ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมืองไทยอาจประสบปัญหา"น้ำท่วมกรุงเทพฯ" และเมืองหลวงของประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็เคย"ถูกน้ำตีแตก"เช่นกัน
นาทีนี้ สิ่งที่สร้างความวิตกกังวลให้ชาวกรุงเทพฯ มากที่สุด คงหนีไม่พ้นข้อสงสัยว่า “กรุงเทพฯ จะเกิดน้ำท่วมหรือไม่?” เพราะสถานการณ์วิกฤติขึ้นทุกวัน บริเวณที่ถูกระบุว่า “เอาอยู่” หรือ “ไม่ต้องกังวล” ก็เห็นได้ว่าน้ำตีจนแตกพ่ายแทบทุกที่ จนวันนี้กรุงเทพฯ ประสบภาวะ “น้ำล้อมเมือง”
แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมืองหลวงของประเทศไทยประสบภาวะน้ำท่วม หากย้อนดูประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ก็เคยประสบอุทกภัยครั้งใหญ่หลายครั้ง เช่นในปี 2485 มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุทกภัยในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาก็เพิ่มสูงขึ้นจนท่วมท้นกรุงเทพมหานคร บริเวณสะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ วัดระดับน้ำที่ท่วมได้สูงถึง 2.27 เมตร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่วนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ในปี 2538 ก็เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่อีกครั้ง เมื่อพายุหลายลูกพัดถล่มทางตอนบนของประเทศไทย ทำให้น้ำเหนือไหลหลากท่วมกรุงเทพฯ ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร นานร่วม 2 เดือน
ที่สำคัญ ประเทศไทยก็ไม่ใช่ประเทศเดียวที่เมืองหลวงต้องเผชิญกับอุทกภัย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ ก็ประสบปัญหาน้ำท่วมในกรุงมะนิลา จากเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อประชากรกว่า 500,000 คน ทำให้ถนนหลายสายถูกตัดขาดเนื่องจากน้ำท่วม โรงเรียนและหน่วยงานราชการที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต้องหยุดทำการ เที่ยวบินที่เข้าออกกรุงมะนิลาหลายเที่ยวถูกยกเลิก นอกจากนี้สถาบันการเงินต่างๆ เช่นธนาคารและตลาดหุ้นต้องหยุดทำการ ส่วนระบบรถไฟฟ้าก็หยุดให้บริการเนื่องจากไฟฟ้าไม่เพียงพอ