ผู้ว่าฯ กทม.ระบุ การรื้อคันบิ๊กแบ็กบริเวณสี่แยก คปอ. ระดับน้ำยังไม่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่อยู่ใต้คันบิ๊กแบ็ก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระดับน้ำในคลองรังสิตลดลง พร้อมยืนยันจะเร่งสูบน้ำคูคลองในกรุงเทพฯ ด้านเหนือให้เร็วที่สุด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำ บริเวณประตูระบายน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์ หลังเปิดประตูระบายน้ำคลองซอย คลองขุนศรีบุรีรักษ์ และคลองควาย เมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบว่าระดับน้ำด้านในประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร ขณะที่ระดับน้ำคลองส่วนใหญ่ลดลง 1.5 เซนติเมตร ยกเว้นคลองมหาสวัสดิ์น้ำระดับคงที่ ส่วนระดับน้ำคลองทวีวัฒนาเพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร โดยหลังจากนี้จะใช้เวลาติดตามและประเมินผลกระทบใน 48 ชั่วโมง
ส่วนสถานการณ์น้ำทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ คลองสายหลักมีปริมาณน้ำลดลง โดยเฉพาะคลองรังสิต อยู่ที่ระดับ 2.98 เมตร หมายถึงสถานกาณณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี ส่วนการรื้อคันบิ๊กแบ็กที่สี่แยก คปอ. ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบ ประกอบกับระดับน้ำในคลองรังสิตลดลง คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดย กทม.จะเร่งสูบน้ำ กรุงเทพเหนือลงคูคลองให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ กทม.สามารถเก็บขยะได้เกินจากเวลาปกติ รวม 112% โดยโรงกำจัดขยะหนองแขม รองรับขยะได้ 2,902 ตัน และโรงกำจัดขยะอ่อนนุชมีขยะ 6,642 ตัน แบ่งเป็นวิธีฝังกลบ 5,582 ตัน ทำปุ๋ย 1,060 ตัน และมี 25 เขต ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม สามารถจัดเก็บขยะได้แล้ว 4,540 ตัน หรือคิดเป็น 105% โดยเก็บเพิ่มขึ้นจากเวลาปกติ 4,343 ตัน เขตที่สามารถจัดเก็บขยะได้ 100% มี 13 เขต ได้แก่บางพลัด, บางกอกน้อย, ตลิ่งชัน, บึงกุ่ม, บางกอกใหญ่, คันนายาว, บางกะปิ, ภาษีเจริญ, หนองจอก, ธนบุรี, ลาดพร้าว และจอมทอง ส่วนเขตที่จัดเก็บขยะได้ 80% มี 7 เขต ได้แก่ ลาดกระบัง, บางขุนเทียน, ทวีวัฒนา, หลักสี่, จตุจักร, บางบอน และบางเขน ขณะที่เขตบางแค จัดเก็บขยะน้อยที่สุด 60% จึงกำชับเจ้าหน้าที่เร่งจัดเก็บให้มากที่สุด โดยเน้นเก็บขยะเปียก ส่วนขยะที่มาจากน้ำท่วมให้ทยอยจัดเก็บ