เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา มติชนออนไลน์ ได้เคยนำเสนอบทสัมภาษณ์ หมอดูเนปจูน โหรมีชื่ออีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งใช้อิทธิพลของตัวเลขที่สัมพันธ์กับดวงดาวในระบบสุริยะจักรวาลมาช่วยวิเคราะห์ทำนายชะตาดวงชาติบ้านเมือง และบุคคลต่างๆ
ในคราวนั้น ซึ่งเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้งครั้งใหญ่ เดือนกรกฎาคม นอกเสียจากดวงบ้านดวงเมือง เรื่องความขัดแย้งแตกสามัคคีของคนในชาติแล้ว หมอดูเนปจูน ยังได้ฝากย้ำคำเตือนถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ อันเป็นความรุนแรงที่ชาวประชาชนชาวไทยจะต้องเผชิญ... ร่วมกัน ท่ามกลางความใจจดใจจ่อของหลายๆฝ่าย ที่มัวแต่พุ่งเป้าให้ความสนใจ ไปกับการได้รัฐบาลใหม่ การฟอร์มทีม ครม.
"สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ภัยพิบัติที่ก้าวเข้ามาเรื่อยๆ ไทยก็ประมาทไม่ได้ ให้ดูจากประเทศอื่นๆที่เกิดขึ้น ดวงโลกปี 2011 และ ปี 2012 โลกมันร้อน ดวงอาทิตย์โคจรเข้ามาสองดวง แล้วดาวอังคารถูกทำลาย โลกของเรากำลังผจญภัยกับเหตุการณ์ต่างๆ โดนสายฟ้าฟาด เลยเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ เข้า เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม ปีหน้า (2555) รุนแรงกว่าปีนี้ มันอาจไม่รุนแรงถึงขั้นโลกแตก สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครคาดคะเนได้ นี่คือสิ่งที่น่ากลัวและวิตกกังวลมากที่สุด ซึ่งผมก็ได้แต่เฝ้าภาวนาไม่ให้เกิดอะไรรุนแรง ถ้ามันไม่เกิดขึ้นถือว่าเราโชคดีไป " หมอดูเนปจูน บอกกับผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ ด้วยสีหน้าวิตกกังวล ก่อนที่จะทราบผลถัดจากนั้นไม่นาน ว่า พรรคไหนได้ถือเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล และก่อนที่ ประเทศไทยของเราจะได้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์
ถัดจากนั้น เมื่อย่างเข้าสู่เดือนสิงหาคม ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ทีวี วิทยุ รวมถึงอินเตอร์เน็ต ก็เริ่มให้ความสำคัญกับข่าวน้ำท่วม
จากข่าวกรอบเล็ก กลายเป็นข่าวใหญ่ พาดหัว ถ่ายทอดภาพเหตุการณ์ เน้นให้เห็นถึงความหายนะของภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่ล้วนแล้วแต่เกิดจากสายน้ำ ก้อนใหญ่ที่หลั่งไหลถาโถมไล่มาตั้งแต่ภาคเหนือ จนดูวิกฤตเริ่มมาจากนครสวรรค์ ลพบุรี พิษณุโลกกำแพงเพชร พิจิตร พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี รวมถึงกรุงเทพมหานคร ทั้งยังจะลามไปสมุทรสาคร สมุทรปราการ รวมถึงน้ำที่ท่วมในภาคอีสานอีกหลายจังหวัด ซึ่งรัฐบาลภายใต้การบริหารจัดการ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่แม้จะตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) มาคอยแจ้งข้อมูลข่าวสาร รายงานสถานการณ์น้ำช่วยเหลือดูแลเยียวยาผู้ประบอุทกภัย หรือกระทั่งหลายสื่อทีวีช่องยักษ์ใหญ่ที่ระดมพลข่าวลงพื้นที่รายงานสถานการณ์น้ำประสานให้ความช่วยเหลือข้าวปลาอาหาร หรือการอพยพ มอบเรือ และพลังของจิตอาสา จากภาคประชาชนหรือหน่วยงาน องค์กร เอกชน เอ็นจีโอ ต่างๆก็พรรคพวกไปช่วยกันสร้างปราการกั้นน้ำตามที่ต่างๆทั้ง"เอาอยู่" บ้างและพังพินาศเสียหายไปก็มาก...และดูท่า น้ำก็ยังไม่มีทีท่าสิ้นสุดการเดินทาง จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางคือ "ทะเล"
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 หมอดูเนปจูน ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ "ภัยพิบัติทางธรรมชาติ" ท่ามกลางสถานการณ์"น้ำ" ที่กำลังถาโถมบุกรุก"เมืองหลวง"ของประเทศอย่าง"จัดหนัก" กับ"มติชนออนไลน์"อีกครั้ง เขา เปิดประโยคแรกในการสนทนา ว่า "นายกฯจะอยู่ไม่ได้ หลังน้ำลด"
ก่อนจะบอกต่อว่า ดวงของประเทศไทย ณ ขณะนี้ ป่วยหนักมาก ไม่มีที่ท่าว่าจะดีขึ้นเลย จากอิทธิพลของดวงอาทิตย์ที่อ่อนกำลังลง ซึ่งนายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน อาจจะไม่ได้อยุ่ในตำแหน่งอีกต่อไป ด้วย 2 เหตุผลหลัก คือ ถ้าไม่ลาออกเอง ก็ต้องโดนม็อบ ซึ่งเกิดจากประชาชนและผู้ไม่พอใจในการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ที่มีแต่ล้มเหลว ขับไล่ ซึ่งม็อบที่ว่านี้ อาจจะเป็นจากลักษณะพวกเดียวกันเองและกลุ่มคนที่ไม่สนับสนุนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วรวมตัวกันขับไล่ และ อุทกภัยที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ เป็นเพียงแค่ซ้อมใหญ่ เป็นน้ำท่วมการเมือง จากการกลั่นแกล้งกันเอง...และยัดเยียดความผิดให้ฝ่ายตรงข้าม เรื่องของ "กงกำกงเกวียน"
แต่หลังจากน้ำลด "เชื้อโรค" จะเป็นสิ่งที่ตามมา อย่างน่ากลัว รวมถึงแผ่นดินไหว ซึ่งในปี 2555 อุทกภัยที่มาจากน้ำ จะเป็นของจริง และรุนแรงกว่าปีนี้ที่เรากำลังเผชิญอยู่ ด้วยอาจมีเขื่อนใหญ่พัง
"ปีหน้าแรง อาจารย์บอกได้แค่นี้ ของจริงเลย ในปี 2555 จากอิทธิพล การโคจรของดาวนิบิรุ ที่จะส่งผลร้ายต่อโลก เรียกว่าเป็นดาวมหันตภัย คนที่อยู่เมืองหลวงตอนนี้ อย่างกรุงเทพฯ จะมีแต่ความวุ่นวายนับจากนี้ไป เหตุการณ์จะรุนแรง พ้นน้ำ เจอเชื้อโรค จากนี้ไปจะเกิดแผ่นดินไหว ในประเทศใกล้ๆไทยซึ่งส่งผลต่อเขื่อนแตกในประเทศ อาจมีตึกสูงถล่มภายใน 3 ปีนี้ คนจะตกงานกันมากมาย คนดีมีศีลธรรมก็จะพลอยได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ดวงประเทศป่วยมากตอนนี้ จากนี้ไปอาจไม่ค่อยเจอเรื่องดี จนกว่าจะพ้นปี 2562 เป็นต้นไปนั่นแหละ ยังไงก็ไปวิเคราะห์ พิจารณากันเอาเองนะ เท่าที่อาจารย์ดูจากดวงดาว ก็ออกมาเป็นอย่างนี้" หมอดูเนปจูน ทิ้งท้าย