มีเรื่องเล่าว่า… มีพระองค์หนึ่ง…ชอบทำอะไรแปลกๆ…
วันหนึ่ง…พวกกรุงเทพฯ…เอากฐินไปทอดที่วัด…
จัดงานกันใหญ่โต…มีหนัง…มีลิเก…มีดนตรี…ผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน…
ก่อนทอดกฐิน..ผู้คนมารวมกันเต็มศาลา…
หลวงพ่อเรียกเด็กวัดมา…
บอกให้ไปเอาเนื้อจากโรงครัวมาก้อนหนึ่ง…แล้วเอาเชือกมาด้วย…
หลวงพ่อจัดการ…เอาเนื้อ…ผูกติดกับหลังหมา…
ผูกเสร็จ…ก็ปล่อยหมา …
หมาเห็นเนื้ออยู่บนหลัง…ก็ไล่งับ…
พอหัวโดดงับ…ตัวก็ขยับหนี…
เพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง…
ยิ่งโดดงับเร็ว…ก้อนเนื้อก็หนีเร็ว…
โดดไม่หยุด…เนื้อก็หนีไม่หยุด…น่าสงสารหมามาก…
หมาโดดอยู่นาน…งับเท่าไหร่…เนื้อก็ไม่เข้าปากสักที…
ผู้คนบนศาลา…พากันหัวเราะชอบใจ…
หัวเราะเยาะหมา…ว่าทำไมมันถึงโง่ยังงี้…
ไล่งับ…จะกินเนื้อ…ที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตามทัน ตลอดชีวิต…
หลวงพ่อ…มองดูด้วยความสนุกสนานจนหนำใจแล้ว…
ก็แก้เชือกออกมากหลังหมา…
แล้วหันมาพูดกับญาติโยมว่า…
ต้องเติมตลอดเวลา…เติมไม่หยุด…เพื่อให้ตัวเองเต็ม…
อยากสวย…อยากทันสมัย…
ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุด…ทันสมัยที่สุดใส่…
ดีใจได้เดือนเดียว…มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว…สวยกว่า…ทันสมัยกว่า…
อยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่…
ซื้อเสร็จ ๓ เดือน…รุ่นใหม่ก็โผล่มาอีกแล้ว…
ซื้อคอมพิวเตอร์ทันสมัยที่สุด…
๒ เดือนต่อมา…มีรุ่นใหม่กว่าออกมา…ของเราตกรุ่น…
ซื้อรถเบนซ์…ทันสมัยที่สุด…แพงมาก…
ขับได้ ๖ เดือน…มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว…
ทันสมัยกว่า…แพงกว่า…ของเรากลายเป็นเชย…
เราต้องก้มหน้าก้มตา…ทำงานทั้งวัน ทั้งคืน…หาเงินมา…
เพื่อมาทำให้ตัวเองทันสมัย…
ซื้อเสื้อผ้าใหม่…มือถือใหม่…คอมพิวเตอร์ใหม่…รถยนต์คันใหม่…
เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส…
เพื่อไม่ให้ตัวเองตกรุ่น…
ปัจจุบัน…
เรากำลังไล่งับความทันสมัย…เหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมัน…
ทั้งที่รู้ว่า…ต่อให้ไล่งับทั้งชีวิต…ก็ไม่มีทางตามทัน…
น่าสงสารไหมโยม….”
คนเต็มศาลา…เมื่อกี้หัวเราะครึกครื้น…
ด่าว่า…หมามันโง่…
ตอนนี้เงียบสนิท…เหมือนไม่มีคนอยู่…
ไม่รู้ว่า…กำลังสงสารหมา…
หรือ…กำลังทบทวนความโง่…ตัวเอง