ให้ได้คิด...แบบรู้สึกจริง...เจ็บจริง
และมองเห็นได้ด้วยตัวเองว่า...ทำไมเราจึงต้องเดินออกจากทางนั้นซะ
แต่ทุกอย่างที่ผ่านมา...ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เราวุ่นวายอยู่กับตัวเราเองทั้งนั้น
การเรียน ความรัก หน้าที่การทำงาน ครอบครัว สังคม
เคยมีซักครั้งมั้ยที่เรามานั่งทบทวนว่า "เราเกิดมาในโลกใบนี้เพื่ออะไร"
เพื่อเรียน เพื่อทำงาน เพื่อให้ถูกยอมรับจากสังคม แบบนั้นหรือ?
แล้ววันนึง...ก็ได้เห็นสิ่งที่เป็นความจริง
เมื่อหยุดวนเวียนในวังวนของชีวิต
มองออกไปรอบ ๆ ตัว
เราก็จะเห็นว่ามีผู้คนอีกหลากหลายอยู่รอบ ๆ ตัวเรา
และหนึ่งในนั้นก็มีอีกกลุ่มที่เราเรียกว่า "กลุ่มคนที่ด้อยโอกาส"
วันที่เห็นชีวิตของคนเหล่านั้น
ทำให้รู้สึกว่า ในขณะที่เรากำลังวุ่นวายอยู่กับเรื่องของตัวเองนั้น
...มีอีกกลุ่มคนนึงที่ดิ้นรนเพื่อการอยู่รอด
มีอีกหลาย ๆ ชีวิตกำลังลำบาก
ที่จริงแล้ว ชีวิตบริสุทธิ์และเรียบง่ายเท่านี้เอง
ความเรียบง่ายที่สุดของการมีชีวิต คือการใช้ชีวิตเพื่ออยู่รอดด้วยปัจจัยพื้นฐาน
มีอาหารทาน มีเสื้อผ้าใส่ มีที่พักอาศัยให้พอใช้ชีวิตอยู่ได้ มียารักษาโรคเมื่อป่วย
เมื่อหันกลับมามองตัวเอง...แท้จริงแล้ว เรามีทุกสิ่งเหล่านั้นครบหมดแล้ว
เรามีอาหารในระดับที่พอหามาทานได้
มีเสื้อผ้าใส่ปกคลุมร่างกาย
มีที่พักที่ปลอดภัย
และเมื่อป่วย ก็สามารถหาซื้อยาไปหาหมอเพื่อรักษาได้
สิ่งที่มากมายกว่านั้น..คือการสร้างเปลือกนอกแห่งความสบายเท่านั้นเอง
เมื่อเห็นคนที่ด้อยโอกาสกว่า...ทำให้เข้าใจว่า...สิ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้ล้ำค่าที่สุดแล้ว
เรามีชีวิต มีสุขภาพที่ดี มีคนรอบข้างที่รักเรา
เป็นตัวเราเองทั้งนั้นที่ทำตัวและใจเราให้ร้อนรนเอง
เมื่อความอยากมีในตัวเราก่อกิเลสขึ้นมา สมองก็จะคิดทบทวนว่าจะได้สิ่งเหล่านั้นมาได้อย่างไร
ทุ่มเททุกอย่างเพื่อจะหาสิ่งเหล่านั้นมาตอบสนองความต้องการให้ได้
...เมื่อได้รับมา ก็อยากได้ในขั้นสูงไปอีก และหาไปอีกเรื่อย ๆ
แล้วเมื่อไหร่..ใจถึงจะพอ
เมื่อไหร่...ใจถึงจะรู้สึกได้ว่าสุข
คนมักมองผิดว่าสิ่งที่หามาได้คือความสุข
ทั้งที่จริง ๆ แล้วความสุขไม่ได้อยู่ที่ตัววัตถุที่เรากำลังมุ่งมั่นหา
แต่ความสุขเกิดขึ้นกับเราได้ทุกเมื่อ...ที่ใจเรา
เพียงแค่เราสร้างมันขึ้นมา
รับรู้หัวใจตัวเอง...รู้ความเป็นไปของใจเรา...และรู้ที่จะสร้างสุขให้หัวใจ
กลไกของชีวิตไม่ได้ซับซ้อน แต่ใจเราเองต่างหากที่ทำให้ซับซ้อน
ทุกคนเกิดมามีหน้าที่ใช้ชีวิตแค่ช่วงเวลานึง แล้วก็ต้องจากไป
สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทาง แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับตัวแต่ละคนเองว่าจะเลือกเดินทางไหน
ถ้าวางความสุขไว้ที่ตัววัตถุ...
...สุดท้ายแล้วเมื่อถึงวันที่จากไป
คนรวยหรือคนจนก็จากไปแบบไม่มีอะไรติดตัวเหมือนกันหมด
ความจริงของความสุขก็คือ...เราสามารถสร้างความสุขขึ้นมาได้เองทุกวัน
และความจริงอีกข้อที่สำคัญคือ...
ความสุขที่เราได้มอบให้ผู้อื่น จะอยู่ในใจเค้าเสมอ ถึงแม้เราจะจากไป
ความสุขที่มอบให้ผู้อื่น....คือความสุขที่ยั่งยืนที่สุด
ยั่งยืนกว่าความสุขที่เราสร้างให้ตัวเอง
สร้างความสุขให้คนรอบข้าง ดูแลและแบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือบุคคลอื่นรอบ ๆ ตัวเรา
ทั้งคนที่เรารู้จักและไม่รู้จัก
เป็นการสร้างคุณค่าของการมีชีวิต
นี่คือคำอวยพรปีใหม่ ครั้งสุดท้ายที่เก๋ได้รับจากเพื่อนที่รัก ที่จากไป
เพื่อนส่งให้ตอนที่กำลังป่วย
เป็นคำอวยพรที่อ่านแล้วประทับใจ
"จันทร์กระจ่างอยู่กลางใจเธอเสมอ หาให้เจอจะเป็นสุขทุกคืนวัน"
ขอส่งต่อคำอวยพรนี้ให้ทุกคน
ขอให้ทุกคนเจอจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่ในหัวใจ
ขอให้ทุกคน..มองเห็นความสุข
ขอบคุณที่มา :: sea_story http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sea
จันทร์กระจ่างอยู่กลางใจเธอเสมอ หาให้เจอจะเป็นสุขทุกคืนวัน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!