คิมเข้าไปโอบกอดเขา แล้วตอบว่า 'ไม่เป็นไร ฉันให้อภัย ฉันให้อภัย'
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะให้อภัย โดยเฉพาะกับคนที่ทำร้ายเราปางตาย
คิมฟุคเล่าว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความทุกข์ทรมานแก่เธอทั้งกายและ
ทั้งใจ จนเธอเองก็ไม่รู้ ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร แต่แล้วเธอก็พบว่า
สิ่งที่ทำร้ายเธอจริงๆ มิใช่ใครที่ไหน หากได้แก่
ความเกลียดชังที่ฝังแน่นในใจเธอนั่นเอง
ฉันพบว่าการบ่มเพาะความเกลียดเอาไว้สามารถฆ่าฉันได้'
เธอพยายามสวดมนต์ และแผ่เมตตาให้ศัตรู และแก่คนที่ก่อความทุกข์
ให้เธอ แล้วเธอก็พบว่า
'หัวใจฉันมีความอ่อนโยนมากขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้ฉันสามารถอยู่
ได้โดยไม่ต้องเกลียด'
เราไม่อาจควบคุมกำกับผู้คนให้ทำดี หรือไม่ทำชั่วกับเราได้ แต่เรา
สามารถควบคุมกำกับจิตใจของเราได้ เราไม่อาจเลือกได้ว่า รอบตัวเรา
ต้องมีแต่คนน่ารัก พูดจาอ่อนหวาน แต่เราสามารถเลือกได้ว่า จะทำใจ
อย่างไร เมื่อประสบกับสิ่งไม่พึงปรารถนา
คิมฟุค ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองว่า
'ฉันน่าจะโกรธ แต่ฉันเลือกอีกทางหนึ่ง แล้วชีวิตฉันก็ดีขึ้น'
บทเรียนของคิมฟุค คือ ในเมื่อเราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ เราจึงไม่ควร
ปักใจอยู่กับอดีต แต่เราสามารถเรียนรู้ จากอดีตเพื่อทำปัจจุบันและอนาคต
ให้ดีขึ้นได้ บทเรียนจากอดีตอย่างหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้มาก็คือ
การอยู่กับความโกรธ เกลียด
และความขมขื่น นั้น ทำให้เธอเห็นคุณค่าของการให้อภัย
ขอบคุณ...โอเคเนชั่น