รู้สึกง่วงนอนในเวลาที่ไม่ควรง่วง เช่น นั่งสัปหงกในที่ทำงาน หรือในระหว่างขับรถ นั่นอาจเป็นผลจากการนอนกรนก็เป็นได้ !!
ทั้งนี้เนื่องจาก ภาวะนอนกรน ไม่ได้สร้างปัญหาแค่เสียงรบกวนอันน่ารำคาญเท่านั้น แต่อันตรายจากการนอนกรนยังส่งผลกระทบต่อสมองอีกด้วย
ดังนี้ผลกระทบจากการนอนกรน ซึ่งทำให้ผู้ป่วยหยุดหายใจบางขณะ สร้างปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวันมากมาย เช่น ง่วงในเวลากลางวัน สมาธิสั้น อ่อนเพลียเรื้อรัง หงุดหงิดอารมณ์เสีย ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
ในเด็ก นอนซักพักแล้วสะดุ้งตื่น นอนกระสับกระส่าย ปัสสาวะรดที่นอน หรืออาจมีปัญหาการเรียน
ผู้ที่นอนกรนยังมีโอกาสเสี่ยงในการเป็นหลอดเลือดสมองแตก สมองเสื่อม โรคหัวใจขาดเลือด โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หย่อนสมรรถภาพทางเพศ และส่งผลต่อความสามารถในการจดจำและการใช้ความคิดอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ที่กรนเสียงดังๆ ยังรบกวนคู่นอนทำให้นอนไม่หลับได้
นอนกรนแบบไหน อันตรายถึงชีวิต
การนอนกรนที่มีภาวะการหายใจที่ผิดปกติและหยุดหายใจขณะหลับ จะเป็นอันตรายต่อร่างกายผู้ป่วยมาก ซึ่งผู้ป่วยที่มีทางเดินหายใจแคบมากในเวลาหลับ เมื่อยังหลับไม่สนิทจะมีเสียงกรนที่สม่ำเสมอ
แต่ทว่าเมื่อหลับสนิทจะเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ มีเสียงกรนที่ติดสะดุดไม่สม่ำเสมอ โดยจะมีช่วงกรนเสียงดัง-ค่อยสลับกันเป็นช่วงๆ และจะกรนดังขึ้นเรื่อยๆ โดยมีช่วงหยุดกรนไปชั่วระยะหนึ่ง
ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการหยุดหายใจ ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจติดขัดเหมือนคนสำลักน้ำ และจะทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง เป็นผลให้ขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมองระหว่างนั้นอาจทำให้เซลล์สมองเสื่อมได้
ฉันนั้น หากไม่มั่นใจว่าการนอนกรนที่เป็นอยู่ผิดปกติในระดับใด อันตรายหรือไม่ สามารถเข้าไปทำแบบทดสอบวัดระดับความผิดปกติของการหายใจขณะนอนหลับได้ที่ เพื่อประเมินเบื้องต้นด้วยตนเอง
การรักษาภาวะนอนกรน
เช่นนี้เป็นความเข้าใจผิดที่คนส่วนใหญ่คิดว่าการนอนกรนเป็นเรื่องทั่วๆ ไปที่ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ความจริงแล้วการนอนกรนเป็นเรื่องที่ควรเอาใจใส่ และควรเข้ารับการตรวจรักษาหากมีอาการรุนแรง
ฉันนั้น ในเบื้องต้นผู้ป่วยสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเองเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายและกล้ามเนื้อแข็งแรง
อีกทั้ง หลีกเลี่ยงการนอนหงายโดยพยายามนอนในท่าตะแคงข้างและนอนศีรษะสูงเล็กน้อย หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือไม่ยานอนหลับ หรือยากล่อมประสาทก่อนนอน
กรณีที่เป็นการนอนกรนชนิดอันตรายที่มีการหยุดหายใจร่วมด้วย พึงเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการรักษา โดยแพทย์อาจเลือกใช้เครื่องช่วยหายใจ Nasal CPAP ซึ่งเป็นเครื่องครอบจมูกขณะหลับ เพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
วิธีนี้ปลอดภัย และได้ผลดีในผู้ป่วยเกือบทุกราย หรือไม่แพทย์อาจรักษาโดยวิธี Somnoplasty คือการจี้กระตุ้นให้เพดานอ่อนหดตัวลง โคนลิ้นหดตัวลง หรืออาจตัดสินใจใช้วิธีการผ่าตัดเอาส่วนที่ยืดยานออก ซึ่งการจะพิจารณาเลือกรักษาโดยวิธีใดนั้น ก็ขึ้นกับความเหมาะสมในแต่ละกรณีไป
นอนกรน..อันตรายกว่าที่คิด
ขอบคุณ : watkoh.com
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!