สุนัขและแมว ต่างก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่คนเราเลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อน คลายเหงา คลายเครียด เจ้าของบางคนใส่ใจดูแลเป็นพิเศษราวกับเป็นลูกหลาน จึงไม่แปลกที่จะแสดงความรักด้วยการสัมผัสใกล้ชิด หอมกอด คลอเคลียใกล้ๆ บริเวณใบหน้า ด้วยความรักบางทีก็มีจูจุ๊บกันบ้าง
ซึ่งการสัมผัสที่ใกล้เกินไปแบบนี้เองที่สามารถทำให้เจ้าของเกิดอาการตาอักเสบได้ และไม่ว่าจะรู้สาเหตุที่แท้จริง หรือไม่คิดโทษสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ‘มุมสุขภาพ’ มีคำอธิบาย
โรคร้ายที่แฝงมากับความรู้สึกดีๆ ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงที่มักจะสัมผัสใกล้ชิดนั่นคือ แบคทีเรีย พาสตูเรลลา เพสติส เชื้อโรคที่อยู่ในช่องปากของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ติดได้ทางน้ำลายและทางลมหายใจของสัตว์ เช่น หากผิวหนังของคนเรามีแผล หรือรอยข่วน แล้วสุนัขหรือแมวมาเลียแผล เชื้อดังกล่าวก็จะเข้าไปทางกระแสเลือด ทั้งนี้การติดเชื้อที่พบได้บ่อย คือ การกอด การหอม สุนัขหรือแมวอย่างใกล้ชิด ทำให้คนเราสูดลมหายใจของสัตว์เลี้ยงเข้าไป
คนที่ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงมากๆ แทบทุกคนได้รับเชื้อ แต่บางคนเชื้อพาสตูเรลลา เพสติส เข้าสู่ร่างกายแล้วไม่ทำให้ล้มป่วย จะเรียกว่า ภาวะฟลอร่า หรือเชื้อที่เป็นผู้อาศัยแต่ไม่ทำอันตรายร่างกาย
ตรงกันข้าม หากเจ้าของร่างกายไม่แข็งแรง ภูมิคุ้มกันต่ำ เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือป่วยด้วยโรคต่างๆ อยู่แล้ว เชื้อนี้สามารถทำให้ป่วย โดยเริ่มจากมีอาการคล้ายคนเป็นหวัด ไอ จาม คัดจมูก และมักจะทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด คิดว่าเป็นเพียงโรคหวัด จึงรักษาตัวตามอาการที่ปรากฏด้วยการกินยาแก้หวัดแล้วพักผ่อน
ทว่าไม่นานอาการจะยิ่งรุนแรง เช่น มีอาการไอหนักขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถนอนหลับได้ ที่สุดก็ต้องไปพบแพทย์และมักตรวจพบการอักเสบรุนแรงที่ปอด หลอมลม รวมไปถึงบริเวณดวงตา ทำให้บวมและอักเสบ เนื่องจากเชื้อโรคชนิดนี้แพร่เข้าไปยังอวัยวะดังที่กล่าว
อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อชนิดนี้จากสัตว์เลี้ยงนั้นสามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาเพนนิซิลิน เตตร้าไซคลิน และไม่ใช่โรคที่รุนแรงถึงขั้นทำเสียชีวิต นอกเสียจากผู้ป่วยมีโรคร้ายแรงอื่นๆ คุกคามสุขภาพอยู่ด้วย
หากรู้ตัวว่ากำลังไม่สบาย อ่อนเพลีย ควรเว้นระยะห่าง เลี่ยงการใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงในระยะหายใจรดกันเสียหน่อย อย่างน้อยก็เพื่อป้องกันเชื้อพาสตูเรลลา เพสติส ทำให้เจ้าของยิ่งป่วยไปกันใหญ่ รอให้แข็งแรงเต็มที่ แล้วจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันก็ตามสบาย.