เรื่องจริงของสังคมไทย

วันนี้ ผมจะอาสาเปิดเผยฉากหลังม่านให้ท่านได้เห็นว่าแท้จริงมันคืออะไรกันแน่ จะได้เลิกโง่กันเสียที

เรียนโรงเรียนไหนก็ได้ เหมือนกันแหละ

นี่เป็นคำที่ผู้หลักผู้ใหญ่ทางการศึกษาชอบออกมาปลอบใจให้คนที่เสียใจจากการสอบเข้าไม่ติด โรงเรียนชื่อดังต่างๆ ว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน หลักสูตรเดียวกัน หนังสือก็เล่มเดียวกัน ครูก็คนของรัฐเหมือนกัน แต่เชื่อมั๊ยครับว่าคำนี้เป็นแค่คำลวงที่แสนจะตอแหล รับไม่ได้ เพราะสภาพของโรงเรียนแต่ละที่นั้นมีปัจจัยอื่นที่นอกจากการศึกษาที่จะเอื้อให้เด็กมีบรรยากาศของการเรียน นั้นคือ กลุ่มเพื่อนๆ และสิ่งแวดล้อมรอบๆ โรงเรียน ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติโรงเรียนวิทยาพินาศ มีครูที่แสนจะดี ตั้งใจสอน ตำราเรียนสื่อการเรียนก็พร้อมสรรพ แต่ เด็กที่เข้ามาเรียน อันเป็นองค์ประกกอบที่สำคัญที่ ก่อขึ้นมาเป็น สังคมเพื่อนของเด็กๆ มันไม่ตั้งใจเรียน ชอบแต่จะแว้น ชอบแต่จีบหญิง ชอบไปเล่นยา แล้วลูกของท่านเป็นอรหันต์หรือที่จะไม่คล้อยตามพวกเพื่อนเลวๆนั้น  นี่คงเพียงพอที่จะตอบคำถามว่า เรียนที่ไหนก็ไม่เหมือนกัน(ตัวอย่างง่ายๆ นะครับ)

รายการนี้ควรแนะนำ

ผมเป็นคนที่เลิกดูทีวีมาเกือบ 7 ปีแระ เพราะผมเห็นว่า ผมไม่โง่พอที่จะมานั่งเฝ้าดูรายการปัญญาอ่อนทางทีวี เพราะอะไรทำให้ผมคิดเช่นนั้น คุณดูจากทีวีตอนนี้สิ เสนออะไรที่ประเทืองปัญญา แหมๆๆๆๆๆ อย่าบอกว่าดูเพื่อคลายเครียดนะ ทานโทดเถอะคุณ ไปโรงเรียนคุณก็โดดไม่เข้าเรียน ไปทำงานคุณก็งีบคุณก็เม้าท์  แล้วจะมาเครียดห่าไรอีก ไม่ต้องมาคลายเครียดเลย ทีวีวันนี้มีอะไรดูบ้าง หลักๆเลย ข่าว นินทาดารา(อันนี้ชอบกันนักเรื่องคนอื่น ระยำ) และรายการโชว์ปัญญาอ่อน ราศรีนั้นนี้ จะดีร้าน โง้นงี้ บ้ารึป่าว แล้วไอ้รายการนี้ควรได้รับคำแนะนำ บลาๆๆๆ ผมถามเถอะ เอี้ยเป็นคนคิดเรื่องนี้มาเองรึป่าว คุณคิดหรอว่าเด็กที่มันนอนดูจะแคร์ ไม่ใช่ว่ารายการนี้เด็กต่ำกว่า 13 ควรดูกะผู้ใหญ่ แล้วมันจะปิดเมื่อไม่มีแม่มันดูด้วยนะ ทานโทด มันก็ยังดูนั้นแหละ   แล้วถ้าจะให้แม่มันมานั่งดูเพื่อให้คำแนะนำลูกนะ ฝันไปเถอะควาย แม่มันนั่งขายผักอยู่ในตลาดโน้น จะมานั่งตอแหล กะลุก อยู่เห็นจะอดตายโหงยกครอบครัวพอดี นี่พอจะบอกว่าทีวีบ้านเราควาย ได้หรือยัง?

เจ้ากับร่างทรง

มันเป็นปรากฎการณ์ทางสังคมที่น่าตื่นตาจริงๆ เมื่อเจ้าผู้อยู่บนสวรรค์ ใช้ชีวิตไร้แผ่นดิน ได้ส่งหญิงสาวนางหนึ่งมาเกิดในยุคนี้ แล้วเจ้าก็จะลงมาประทับทรงสาวนางนั้น เพื่อสั่งการให้มนุษย์เป็นไป ต่างๆ แต่ถ้าวันใด เจ้าไม่ได้ประทับทรง หญิงนางนั้นก็จะเอ๋อแดก ตอบปัญหา ช่วยแก้ปัญหาสังคมที่มีอยู่ทุกวันไม่ได้ สร้างความสมเพชไปทั่วหัวระแหง ด้วยแววตาและคำตอบแบบควายๆ ดูแล้วอนาถว่ะ   คราวหน้าคราวหลัง จงอย่าเลือกสิ่งที่เรียกว่า เจ้ากับร่างทรงเข้ามาอีก เสียเวลา เสียงบ เสียอารมณ์  สึดดดดดดดดด

หญิงชายที่ไม่เท่าเทียม

โลกมันเปลี่ยนไป หญิงชายนั้นเท่าเทียมแล้ว นี่คือคำโกหกที่รับไม่ได้ที่สุด เห็นแล้วต้องแบะปากใส่ อย่างไม่แยแส เพราะในความเป็นจริงในสยามประเทศนี้ หญิง ชาย จะไม่มีวันเท่าเทียมอย่างเด็ดขาด เพราะอะไรนะหรือ  อ่ะตัวอย่างเรื่องนามสกุล ที่ให้ใช้ได้ทั้งของตนเอง ทั้งของสามี เมื่อเขียนออกมาแล้วยาวยังกะรถไฟสายใต้ ที่สำคัญ เป็นอีตัวแปลกของสังคมไปเลย ที่ไม่รักดี ไม่ให้เกียรติผัว เอานามสกุลตนเองมา ต่อให้วุ่นวาย ดีไม่ดี ญาติฝ่ายสามีไม่ปลื้มเอาอีก (นี่แค่เรื่องนามสกุลนะ) แล้วเรื่องการใช้ชีวิต อย่างเช่น ผู้ชายเตะบอล โห่ร้องเฮฮา ใครผ่านไปมาต้องแวะดู เพราะเกมส์มัน มันส์ เหลือเกิน ในทางกลับกันเอาผู้หญิงมา เล่นวอลเล่ย์ แล้วโห่ร้อง กรี๊ดกร๊าด คนก็จะหยุดเหมือนกัน แต่จะหยุดถามว่านั้นลูกใคร แรด จัง แม่มันสอนบ้างม่ะ  นี่แหละที่มันไม่เท่าเทียมกัน อย่างเป็นอมตะ

ประชาธิปไตยคือสุกี้หม้อใหญ่

ประชาธิไตยในเมืองไทย มันมีจริงหรือ หรือว่ามันเป็นแค่เพียงการสืบทอดอำนาจ จากพ่อให้ลุก ไม่ต้องยกเรื่องที่ไหนไกลตัว เอาเรื่อง อบต ง่ายสุด เราจะเห็นว่า พวกนี้เขาจะได้ตำแหน่งเพราะ ใครมีญาติมากสุด นามสกุลไหน คนให้เยอะสุดในตำบล คนนั้นก็จะได้ตำแหน่งไป เมื่อได้ตำแหน่งมาแล้ว อบต สมองกลวงนั้นทำไร เป็นบ้าง ตอบได้เลยว่า อย่างเก่งก็ ขุดลอกคลอง สร้างท่อระบายน้ำ ซ่อมท่อประปา สังเกตว่า จะทำเป็นเฉพาะงานที่ใช้แรง อย่างควาย แต่งานที่ใช้แนวคิดในระดับนโยบายเหล่านี้จะทำไม่เป็น เพราะอะไร เพราะ เขาได้มาเพราะนามสกุล ไม่ได้มาด้วยความสามารถ ดังนั้น ชนบทไทยที่ใช้การบริหารแบบนี้อยู่ ก็ยังว่ายวนในทะเลโง่ อยู่จนอ่อนแรงและตายไปเอง