ในช่วงนี้ขอเสนอเรื่องราวสุขภาพที่เกี่ยวกับน้ำท่วมถี่หน่อย เพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายท่านที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่ในขณะนี้
นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ บอกว่า ในช่วงน้ำท่วมถ้ามี 21 อาการดังต่อไปนี้ขอให้รีบเร่งจัดการโดยด่วน คือ
1. ไข้หนาวสั่น ปวดตัว ทานยาอยู่ได้สักพักพอหมดฤทธิ์ยาแล้วขึ้นสูงอีก อาจเป็นได้จากติดเชื้อรุนแรง อาทิ ไข้เลือดออก ไข้ฉี่หน ไข้จากภาวะกรวยไตอักเสบหรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้ไข้สูงปวดตัวร้าวรานกินอาหารไม่ได้ ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่อยู่คนเดียวไม่ได้แล้วครับ
2. มีไข้ ไอ หอบ ปอดบวมแน่ต้องรีบแก้ก่อนช็อกจากออกซิเจนในเลือดต่ำ ต้องรีบแก้โดยการให้ออกซิเจนและฉีดยาฆ่าเชื้อให้ตรงชนิด
3. โดนสัตว์พิษกัดต่อย มีสิทธิโดนลูกหลงได้มากเพราะสัตว์เหล่านี้ก็หนีน้ำเหมือนกัน กลางคืนที่มืดมิดขอให้ใช้ไฟฉายนำทาง ตื่นมาตอนเช้าเอารองเท้าเคาะกับพื้นก่อนกันงูหรือตะขาบเข้าไปใช้เป็นศูนย์อพยพ
4. ตาแดงเรื้อรังมีขี้ตาเขรอะ มีแผลที่ตาดำ ทำให้ตาบอดได้ ช่วงน้ำท่วมอาจโดนกิ่งไม้เกี่ยวตาหรือคอนแทคเลนส์ที่ใส่เปื้อนน้ำไม่สะอาดแล้วไม่ได้เปลี่ยนบ่อยอาจทำให้เกิดตาติดเชื้อรุนแรงได้
5. แผลผิวหนังบวมแดงเป็นวงกว้าง พ่วงอาการปวดและร้อนด้วย อาจเกิดจากแผลขีดข่วนเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นเป็นช่องทางให้แบคทีเรียเข้าไปลามติดในแถบชั้นผิวหนังเป็นวงกว้าง
6. แผลติดเชื้อมีจุดดำลามออกไป เป็นสัญญาณเนื้อตาย อย่างนี้อาจติดเชื้อร้ายอย่างแบคทีเรีย หรือจากการอักเสบรุนแรงใต้ผิวหนัง ทิ้งไว้ลามแน่แก้ยากอาจต้องตัดบางส่วนทิ้ง ยิ่งในคนไข้เบาหวานยิ่งต้องระวัง
7. ผื่นคันมีน้ำเหลืองแฉะเรื้อรัง อาจเกิดจากอาการแพ้เรื้อรังที่กำเริบช่วงร่างกายอ่อนแอน้ำท่วมหรือเชื้อราที่มากับน้ำก็ได้
8. เหนื่อยหอบจนคอและซี่โครงบุ๋ม อันนี้ชี้ถึงความฉุกเฉินเรื่องทางเดินหายใจครับ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถ้าดูคอแล้วบุ๋มตอนหายใจ ดูเหนื่อยจนซี่โครงยก เป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบให้ออกซิเจนแล้วพาพบแพทย์อายุรกรรมด่วน
9. ปวดท้องรุนแรงหรือมีไข้ ถ้าปวดด้านล่างขวาก็น่าจะเกิดจากไส้ติ่ง ดังนั้นอย่าเพิ่งทานอาหารมากเพราะจะเสี่ยงไปทำให้ไส้ติ่งแตกแผลเน่าได้ แต่บางทีอาการดังกล่าวอาจเป็นเพียงกรดไหลย้อนหรือลำไส้อักเสบก็ได้
10. ท้องเสียทานไม่ได้ซึมลง คอยสังเกตอาเจียนและความถี่ของการเข้าห้องน้ำ ถ้ามากมายขอให้ค่อย ๆป้อน “น้ำหวาน” เติมน้ำตาลไว้ก่อน สำคัญที่วัดความดันโลหิตอยู่เป็นระยะเพราะทั้งถ่ายทั้งไม่ได้ทานจะพาลเป็นลมจากความดันต่ำแล้วช็อกได้
11. ปัสสาวะขัดปวดหลัง การอั้นปัสสาวะ หรือการใช้น้ำที่ไม่สะอาดอาจทำให้ท่อปัสสาวะติดเชื้อได้ง่าย มีอาการปวดฉี่ตลอดเวลา ฉี่ขัดคล้ายฉี่ไม่สุด
12. คุณแม่ตั้งครรภ์มีน้ำคร่ำแตกไหลออกมาคล้ายปัสสาวะ น้ำมาไม่ปรานีใครแม้แต่คนท้องใหญ่ใกล้คลอด สัญญาณอันตรายคือปวดครรภ์ถี่ขึ้นทุก 5-10 นาทีมีน้ำไหลคล้ายปัสสาวะออกมาจากช่องคลอด อันนี้คือถุงน้ำคร่ำแตก ต้องรีบให้คลอดโดยเร็ว
13. ผู้สูงวัยไม่กินข้าว นอนทั้งวันและเซื่องซึม เกิดได้จากทั้งเครียด เหนื่อยและซึมเศร้า อาการอย่างนี้ช่วงติดน้ำต้องระวัง
14. คนป่วยเบาหวานมีกลิ่นผลไม้จากลมหายใจ ไม่ใช่ของดีแล้วเพราะแสดงว่าใกล้ช็อก
15. คนป่วยโรคหัวใจแน่นหน้าอกมือเย็นเท้าเย็นจะเป็นลม ดูซีดไปหมดทั้งตัวเหงื่อผุดเต็ม ถ้ามีประวัติโรคประจำตัวอยู่ยิ่งต้องระวัง ความเครียดเหนื่อยช่วงน้ำท่วมจะรุมซัดทำให้โรคหัวใจกำเริบขึ้นมาได้
16. คลื่นไส้อาเจียนรุนแรงจนซึมลง อาจเกิดจากอดนอน น้ำในหู หูติดเชื้อ โรคกระเพาะ อาหารเป็นพิษและทางเดินอาหาร อาการที่น่าห่วงคือซึมลง ความดันต่ำจนช็อก
17. โรคลมชักเกิดชักเกร็งแล้วมีแขนขาอ่อนแรง เวลาน้ำท่วมขออย่าให้ขาดช่วงยากันชัก เพราะการชักแต่ละครั้งทำลายเนื้อสมองไปมาก จะทำให้อาการแย่ลง
18. เวียนหัวบ้านหมุนมากจนทรงตัวไม่อยู่ น้ำในหูไม่เท่ากันหรือความดันขึ้นจากเครียดก็เกิดได้
19. เด็กเล็กขาดน้ำจนกระหม่อมบุ๋ม ตาโหล ปากแห้งและซึมลง เด็กทนการขาดน้ำไม่ได้เหมือนผู้ใหญ่ ในช่วงน้ำล้อมถ้ามีนมชงจะช่วยพยุงอาการไว้ได้มาก หากมีเพียงน้ำหวานให้ใช้ชงผสมเพื่อให้ได้กลูโคสเข้าเลือด แต่ไม่ควรเป็นน้ำผึ้งเพราะอาจทำให้ยิ่งท้องเสียและขาดน้ำได้
20. นอนไม่หลับติดต่อกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นอาการทำลายสุขภาพอย่างร้ายแรง ทำให้สมองกับหัวใจต้องทำงานตลอดเวลา การอดนอนทำให้เหนื่อยล้าไวขึ้นกว่าเดิมมาก หากจำเป็นอาจใช้ยาแก้หวัดที่ง่วงทานไปก่อนแล้วปิดการรับสื่อที่ทำให้เครียด จากนั้นรีบพบแพทย์
21. ซึมเศร้าเก็บตัวไปจนถึงพฤติกรรมเปลี่ยน หูแว่ว เห็นภาพหลอน เกิดได้จากไม่ได้พักผ่อนเลยแม้ในคนจิตใจปกติก็ตาม ระวังในคนที่อยู่คนเดียว ผู้อาวุโสที่ต้องสู้ภัยน้ำท่วมอยู่คนเดียวหรือคนที่ไม่ยอมอพยพอาจพบกับอาการฉุกเฉินทางจิตเวชจากความเครียดได้.