คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมคนที่เคยรักกันปานจะกลืน ชนิดชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ แม้น้ำต้มผักก็ยังว่าหวาน แต่พอแต่งงานกันไม่เท่าไร บางคู่ก้นหม้อข้าวไม่ทันดำด้วยซ้ำก็หันหลังให้กันเสียแล้ว
บางคู่ดูใจกันมานาน จนคิดว่าแค่มองตากันก็รู้ใจกันเรียนรู้นิสัยใจคอจนแทบทะลุปรุโปร่งแต่ชีวิตคู่กลับไปไม่รอด
เรื่องอย่างนี้จะไม่เกิดขึ้นกับชีวิตคู่ของคุณแน่นอนถ้าคุณรู้เขารู้เราแบบรู้สึกไปถึงธรรมชาติของความคิดความต้องการ อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันระหว่างหญิงชายคุณก็ได้เข้าใจตัวคุณเอง และเข้าใจคนที่คุณรักด้วย
เมื่อคนเรามีความเข้าใจ ความยอมรับก็จะตามมา เมื่อยอมรับได้
ความหงุดหงิด
เบื่อหน่าย รำคาญ
โกรธเคือง ก็จะคลายลง
การรู้ถึงธรรมชาติของชาย-หญิง จะช่วยให้คุณอ่านใจ อ่านท่าที
ปฏิกิริยาของอีกฝ่ายออกว่าเขากำลังต้องการอะไร ทำให้คุณสามารถทำตัวได้ถูกต้องเหมาะสม ที่สำคัญคือถูกใจคนที่คุณรัก
ความขัดแย้งกินใจก็จะไม่เกิดขึ้น แถมยังเสริมสร้างความรักความผูกพัน ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิมเพราะคุณจะกลายเป็นคนข้างเคียงที่รู้ใจเขาไปทุกเรื่อง
ลองมาคิดดูซิว่าคุณรู้เรื่องเหล่านี้แล้วหรือยัง
a.. เมื่อมีปัญหา ผู้ชายอยากปลีกตัวอยู่คนเดียวเงียบๆ
แล้วคิดทบทวนเรื่องราวตามลำพัง ไม่อยากให้ใครถามเซ้าซี้กวนใจ ไม่อยากให้ใครเห็นว่าเขาอ่อนแอ และยังไม่ต้องการคำปลอบประโลมในขณะนั้น ทางที่ดีควรปล่อยให้เขาอยู่เงียบๆ สักพัก โดยไม่เข้าไปวอแว
แต่สำหรับผู้หญิงแล้ว เมื่อมีปัญหา เธออยากจะพูดระบายให้ใครสักคนฟังในยามนี้เธอต้องการผู้ฟังที่มีความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจถึงความรู้สึกทุกข์ร้อนของเธอ
b.. ผู้ชายต้องการให้ผู้หญิงอยู่ใกล้ชิดในยามที่เขากำลังสบายใจ
และผ่อนคลาย ในขณะที่ผู้หญิงต้องการให้ผู้ชายอยู่ใกล้ชิดในยามที่เธอรู้สึกกังวลทุกข์ใจ
c.. ผู้หญิงจะหงุดหงิดถ้าผู้ชายพูดหรือแสดงท่าทีที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นแม่บ้านที่บกพร่อง เช่นบ่นว่าบ้านรก อาหารไม่อร่อยถูกปาก ส่วนผู้ชายจะหงุดหงิด ขัดเคือง ถ้าผู้หญิงพูดหรือแสดงท่าทีทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นหลักที่ดีของครอบคัว เช่น บ่นเรื่องงานไม่มั่นคง รายได้น้อยถามว่าเมื่อไรคุณจะได้เลื่อนตำแหน่
งเสียที หรือพูดเปรียบเทียบกับผู้ชายคนอื่นในเรื่องหน้าที่การงาน
d.. ผู้หญิงต้องการให้ผู้ชายช่วยทำงานบ้าน ดูแลลูกแต่เธอไม่ชอบเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ กลับใช้การบ่นประชดประชัน ซึ่งทำให้ผู้ชายอารมณ์เสียในขณะที่ผู้ชายชอบรอให้เธอขอร้องตรงๆ เขาขึงจะทำ
ทางที่ดีที่จะป้องกันความขัดแย้งคือผู้ชายน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้านบางอย่าง สำหรับผู้หญิงถ้าต้องการให้เขาช่วยทำอะไรก็บอกเขาไปตรงๆแทนที่จะพร่ำบ่นปากเปียกปากแฉะหรือเอาแต่พูดกระแทกกระทั้นแบบตีวัวกระทบคราด ทำให้บรรยากาศเสียไปเปล่าๆ
e.. เวลาที่ผู้หญิงมาปรึกษา เธออยากได้คำแนะนำ การตัดสินใจ
หรือคำพูดที่ให้ความมั่นใจกับเธอ ไม่ใช่คำบอกปัดว่าแล้วแต่เธอ เธอตัดสินใจเอาเองก็แล้วกันเป็นคำตอบที่เธอไม่อยากได้ยิน เพราะคำพูดแบบนี้ไม่ได้แสดงถึงการตามใจ แต่เธอรู้สึกว่าคุณไม่แยแสไม่เป็นผู้นำหรือไม่เป็นหลักทางใจให้กับเธอเสียเลย
f.. ผู้หญิงต้องการคำพูดให้กำลังใจ คำพูดที่ทำให้เธอรู้สึกมีคุณค่าเช่น บอกถึงความห่วงใยพูดชมเชยฝีมือทำอาหาร ชมทรงผมใหม่ของเธออยู่กินกันนานแค่ไหนก็ตามอย่าละเลยที่จะเหยาะคำหวานให้เธอชื่นใจบ้าง
ในขณะที่ผู้ชายต้องการการกระทำที่แสดงถึงการเอาอกเอาใจหรือบริการความสะดวกสบายบางอย่างเช่น ปอกผลไม้ให้ทาน ชงกาแฟให้ดื่ม
g.. ผู้หญิงทนไม่ได้กับความรู้สึกที่ว่าผู้ชายปกปิดอะไรบางอย่าง
หรือพูดไม่จริงกับเธอในขณะที่ผู้ชายคิดว่าปกปิดเพื่อให้ผู้หญิงสบายใจแต่หารู้ไม่ว่ายิ่งเป็นการทำให้เธอกระวนกระวาย
ใจและอาละวาดหนักขึ้น
h.. ผู้หญิงชอบคาดคั้นหาคำตอบที่เธอข้องใจ ซึ่งยิ่งทำให้ผู้ชายรำคาญและปิดปากสนิทยิ่งขึ้น ในขณะที่ผู้ชายเต็มใจที่จะบอก ไม่ก็หลุดปากออกมาเอง ถ้าผู้หญิงมีท่าทีสงบทำให้เขารู้สึกเกรงใจและวางใจว่าเธอจะไม่เล่นงานเขา
i.. ผู้ชายไม่ชอบพูดคำว่ารัก แต่ชอบบอกด้วยการกระทำ เช่น
ทำงานหนักก็เพื่อสร้างความมั่นคงให้ครอบครัว ผู้หญิงจะได้สบาย ในขณะที่ผู้หญิงปรารถนาอยู่ลึกๆอยากได้ยินคำบอกรัก โดยเฉพาะหลังแต่งงานที่น้ำต้มผักเริ่มหมดรสหวานแล้ว เพราะจะทำให้เธอรู้สึกมั่นใจและอบอุ่นใจ
j.. เมื่อเกิดความเครียด ผู้หญิงอยากระบายด้วยการพูด
ในขณะที่ผู้ชายไม่ค่อยชอบพูดก็เลยแสดงออกไปในด้านอื่นๆ แทน เช่น ไปเที่ยว ไปดื่ม มีเพศสัมพันธ์แต่คนที่ระบายออกอย่างถูกวิธีก็จะไปเล่นกีฬาออกกำลังแทน
k.. เมื่อหลับนอนด้วยกัน ผู้ชายจะรู้สึกดีถ้าผู้หญิงทำให้เขารู้สึกว่า เธอต้องการเขา ในขณะที่ผู้หญิงจะรู้สึกดีถ้าผู้ชายทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่เขาทะนุถนอม
ลงแบบนี้แล้วล่ะก้อผู้หญิงอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังและถนอมนำใจสักหน่อย ถ้าจะหลีกเลี่ยงการหลับนอนกับเขา ขืนพูดว่าอย่ามายุ่งหรือแสดงท่าทีตัดรอนอย่างไม่มีเยื่อใยผู้ชายจะเสียความรู้สึกทันที และรู้สึกเหมือนถูกทำร้ายจิตใจ
ส่วนทีท่าที่ผู้ชายจะแสดงต่อผู้หญิงควรนุ่มนวลเล้าโลมอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะทำให้รู้สึกว่าเธอมีคุณค่า ถ้าจ้วงจาบรุนแรง ผู้หญิงจะรู้สึกว่าเธอเป็นเพียงเครื่องรองรับอารมณ์ใคร่และเขาช่างไม่อนาทรต่อความรู้สึกของเธอเสียเลย
การมอบความรักควรทำอย่างที่อีกฝ่ายต้องการไม่ใช่ทำอย่างที่ตัวเราต้องการ อย่าลืมว่า รักอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องรู้เขา รู้เรา และเข้าใจกันด้วย