อีกมิติของความรัก
ความรักไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกเท่านั้น
แต่ยังประกอบด้วยผู้มีความรักและสิ่งหรือบุคคลที่ถูกรักเราไม่สามารถรักโดยไม่มีสิ่งที่ถูกรักได้ ปัญหาที่หมุนวนอยู่ในตัวเราคือ ไม่ใช่ว่าเรารักอะไร แต่เรารักสิ่งต่าง ๆ นั้นอย่างไร เราแสดงออกซึ่งความรักนั้นอย่างไรความรักเป็นสิ่งสวยงาม ก่อเกิดพลังช่วยที่สร้างความอบอุ่นในจิตใจและเป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ หรือเท่า ๆ กับที่ก่อเกิดพลังทำลายความรักแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธและเกลียดด้วยเงื่อนไขปัจจัยอะไรด้านหนึ่งของความรักสัมพันธ์ใกล้ชิดกับความหลง ความต้องการเพื่อเสพเพื่อยึด ครอบครองสิ่งที่ถูกรัก ด้วยสัญชาตญาณพื้นฐานของทุกคนคือความต้องการสืบทอดเผ่าพันธุ์ สืบทอดและสนองปรนเปรอตัวตน มิติของความรักเช่นนี้จึงเจือปนด้วยความรู้สึกสุข ทุกข์ผสมผสานกันไปรวมถึงความขาดพร่องที่ต้องอาศัยการสนองตอบ การหาสิ่งภายนอกมาเติมเต็มซึ่งต้องพัวพันกับความผิดหวัง สมหวัง แต่ถึงที่สุดก็คือ ความรักเช่นนี้ไม่เคยเต็มอิ่ม
แต่ในอีกมิติหนึ่งของความรัก คือ
ความรู้สึกอ่อนโยนถึงความเมตตากรุณาอันเป็นความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต ปิติความรักอันเป็นความกรุณานี้มีความมั่นคง เต็มอิ่มสมบูรณ์ในตัว ไม่ต้องการและไม่เรียกร้องสิ่งใด มีแต่ความปรารถนาให้เกิดสันติสุข เพราะทั้งอากาศ ผืนดิน ท้องฟ้ามิตรหรือศัตรู ต่างล้วนเป็นส่วนหนึ่งในตัวเรา เท่าๆ กับที่ตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งเพราะต่างล้วนผสมผสาน เชื่อมโยงซึ่งกันและกันเช่นเดียวกับเมื่อแขนข้างขวาของเราเจ็บปวด แขนซ้ายก็จะช่วยประคับประคองไม่มีการแบ่งแยกใดๆ ชั่วขณะของความรักเช่นนี้เกิดขึ้นในจิตใจของเราทุกคนได้ เพียงแต่เราได้สังเกตเห็นและมีสติ นิ่งเพื่อสัมผัสมิติความรักนี้บ้างหรือไม่ เพราะโดยส่วนใหญ่เรามักคุ้นชินกับความรักที่เจือปนด้วยความหลง ความยึดติด ด้วยตัวตนที่เรียกร้อง ตัวตนที่ต้องการสิ่งสนองตอบ
ตราบที่เราเป็นปุถุชน แต่ละชั่วขณะของชีวิตเราต้องเผชิญกับการเลือก ซึ่งหมายถึง
การทุ่มเทพลังชีวิตเพื่อความรัก ความมั่งคั่งหรือความสำเร็จ เราเลือกอะไร เลือกอย่างไร ขึ้นอยู่กับความเป็นตัวตนของเรานั้นโง่เขลา เฉลียวฉลาด หลอกลวง ซื่อสัตย์ ฯลฯ ภารกิจเพื่อศึกษาเรียนรู้ตัวตนเพื่อเท่าทัน เบื่อละวางตัวตนที่โง่เขลา เพื่อบ่มเพาะตัวตนที่เจริญพร้อมด้วยคุณธรรม เพื่อเข้าถึงความรักที่เป็นความกรุณา รอคอยทุกท่าน การเลือกนี้เราเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินใจเลือก มันเป็นภารกิจของท่านเอง
จาก “เครือข่ายพุทธิกา:เพื่อพระพุทธศาสนา
ยโสธไรภิกขุ