ผอ.ศปภ.แจงสถานการณ์น้ำท่วมปทุมฯ-นนท์

เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)
 
พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ.ให้สัมภาษณ์ถึงการป้องกันพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ว่า ต้องชี้แจงว่าสาเหตุที่น้ำไหลเข้าจ.ปทุมธานี และอาจกระทบจ.นนทบุรี เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา มีน้ำทะเลหนุนสูงสุดถึง 2.29 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

 ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องระบายน้ำก้อนใหญ่ ประมาณ 200 ล้านลบ.ม.

ที่มาจากบริเวณอ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และบริเวณ ต.หินกอง จ.สระบุรี ซึ่งจะระบายออกทางคลองเชียงรากน้อย ทำให้น้ำทะเลกับแม่น้ำเจ้าพระยาหนุนกันเองทำให้เอ่อท่วมเข้าพื้นที่ทั้งสองจังหวัด แต่คันกั้นน้ำในกทม.มีความสูงมากกว่า 2.50 เมตร ปฏิบัติการดังกล่าวจึงไม่ใช่ปล่อยน้ำลงมาท่วมพี่น้องชาวจ.ปทุมธานี

 ทั้งนี้ คาดว่าประมาณน้ำจะลดลงในวันที่ 17 ต.ค.จะลดลง แต่หลังจากผ่านวันนี้ไปได้สถานการณ์จะเพลาลงและจะเจอน้ำทะเลหนุนอีกครั้งระหว่างวันที่ 28-30 ต.ค.นี้

 เมื่อถามว่าสถานการณ์ล่าสุดนิคมอุตสาหกรรมนวนครเป็นอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ขณะนี้ยังเซฟได้อยู่ และตนจะลงพื้นที่ไปดูด้วยตัวเอง

 ต่อข้อถามว่าเจ้าหน้าที่สามารถบล็อกน้ำที่เอ่อท่วมด้านหลังของตลาดไทได้หรือยัง พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า เราไม่ใช่คำว่าบล็อกได้อยู่ เพราะธรรมชาติของน้ำจะไหลจากสูงลงต่ำคือไหลจากแถบวังน้อย หินกอง ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ราชา ผ่านประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ผ่านเข้ามาเป็นตลาดไท ซึ่งเราไม่สามารถบล็อกได้ 100 % เพราะอาจจะทำให้เขื่อนพัง ประตูน้ำแตก จะเป็นปํญหาที่แก้ลำบากเหมือนลิงแก้แห จึงทำให้น้ำเอ่อขึ้น

 เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลยืนยันว่าสามารถกันน้ำได้ ไม่ให้เข้านิคมอุตสาหกรรมทั้ง 4 แห่งในจ.พระนครศรีอยุธยา แต่สุดท้ายก็พังหมด พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า น้ำมันมากมายมหาศาล ถ้าไม่ปล่อยเขื่อนแตก็จะเป็นปัญหาหนักขึ้น เราไม่เคยบอกว่าจะกันให้อยู่ เพราะอยุธยาท่วมหนักจนเป็นทะเลและโรงงานส่วนใหญ่อยู่ในนั้น

 เมื่อถามว่าทหารนาวิกโยธินสหรัฐที่เข้ามาช่วยสำรวจพื้นที่ความเสียหาย

รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า รายงานตลอด และให้ข้อมูลในเรื่องน้ำเท่านั้น แต่การวางแผน้องกันเป็นเรื่องของศปภ. ทั้งนี้เราคงยังไม่ขอความร่วมมืออะไรมากกว่านี้ แต่เมื่อเขาแสดงความมีน้ำใจเราก็รับมา