ความสำเร็จของชีวิต
ผมเป็นคนเหนือนะครับ
ลงมาทำงานกรุงเทพฯ งานที่ทำก็เป็นพนักงานธรรมดาทั่วๆไปนี่แหละครับ ไม่ได้ดีเด่นอะไรมากมาย ทำงานมาปีกว่าแล้ว รู้สึกเบื่อชีวิตกรุงเทพฯ และก็เบื่อตัวเองด้วย เพราะว่าสังคมที่ทำงานผมมีแต่คนรวย ผมมักจะเข้ากลุ่มกับเพื่อนๆที่ออฟฟิศไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ เลยเกิดอยากกลับบ้านขึ้นมา
ประมาณสิ้นเดือน เมษายน วันเกิดผม
ผมโทรกลับบ้าน พ่อกับแม่ก็พูดแฮปปี้เบิร์ดเดย์ และได้คุยหลายเรื่องๆด้วยกัน รวมถึงการหางานใหม่แถวๆบ้านด้วย เพราะผมอยากกลับบ้านแล้ว ผมบ่นว่า "เบื่อมากเลย รู้สึกตัวเองตัวเล็กลงทุกทีๆ อยากกลับบ้าน อยู่กรุงเทพฯ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ โดนเจ้านายด่าประจำ ที่นี่ไม่เหมาะกับเรา ตอนวันเกิดปีก่อนฝันอยากทำอะไรไว้ วันเกิดปีนี้ก็ยังไม่สำเร็จซักอย่าง ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เสียเวลาเปล่าๆไปเป็นปี" ผมบ่นต่อ " ไม่รู้เมื่อไหร่จะประสบความสำเร็จกับเขาบ้างเสียที" พ่อผมเงียบไปซักพัก
แล้วพ่อผมก็พูดว่า
":-)ยังไม่พอใจกับชีวิตอีกเหรอ 20 กว่าปีก่อน ตอนที่ว่ายแข่งกับน้ำเชื้อหลายร้อยล้านตัวไปเจาะไข่กับแม่:-)ได้" "ทนอยู่มาตั้งเก้าเดือน ไม่แท้งไปซะก่อน" "ผ่านช่วงเด็กมาได้โดยไม่ตกน้ำตกท่าตาย หรือเหรียญติดคอตายไปซะก่อน" "โตมาเป็นวัยรุ่นได้ ไม่ไปติดยา หรือไปตีกับเขาตายซะก่อน" "สอบเข้าโรงเรียนมีชื่อของจังหวัดแข่งกับเด็กคนอื่นอีกเป็นพันได้" "เอ๊นติดมอรัฐ แข่งกับคนตั้งเป็นหมื่นเป็นแสน ช่วยพ่อแม่ไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสิ้นได้" "เรียนมหาลัยจบ มีคนตั้งกี่คนเข้ามหาลัยได้ แต่เรียนไม่จบ" "ได้เกียรตินิยมอีกต่างหาก จะมีคนซักกี่คนที่ได้แบบนี้" "เรียนจบแล้วไม่ต้องหางาน เดือนได้มีงานทำ มีนักศึกษากี่คนที่จบมาแล้วตกงานเป็นปี"
"ได้ทำงานกรุงเทพฯอย่างที่อยากทำ มีคนอีกตั้งเยอะมาหางานกรุงเทพฯแล้วไม่ได้" "ได้ทำงานครั้งแรก เงินเดือนสตาร์ท 20,000.- มีเด็กจบใหม่ซักกี่คนจะได้อย่างนี้" "ทนทำงานได้ตั้งปีกว่า มีคนตั้งเยอะ พอมาทำงานแล้วไม่ชอบก็ต้องออก บางคนอยู่ได้แค่วันเดียวออกก็มี" "ที่สำคัญ ตอนนี้:-)ยังมีชีวิตอยู่ แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว" "เพราะมันหมายถึง :-)ยังมีอนาคตอยู่" "บ่นได้บ่นไป บ่นให้พ่อกับแม่ฟังนี่แหละ อยากพูดอะไรพูดมา แต่อย่าท้อแท้ ชีวิตยังอีกยาว"
ผมร้องไห้เลยครับ ความสำคัญของตัวเองที่ไม่เคยรู้สึก สิ่งที่เราเป็นมาตลอด โดยดูเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา จริงๆด้วย ทุกวันนี้มีเด็กกี่คนที่ไม่ได้เกิด เด็กกี่คนที่ไม่ได้โต เด็กกี่คนที่ไม่ได้เรียน คนกี่คนที่ไม่มีงานทำ คนกี่คนที่ไม่มีอนาคต ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนพวกนั้น แค่นี้ผมน่าจะดีใจได้แล้ว....
หนึ่งปีที่ผ่านมากับการทำงานกรุงเทพฯ ผมได้อะไรเยอะกว่าที่คิด แต่ผมไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง....
ขอบคุณครับพ่อ
ขอบคุณที่มา
สาระแนดอทคอม